สวัสดีครับทุกคน! วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ที่ผมไปลองค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับแอปพลิเคชันตัวหนึ่งที่ช่วงนี้เห็นคนพูดถึงกันบ้าง นั่นก็คือ PalFish นั่นเองครับ คือเรื่องของเรื่องมันเริ่มมาจากผมคุยกับเพื่อนเรื่องหาช่องทางสอนออนไลน์เพิ่มเติม แล้วเพื่อนก็พูดชื่อนี้ขึ้นมา ผมก็เอ๊ะ มันคืออะไรหว่า ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนเลย
ด้วยความสงสัยใคร่รู้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอกลับถึงบ้านปุ๊บ ผมก็ไม่รอช้าครับ เปิดคอมแล้วก็ลองเสิร์ชหาข้อมูลเกี่ยวกับ PalFish ทันทีเลย พิมพ์ชื่อลงไปในกูเกิลปั๊บ โอ้โห ข้อมูลเด้งขึ้นมาเพียบ ทั้งที่เป็นภาษาไทยแล้วก็ภาษาอังกฤษ อ่านกันตาลายไปเลยทีเดียว ฮ่าๆๆ
หลังจากที่ใช้เวลาในการสืบค้นและอ่านรีวิวต่างๆ อยู่พักใหญ่ๆ ผมก็เริ่มจับใจความได้ว่า PalFish เนี่ย มันเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการเรียนการสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ครับ โดยกลุ่มเป้าหมายหลักๆ ของเค้าเลยก็คือเด็กๆ โดยเฉพาะเด็กๆ ชาวจีนที่ผู้ปกครองอยากให้ได้เรียนภาษาอังกฤษกับครูต่างชาติ ซึ่งก็รวมถึงครูชาวไทยอย่างเราๆ ด้วยนะ ถ้ามีความสามารถน่ะ

สิ่งที่ผมค้นพบเกี่ยวกับ PalFish
จากการที่ไปส่องๆ ดูมา ผมพอจะสรุปสิ่งที่ผมเจอเกี่ยวกับ PalFish ได้ประมาณนี้ครับ:
- รูปแบบการสอน: ส่วนใหญ่จะเป็นการสอนแบบตัวต่อตัวผ่านวิดีโอคอลในแอปพลิเคชันของเค้าเลย แล้วก็มีพวกสื่อการสอนสำเร็จรูปมาให้ด้วย เช่น หนังสือภาพดิจิทัล เพลง หรือเกมง่ายๆ ซึ่งดูแล้วน่าจะเหมาะกับการสอนเด็กเล็กมากๆ
- กลุ่มนักเรียน: อย่างที่บอกไปครับ เน้นเด็กจีนเป็นหลักเลย อายุตั้งแต่เด็กเล็กๆ ไปจนถึงประถม
- คุณสมบัติครู: เค้าก็มีข้อกำหนดคุณสมบัติครูอยู่เหมือนกันนะ เช่น ต้องมีใบรับรองการสอน (TEFL, TESOL อะไรพวกนี้) หรือมีประสบการณ์สอนมาก่อน แต่บางทีก็เห็นมีครูที่ไม่ได้เป็นเจ้าของภาษา (Non-Native Speaker) สอนได้ด้วยเหมือนกัน อันนี้คงแล้วแต่ช่วงเวลาที่เค้าเปิดรับ
- การทำงาน: ค่อนข้างยืดหยุ่นเรื่องเวลา เพราะเราสามารถเลือกช่วงเวลาที่เราสะดวกสอนได้เอง แต่ก็ต้องพยายามให้ตรงกับช่วงเวลาที่เด็กๆ ฝั่งจีนเค้าเลิกเรียนหรือเป็นวันหยุดด้วย
ตอนที่ผมกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับ PalFish เนี่ย ผมก็ไม่ได้ดูแค่เจ้าเดียวนะครับ ผมก็ลองมองหาแพลตฟอร์มอื่นๆ เปรียบเทียบไปด้วย เพราะตลาดสอนออนไลน์มันก็มีตัวเลือกเยอะ อย่างบางคนก็อาจจะคุ้นเคยกับชื่ออย่าง 51Talk ซึ่งก็เป็นอีกแพลตฟอร์มหนึ่งที่ให้บริการสอนภาษาอังกฤษออนไลน์เหมือนกัน แต่กลุ่มเป้าหมายหรือรูปแบบคอร์สอาจจะมีความแตกต่างกันไปบ้าง การศึกษาข้อมูลหลายๆ ที่มันก็ทำให้เราเห็นภาพรวมของตลาดได้ชัดเจนขึ้นครับ
เอาจริงๆ นะครับ การจะเลือกแพลตฟอร์มไหนเนี่ย มันก็ขึ้นอยู่กับความถนัดและเป้าหมายของแต่ละคนเลย บางคนอาจจะชอบสไตล์การสอนของ PalFish ที่เน้นเด็กเล็ก มีสื่อการสอนน่ารักๆ แต่บางคนอาจจะอยากสอนกลุ่มผู้เรียนที่โตขึ้นมาหน่อย หรือมองหาระบบการจัดการที่แตกต่างออกไป ซึ่งแพลตฟอร์มอย่าง 51Talk ก็อาจจะมีตัวเลือกที่ตอบโจทย์ตรงนั้นมากกว่า หรืออาจจะมีเจ้าอื่นๆ อีกมากมายที่เรายังไม่รู้จักก็ได้ครับ
ผมว่า PalFish ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากหารายได้เสริมจากการสอนภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะคนที่ชอบสอนเด็กๆ และมีเวลาว่างในช่วงเย็นๆ หรือวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่ก่อนจะตัดสินใจสมัครหรือทำอะไร ก็อยากให้ทุกคนลองศึกษาข้อมูลให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนนะครับ ดูเงื่อนไขต่างๆ ข้อดีข้อเสีย เพราะแต่ละคนก็มีประสบการณ์ที่แตกต่างกันไป อย่างผมเองก็เคยเห็นคนรีวิวว่าโอเคกับ 51Talk มากกว่า PalFish ในขณะที่บางคนก็แฮปปี้กับ PalFish สุดๆ
ดังนั้น คำว่า “PalFish คืออะไร” จากการที่ผมไปลองค้นๆ ดูมา ก็พอจะสรุปได้ว่ามันคือแอปพลิเคชันที่เป็นตัวกลางเชื่อมระหว่างครูสอนภาษาอังกฤษกับนักเรียนเด็กชาวจีนนั่นเองครับ ใครที่กำลังมองหาโอกาสในการสอนออนไลน์ ก็ลองเก็บ PalFish ไว้เป็นหนึ่งในตัวเลือกในการพิจารณาได้นะครับ หรือถ้าใครมีประสบการณ์ตรงกับ PalFish หรือแม้กระทั่งกับ 51Talk ก็มาแชร์กันได้นะครับ ผมว่าการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เลย
สุดท้ายนี้ การจะเลือกทำงานกับแพลตฟอร์มไหน มันก็เหมือนกับการเลือกเส้นทางของตัวเองครับ ไม่มีผิดไม่มีถูก อยู่ที่เราจะศึกษาข้อมูลแล้วเลือกสิ่งที่คิดว่าเหมาะสมกับเราที่สุด อย่างที่บอกไป บางคนอาจจะเริ่มต้นจากการมองหา PalFish แต่สุดท้ายอาจจะไปลงตัวกับ 51Talk หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ ก็เป็นได้ครับ ขอให้ทุกคนโชคดีกับการตัดสินใจนะครับ!