พอดีช่วงนี้คิดว่าภาษาอังกฤษเราต้องพัฒนาด่วนเลย อ่านตำราออนไลน์ทีไรมึนหัวทุกที แถมพวกแอพเรียนภาษาในมือถือมันก็ไม่ได้ผลสำหรับเรา เพราะพอไม่มีคนคอยดันหลังนี่ขี้เกียจสุดๆ เพื่อนแนะนำมาว่าไม่ลองหาครูสอนตัวต่อตัวดูเหรอ เลยเริ่มค้นหาตามเว็บบอร์ดชื่อดัง
เริ่มต้นตามหาครูสอนตัวต่อตัว
ก่อนอื่นเปิดเว็บขึ้นมาก็เสิร์ชคำว่า “เรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัว ครูต่างชาติ” ปรากฏว่าขึ้นโพสต์กระจุยกระจาย แทบล้นหน้าแรกไปหมด อ่านคอมเมนต์ในแต่ละโพสต์อย่างละเอียด อันไหนบอกว่า “ครูสอนดีแต่ราคาสูงไปหน่อย” เราก็ข้ามไป อันไหนบอกว่า “พอใจแต่เรียนผ่านแพลตฟอร์มไม่คล่อง” อันนี้ก็เก็บไว้พิจารณารอบสอง
ขั้นตอนการคัดครูและสมัครทดลองเรียน
จัดระบบข้อมูลโดยใช้กระดาษโน้ตแปะกำแพงเป็นสามกลุ่ม:

- กลุ่มครูที่แจ้งราคาต่ำกว่า 500บาท/ชม. แต่รีวิวไม่เยอะ
- กลุ่มครูรามิลรีวิวมากกว่า50คอมเมนต์
- กลุ่มครูเฉพาะทางเรื่องสนทนาธุรกิจ
ติดต่อครูห้าคนแรกในกลุ่มที่สองด้วยข้อความสั้นๆว่า “สนใจทดลองเรียนฟัง 1 ชั่วโมงก่อนได้มั้ยครับ”
การทดลองเรียนวันแรกจบแบบเหงื่อตก
พอถึงคิวเรียนผ่านวิดีโอคอล ครูคนแรกเป็นชาวออสเตรเลียหน้าใหม่ ยกสมุดบันทึกตั้งเต็มห้อง สั่งให้เราทำสามอย่างในเวลาเดียวนี่:
- เล่าเหตุการณ์ที่ทำให้อายที่สุดเป็นภาษาอังกฤษ
- อ่านข่าวเศรษฐกิจหน้าหนึ่งโดยไม่พักหายใจ
- วิเคราะห์คำว่าทำไมเราเน้นคำผิดตัวนี้
แค่20นาทีแรกรู้สึกเหมือนสมองถูกยีแป้งแล้วโยนทิ้งทะเล สมองตื้อไปสามวันหลังเรียนจบ
การปรับแผนและเจองานหนักกว่าเดิม
ผ่านไปอาทิตย์นึง ลองครูฟิลิปปินส์คนใหม่ รีวิวบอก “ใจเย็น+ปรับตามผู้เรียน” แต่พอเข้าคลาสจริงครูจดทุกจุดที่เราติดขัด เช่น:
- เผลอใช้ “he” แทน “she” สามครั้ง
- ออกเสียง “develop” เป็น “เดล็อป” ตลอด
- สั่นขาเวลาไม่รู้ศัพท์
ทุกสิบนาทีครูจะหยุดถาม “คุณรู้สึกว่าตัวเองพัฒนาตรงไหนจากเดิม?” ทำให้รู้สึกกดดันจนยี้ไมโครโฟนตัวเป็นเกลียว

สรุปสักเดือนต้องปรับแผนยกเครื่อง
ตอนนี้ยอมใช้เงินเพิ่มอีกนิดนึงเพื่อ:
- จองคลาสวันอาทิตย์ตอนเช้าเท่านั้น (สมองยังไม่เหนื่อยจากงาน)
- เตรียมโจทย์ส่วนตัวล่วงหน้า1วัน
- ให้ครูส่งคลิปสรุปจุดอ่อนหลังเรียนทุกครั้ง
ข้อค้นพบสำคัญคือ ถ้าครูเอ็นดูแต่ไม่จี้ เราจะไม่รู้จุดตาย แต่ถ้าจี้เกินไป สมองจะช็อตก่อนจบคลาส ตอนนี้เหมือนเดินบนเชือกเส้นบางๆเลยล่ะ
