สวัสดีครับทุกคน วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ตรงๆ เลยนะ เกี่ยวกับ PalFish เนี่ย มันคืออะไรกันแน่ หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อผ่านๆ หรือเห็นโฆษณาบ้าง ผมเองก็เหมือนกัน ตอนแรกก็สงสัยอยู่พักใหญ่ เลยตัดสินใจลองไปค้นคว้าดูแบบจริงจังเลยครับ
เรื่องมันเริ่มจากเพื่อนผมคนนึง ลูกแกอยากเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี ผมก็เลยอาสาไปช่วยดูให้หน่อย กะว่าจะหาข้อมูลให้ละเอียดเลย
สำรวจเบื้องต้น มันเป็นยังไงนะ?
ตอนแรกที่ได้ยินชื่อ PalFish เนี่ย ผมก็เอ๊ะ มันคืออะไรวะ? ก็เลยเริ่มจากกูเกิลเลยครับ พิมพ์ชื่อไปตรงๆ ก็เจอข้อมูลขึ้นมาเพียบ ส่วนใหญ่จะบอกว่าเป็นแอปพลิเคชันสอนภาษาอังกฤษออนไลน์สำหรับเด็ก เน้นเด็กเล็กๆ เลย มาจากประเทศจีน ดูจากหน้าตาแอปที่เห็นผ่านๆ ก็สีสันสดใสดีนะ มีตัวการ์ตูน มีเกมอะไรแบบนี้ ดึงดูดเด็กๆ น่ะครับ
ผมก็ลองโหลดแอปมาดูคร่าวๆ (ยังไม่ได้ให้ใครสมัครเรียนนะ แค่ดูเฉยๆ) ก็เห็นว่ามีครูต่างชาติเยอะแยะเลย ส่วนใหญ่เป็น Native Speakers มาสอนผ่านแอปนี่แหละ รูปแบบการสอนก็ดูเหมือนจะเป็นแบบตัวต่อตัว หรือกลุ่มเล็กๆ แล้วแต่คอร์สที่เลือก เพื่อนผมก็สนใจใหญ่เลย เพราะลูกแกยังเล็ก คิดว่าน่าจะชอบอะไรแบบนี้
ลงลึกไปอีกหน่อย เจออะไรบ้าง?
ทีนี้พอเริ่มสนใจจริงจัง ผมก็เลยลองไปสืบข้อมูลจากคนที่เคยใช้งานจริง ทั้งฝั่งผู้ปกครองที่ให้ลูกเรียน ทั้งฝั่งคนที่เคยไปสมัครเป็นครูสอน (อันนี้เผื่อใครอยากหารายได้เสริม) ก็พบว่ามันมีรายละเอียดเยอะเหมือนกันนะ
- สำหรับเด็กๆ: ก็ดูเหมือนจะสนุกดีครับ มีกิจกรรม มีเพลง มีเกมประกอบการสอน ทำให้เด็กไม่เบื่อ แต่ก็ต้องดูด้วยว่าลูกเราสมาธิสั้นมั้ย เพราะเรียนออนไลน์มันก็อาจจะมีสิ่งรบกวนง่ายกว่าเรียนในห้อง
- สำหรับคนอยากเป็นครู: ก็มีขั้นตอนการสมัคร การทดสอบภาษา การเตรียมโปรไฟล์ต่างๆ ค่าตอบแทนก็แล้วแต่ประสบการณ์และคุณสมบัติของเรา บางคนก็บอกว่าโอเค บางคนก็บอกว่าน้อยไปนิด ก็ต้องลองชั่งใจดู
- สิ่งที่ต้องพิจารณา: เรื่องเวลาเรียนก็สำคัญ เพราะครูส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ เวลาอาจจะไม่ตรงกับเราเท่าไหร่ ต้องปรับจูนกันดีๆ แล้วก็เรื่องความเสถียรของอินเทอร์เน็ต อันนี้สำคัญมากทั้งสองฝั่งเลยครับ
ตอนที่ผมค้นข้อมูล PalFish เนี่ย ผมก็แอบไปดูแพลตฟอร์มอื่นๆ เปรียบเทียบด้วยนะ อย่าง 51Talk ก็เป็นอีกเจ้าที่เห็นคนพูดถึงกันเยอะเหมือนกัน แต่ละที่ก็มีจุดเด่นจุดด้อยต่างกันไป บางที่เน้นครูฟิลิปปินส์ บางที่เน้นครูจากโซนอเมริกาหรือยุโรป หลักสูตรก็อาจจะแตกต่างกันบ้าง
ผมใช้เวลาอยู่หลายวันเลยครับในการรวบรวมข้อมูล อ่านรีวิว ดูคลิปวิดีโอตัวอย่างการสอน คืออยากให้เพื่อนได้ข้อมูลที่ครบถ้วนที่สุดจริงๆ เพราะการเลือกที่เรียนให้ลูกมันก็เรื่องใหญ่อยู่นะ บางคนอาจจะมองว่า PalFish ตอบโจทย์เรื่องความสนุกสนานและราคาที่เข้าถึงง่าย ในขณะที่บางคนอาจจะมองหาหลักสูตรที่เข้มข้นกว่า หรือต้องการครูที่มีสำเนียงเฉพาะเจาะจง ซึ่งแพลตฟอร์มอย่าง 51Talk ก็อาจจะมีตัวเลือกที่แตกต่างออกไปให้พิจารณา
สรุปจากที่ลองคลุกคลีมา
หลังจากที่ได้ลองไปส่องๆ ดู ช่วยเพื่อนหาข้อมูล จนลูกเพื่อนได้ลองเรียนไปบ้าง (เพื่อนผมตัดสินใจลอง PalFish ก่อน เพราะลูกชอบตัวการ์ตูนในแอป) ก็พอจะบอกได้ว่า PalFish มันก็เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มสอนภาษาออนไลน์ที่น่าสนใจสำหรับเด็กเล็กนะครับ ด้วยรูปแบบที่เน้นความสนุกสนานเป็นหลัก
แต่ก็เหมือนทุกอย่างแหละครับ มันมีทั้งข้อดี ข้อด้อย ที่เราต้องไปชั่งน้ำหนักเอาเอง ไม่มีอะไรดีที่สุดสำหรับทุกคนหรอก สิ่งสำคัญคือต้องดูว่ามันตอบโจทย์ความต้องการของเราและลูกเราหรือเปล่า งบประมาณเราไหวมั้ย ลูกเราเรียนแล้วแฮปปี้มั้ย อันนี้สำคัญสุด
ใครที่กำลังมองหาที่เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ให้ลูก ผมว่าลองศึกษาข้อมูล PalFish ดูก็ไม่เสียหาย แต่ก็อย่าลืมเปรียบเทียบกับเจ้าอื่นๆ ด้วย อย่างที่ผมบอกไปตอนต้นว่ามีหลายแพลตฟอร์มในตลาด ทั้ง 51Talk หรือเจ้าอื่นๆ อีกมากมาย ลองดูให้รอบด้านก่อนตัดสินใจครับ บางทีการได้ทดลองเรียนสั้นๆ ก่อนก็เป็นทางเลือกที่ดี จะได้รู้ว่าคลิกกันรึเปล่า
สุดท้าย เพื่อนผมก็ยังให้ลูกเรียนกับ PalFish อยู่นะครับ แม้จะมีบ่นๆ บ้างเรื่องจองคิวครูคนโปรดยาก หรือบางทีลูกก็ไม่ค่อยมีสมาธิ แต่โดยรวมเขาก็โอเค เพราะลูกดูสนุกกับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษมากขึ้น ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีครับ ส่วนตัวผมเองก็ถือว่าได้ความรู้ใหม่ๆ เยอะเลยจากการไปสืบเสาะเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟังครับ!