คือเราเริ่มจากพื้นฐานแย่มากอ่ะ พูดอังกฤษไม่เป็นเลย ตอนเห็นฝรั่งทีไรเป็นลมทุกที กลัวสุดๆ แต่เราอยากพูดได้ เลยลองวิธีฟรีๆ ดู
อาทิตย์แรกนี่ห่วยแตกชัดๆ
- เริ่มจากแอป HelloTalk มั่วๆ โหลดมากดสุ่มคุย ถ้าฝรั่งทักมาเราก็สะดุ้ง จะพิมพ์ตอบยังไงก็ไม่รู้ คิดนานเป็นชั่วโมง สุดท้ายส่งไปแค่ “ok” กับ “thank you” ฝรั่งคงงว่าทำไมเป็ดมาเล่นแชท
- แอบฟังฝรั่งที่สวนสาธารณะ คือยืนใกล้ๆ ต้นไม้ทำเป็นจับใบไม้แห้ง มองฟ้า มองนก ทั้งที่หูพยายามฟังฝรั่งคุยกัน แต่ได้ยินแค่เสียงหัวเราะกับคำว่า “like… like…” เองยังไม่เก็ตว่าฟังทำไม
- ถือป้ายบอกทาง ตอนไปเที่ยวเกาะ เตรียมป้ายมือเขียนว่า “FREE GUIDE” หวังให้ฝรั่งมาถาม ปรากฏว่าแดดเปรี้ยงๆ ยืนครึ่งวัน ฝรั่งเดินผ่านเฉย สุดท้ายกลับโรงแรมตัวดำเหมือนปลาหมึกย่าง
อาทิตย์แรกแทบถอดใจ รู้สึกตัวเองโง่มาก แต่ยังไม่ยอมแพ้!
อาทิตย์สอง-สามเริ่มเห็นไฟ
- ใช้วิธีเนียนกว่า – ทำอาหารแลก คือเราเป็นลูกครึ่งไทยนี่นะ เอาแม่ๆ มาทำส้มตำใส่ถุงซิปล็อค ไปนั่งที่หาดพัทยา ถือป้ายใหม่ “FREE SOMTAM FOR ENGLISH CHAT” คราวนี้มีฝรั่งมาเลย! คือเค้าอยากชิมน่ะ พอเปิดกล่องหมักกุ้งลอยขึ้น เค้าก็ร้อง “Oh my god!!!!” แล้วเรา… สมองตื้อเลย อ้าปากค้าง จำได้แค่ถามว่า “spicy ok?” สุดท้ายเจอฝรั่งเกาหลีมากินเงียบๆ ไม่พูดอะไร ฮือ
- แจกใบปลิวช่วยร้านกาแฟ คิดว่าอยู่ใกล้ๆ ร้านคงมีคนมา แต่แดดเผา รอตั้งนานมีฝรั่งเดินมาใกล้ๆ เรารีบโบกมือใส่หน้ามัน “HELLO SIR!!!” พูดเสียงดังกว่าเซ็นเตอร์ประกาศลดราคา ฝรั่งสะดุ้ง ถอยหลังสองก้าว ส่ายหน้าแล้วรีบเดินหนี สงสารเค้าจริงๆ
- ไปงาน meetup แลกภาษา ตอนแรกตื่นเต้นจะตาย เดินวนอยู่นอกร้านสามรอบกว่าจะเข้านะ พอเข้าไปนั่งตรงกลุ่มฝรั่ง ตอนเค้าถามว่า “Where you from?” เราตอบแบบหน้าเหม่อลอย “I… come… bicycle…” ตัวเองยังเกลียดความเงียบช่วงนั้น ฝรั่งทำตาเหล่ มองกันงงๆ
อาทิตย์สี่: ทันใดนั้นก็พลิก!
วันนั้นท้องเสียทั้งคืน ง่วงมากแต่ดันไปเจอ tourist police อิตาลีหลงทาง เค้าใช้มือฟัดหน้าแล้วถามว่า “Beach? Where?” คือเราแทบไม่อยากพูดหรอก แต่เห็นเค้าเครียดเลยพยายามขุดคำศัพท์จากความจำ แค่ชี้มือ+โยนคำง่ายๆ ว่า “go straight… turn left… blue hotel” เค้ายิ้มแล้วบอกขอบคุณเสียงดังมาก! ทั้งที่เรารู้ว่าการออกแบบผิดเพี้ยนแต่ฝรั่งเข้าใจ! ตอนนั้นรู้สึกว่าพระเจ้าส่งสัญญาณมาให้ไม่ยอมแพ้
อาทิตย์ที่ห้า-เจ็ด: ถือโอกาสซ้ำเลย
- ซื้อก๋วยเตี๋ยวใส่ชามโต ไปนั่งห้อยขาเป๋กๆ ตรงทางเดินท่องเที่ยว พอเจอฝรั่งดูสิ้นหวังก็ยกชามขึ้นพร้อมพยักหน้า “hungry?” เค้าทะลึ่งมาก มานั่งกินแล้วคุยแบบไม่เต็มปากเพราะมัวแต่ซดน้ำซุป เราได้ฝึกแค่ “good?” “more chili?” แบบจำเจ แต่คุยกับเจ็ดคนในวันเดียว ทั้งตัวเหม็นน้ำปลาและพริก
- ใช้วิธีเซอร์ๆ ของเพื่อน ติดกระดาษโน้ตคำศัพท์ไว้ที่แขนเวลาไปเที่ยว เช่น “cloudy today” “too hot!” ฝรั่งเห็นปุ๊บยิ้มปั๊บ แล้วก็ชี้ป้ายถามว่า “why you write there?” ได้คำถามมาเพิ่มเองโดยไม่ทันตั้งตัว
สรุปคือ 30 วันผ่านไป ไม่ได้พูดลื่นเหมือนลมกรดแน่นอน แต่ทักษะการฟังเราเพิ่มขึ้นมาก แถมความกลัวฝรั่งลดลง 70% จากเดิมหนีแบบสลัดหน้า ตอนนี้กล้าเดินเข้าไปทักแบบขำๆ ว่า “Hey! Want try stinky fruit?” คือถ้าจะให้ดีจริงต้องซ้อมอีกหลายเดือน… แต่จะบอกว่าถ้าเริ่มจากศูนย์แบบเรา เหมาะมาก! เจ็บหน่อยแต่ฟรีและสนุกนะ