พอดีช่วงโควิดเมื่อปี 2021 นี่ว่างมาก ไม่มีไรทำ นึกขึ้นได้ว่าภาษาอังกฤษตัวเองห่วยมาก เลยตัดสินใจหาที่เรียนออนไลน์ฟรีดูสักตั้ง เริ่มกูเกิ้ลหาแบบมั่วๆ พิมพ์ว่า “เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรี pantip” กลายเป็นว่าเข้าไปเจอพันทิบนี่แหละที่มีคนแชร์เพียบ
มึนตึ้บตอนแรก
พรวดเดียวเข้าไปในบอร์ดการศึกษาเพียบ หน้าต่างเบราว์เซอร์เปิดทับไว้สิบกว่าหน้า อ่านไปน้ำตาไหลไป เพราะมีคนแนะนำนู่นนี่เต็มไปหมด ทั้งเว็บบอร์ด ยูทูป แอพ เจอแบบนี้แค่เลือกว่าจะเริ่มตรงไหนก็ปวดหัวแล้ว
- คลิปยูทุป: เลือกไม่ถูกเลยกดดูทั้งพี่ทิปเก่ง eng เด็กบ้านนอกพูดคล่อง เคยเปิดไว้เป็นแบ็คกราวด์ตอนล้างจาน
- แอพ: โหลดมาลองสามสี่ตัว บางตัวสอนทีละคำศัพท์เหมือนเด็กอนุบาล แบบสอนว่า “apple – แอปเปิ้ล” หมดอารมณ์ไปเลย
- คอร์สออนไลน์: ในพันทิบมีคนให้ลิงค์คอร์สฟรีไว้เพียบ แต่พอคลิกไปดันโดนบังคับสมัครสมาชิกก่อน ต้องกรอกข้อมูลเป็นกองแถมโดนสแปมเมลละวันละสิบฉบับ
ดองไปพักนึงแล้วกลับมาลุยใหม่
หลังจากท้อไปอาทิตย์นึง พอดีเห็นกระทู้ในพันทิบชื่อ “ลงทุนเท่าไหร่ก็ไม่เจ๋งถ้าไม่ลงมือทำ” ตอนอ่านเสร็จรู้สึกโดนเลย พอวันที่สองเลยจัดตารางใหม่แบบจริงจัง

เริ่มจากเทสเสียงตัวเองก่อน ด้วยการอัดวิดีโอยิงภาษาอังกฤษสั้นๆไว้ในมือถือ ฟังตัวเองพูดแล้วขนลุก! สำเนียงเป๊ะเว่อร์แบบทหารเรือนี่นา แค่ประโยคง่ายๆแบบ “I eat rice” ยังพูดติดขัด
เลยปรับสูตรการเรียนใหม่:
- ช่วงเช้า: ดูคลิปสั้นๆ 5 นาทีในยูทูปโดยเลือกแบบมีซับไทย แล้วพยายามเลียนเสียงให้เหมือนเป๊ะ
- ตอนรถติด: ฟังพอดแคสต์เรื่องตลก มีดราม่า ดีกว่าเพลงเพราะได้ฝึกฟังสำเนียงธรรมชาติ
- ก่อนนอน: แวะเข้าพันทิบทุกคืน อ่านกระทู้พวกฝรั่งถาม-คนไทยตอบ ชอบตรงที่เห็นศัพท์ชีวิตประจำวันที่ตำราสอนไม่เคยมีแบบ “ขนมเบื้อง” จะพูดยังไง
ความปังที่คาดไม่ถึง
พอลองทำมาได้สามเดือนแบบไม่เครียดเกิน เคยเจอฝรั่งหลงทางที่สยาม ตอนแรกก็ตัวสั่นเหมือนขโมยเจอตำรวจ แต่ก็ลองออกเสียงว่า “Can I help you?” ปรากฎว่าเค้าฟังรู้เรื่อง! แถมพอพาเค้าไปส่งแท็กซี่ได้ยังหันมาบอก “Really thanks na krub!” ดีใจจนอยากกระโดดโลดเต้นกลางห้าง
ตอนนี้ก็ยังเรียนฟรีต่ออยู่เลย รู้สึกว่าการศึกษายุคนี้มันเข้าถึงง่ายดี ขอแค่อย่าขี้เกียจเหมือนเราแต่ก่อน อ้อ! แล้วที่สำคัญ…อย่าโหลดแอพเยอะเกิน พี่ว่าเสียเวลาเลือกมากกว่าเรียนอีกนะ
