พูดตรงๆนะ ตอนเริ่มฝึกภาษาอังกฤษเนี่ย รู้สึกปึ้กมากเหมือนกัน เคยได้แต่ท่องศัพท์ไปสอบในห้องครึ่งๆกลางๆ แต่อ๊ะ! เปลี่ยนเลยตอนเจอประกาศทุนเรียนต่ออเมริกาที่มหา’ลัยดัง พี่เขานี่โหด…คะแนน TOEFL อยากได้ 90+
มึนตึ้บ! ต้องเริ่มยังไงดี?
ตื่นมาก็ไม่รู้จะไปทางไหนก่อน ซื้อแบบฝึกหัดเล่มเท่าหนังสือโทรศัพท์มาทั้ง TOEFL กับ IELTS แบบจัดเต็ม อาทิตย์แรกเป็นอะไรที่ห่วยแตกสุดๆ ทำข้อสอบ reading นี่อ่านไปสองบรรทัดก็เริ่มง่วง ฟัง listening เหมือนคนพูดกลืนน้ำ
- วันแรก: ตั้งเป้าท่องศัพท์วันละ 30 คำ ตอนเที่ยงคำว่า “ambiguous” ยังจำไม่ได้
- อาทิตย์แรก: ยอมลดเหลือวันละ 10 คำจริงจัง + หัดเขียนคำพวกนี้ลงโพสต์อิทแปะเต็มกระจกในห้องน้ำ
- ได้วิธีพัง: เวลาอาบน้ำก็ตะโกนอ่านศัพท์กับตัวอย่างประโยคเสียงดังๆจนแม่บ้านนอกห้องตกใจ!
โดน Listening ทับถม!!
ตอนสอบ mock test ครั้งแรกเนี่ย listening นะ…พังไม่เป็นท่า! รู้สึกเหมือนหมาบ้า พอกะเอาว่าเตรียมตัวมาดีแล้วนะ แต่พอได้ยินสำเนียงบริติชแบบโหดๆนี่สมองดับ! เลยเปลี่ยนเกมไปดูคลิปบนยูทูบ (ปกติไม่กล้าบอกคนอื่นนะ) วิธีแปลกๆที่เราใช้คือ:

1. เปิดการ์ตูนฝรั่งเรื่องโปรด – พาร์ทแรกเปิดซับไทย
พาร์ทสองเอากระดาษบังซับ! บังคับให้ฟังอย่างเดียว หนังเรื่องนึงต้องดูซ้ำแบบนี้เป็นสามรอบแหนะ แต่อาทิตย์นึงผ่านไปเริ่มจับทางสำเนียงเขารู้เรื่อง
2. หาแฟนคลับต่างชาติในทวิตเตอร์
แกล้งทำเป็นร๊อคสตาร์นะ! เราแอคทวิตเตอร์ใหม่แล้วไปทิ้งคอมเมนต์ใต้ทวิตคนดังฝรั่งที่เราชอบ ตอนแรกพิมพ์คอมเมนต์ยากมาก ต้องเปิดดิกทุกคำ แค่เขียนว่า “OMG this slays!” ใช้เวลาเป็นสิบนาที! (ฮา)
Speaking หินโคตร! จะร้องไห้แล้ว
นี่แหละจุดตายตัวดี! ครั้งแรกที่เข้าคลาสสดกับครูต่างชาติ อ้าปากไม่ติดหรอก…แต่มันพูดไม่ออก! คำมันติดอยู่ในคอ ตาลาย หัวว่างเปล่า ครูถามแค่ว่า “How’s your weekend?” ทำเรามึนไปห้าวินาที ทนไม่ไหวเลยต้องไปสมัครตัวเป็นเพื่อนคู่หูกับฝรั่งที่มาทำงานในร้านกาแฟแถวบ้าน
- อาทิตย์แรก: ยืนสั่งกาแฟเขาก็ยังไม่กล้าสบตา
- อาทิตย์สาม: กล้าถามแมวของเขา “Does your cat like to cuddle?” ไปได้!
- เคล็ดลับตัวร้าย: บอกเขาตรงๆว่าเรากำลังฝึกสอบ ขอให้ช่วยแก้แกรมม่าเวลาเราพูดผิดด้วย เขายินดีช่วยเลยแถมชาให้ฟรี!
โดนข้อสอบจริงทรหด!
ถึงเวลาสอบ TOEFL จริงๆนี่ ขนลุก! พาร์ท speaking แค่เห็นนาฬิกานับถอยหลังก็ใจจะ跳出แล้ว จำได้ว่าโจทย์เรื่อง recycling เราตอบเหมือนคนเมายาสีฟัน! บ่นตะกุกตะกัก แต่สุดท้ายก็รวบรวมสติได้…นึกถึงเวลาไปฝึกที่ร้านกาแฟนั่นแหละ! แกล้งทำว่ากำลังคุยกับบาริสต้า ก็เลยยิ้มแป้นๆแล้วพ่นออกมาให้จบ

ผลลัพธ์ที่แทบไม่เชื่อ!
กว่าสามเดือนก้มหน้าก้มตา…วันนั้นเห็นคะแนน TOEFL 93 อึ้งไปสิบวิ! ที่ฮือฮากว่าคือเวลาส่งใบสมัครไปมหาวิทยาลัยเป้าหมายในรัฐฮาวาย เค้าไม่แค่ตอบรับนะ…แต่ให้ทุนบางส่วนมาด้วย! ตอนนี้เรียนเอก Environmental Science อยู่ปีสองแล้ว แค่จากคนที่พูดไม่ออกจนครูอึ้งมาเป็นอย่างนี้ได้
สรุปคร่าวๆก็คือ: อย่าแพ้! หาเป้าหมายใหญ่หน่อยแล้วตีแผ่ว่าอ่อนตรงไหนก็แก้ตรงนั้น ร้านกาแฟหรือการท่องศัพท์ตอนอาบน้ำเนี่ยมันเวิร์คนะ…เชื่อพี่.
