พอดีเมื่ออาทิตย์ก่อนนั่งดูยูทูบไปเรื่อยๆ แล้วป๊อปอัพมาเจอคลิปฝรั่งพูดว่า “จริงเหรอว่าเรียนภาษาอังกฤษฟรี?” ฮ่วยแม่เจ้า…คิดในใจว่าเปลืองตังค์เรียนสดหลายปีแถมลงคอร์สออนไลน์ก็จ่ายไปตั้งหมื่นสอง นี่จะมีของฟรีจริงดิ?
ลงมือค้นของฟรีแบบขอไปที
แรกๆก็ขี้เกียจจัดเต็ม ตื่นนอนตอนบ่ายคลิกเข้าแอปมือถือแบบมั่วๆ เปิดไปได้สองยูนิทยื้อนคิดว่า “โธ่…ฟรีขนาดนี้จะดีมั้ยนี่” สักพักก็เลิกกลางคันไปนั่งดูซีรี่ย์เกาหลีต่อ พอตกดึกๆเพื่อนแชทมาถามงานไวยากรณ์ ตอบไปแบบงูๆปลาๆ พอแค่นั้นเลยโกรธตัวเองว่าโง่จังวะ
แผนฟรีแบบจริงจังแต่อัดชีวิต
เช้าวันเสาร์ตั้งปณิธานไว้เลยต้องหาของฟรีให้เจอ:

- ก่อนอื่นฟันเวลาสำรวจแอปในมือถือที่โหลดทิ้งไว้นานขนาดเห็นไอคอนเป็นฝุ่นเกาะแล้ว
- เจอโปรแกรมฝึกพูดเน้นๆอันนึง เปิดปุ๊บเจอแบบฝึกหัดให้อัดเสียงตัวเองพูดตาม ตอนแรกลองพูดแล้วเสียงตัวเองเหมือนเป็ดตื่นเช้า
- เปิดยูทูบเจอช่องฝรั่งคนนึงสอนศัพท์ในชีวิตประจำวัน สมุดพกดันหมดหน้าแป๊บเดียวก็เปลี่ยนไปขีดเขียนบนกระดาษลังแทน
- ตอนกินข้าวเพลินๆก็ดันเปิดรายการพอดแคสต์ฝรั่งไว้หลังบ้าน ยืนกินข้าวผัดกระเทียมไปฟังไปแบบพอได้จับคำนิดหน่อย
อยู่มาวันนึงลูกพี่เอาเกมฝึกฟังมาวางโต๊ะบอก “เล่นเล่นมั้ย? เสียตังค์ค่าเซิฟเวอร์ให้” ตอนเจอคำสั่งในเกมแบบ: “click the red button behind the tree” ทำท่าจะมึน พลิกดูศัพท์ที่จดไว้เพียบก็ยังหาคำว่า “behind” ไม่เจอ สุดท้ายไปหาเจอในดิกแอปอันเก่าที่โหลดฟรีไว้ปีก่อน
เจออุปสรรคแบบบ้านๆ
สองอาทิตย์ถัดมามันมีหักโหมไปหน่อย ตื่นตีห้าฝึกทุกเช้าแบบไม่กลัวหน้าหนาว จนพี่สาวบ่นว่า “เอ็งนี่บ้าบอเกินไปไหมวะ พอแม่ให้ไปซื้อกะเพราหมูสับดันคุยกับคนขายเป็นภาษาอังกฤษซะงั้น?” แล้วพอยุ่ยไปอีกวัน แม่ก็เดินมาสั่งงานเร่งเดดไลน์ แย่เลยการบ้านภาษาอังกฤษพังไม่เหลือ ตกดึกนั่งปาดเหงื่อทำไปทั้งที่ง่วงตาพล่าๆ
ฟันผลไม้ได้โดยไม่คาดหวัง
อยู่ๆวันนึงอยู่ดีๆไปเจอหนังสือฟรีที่วัดหน้าโรงเรียน ขนาดหน้าปกขาดเป็นริ้วๆ แต่ข้างในเป็นบทสนทนาง่ายๆแบบที่เราหัดมาสองเดือนนี่แหละ ลองอ่านดูปรากฎว่าแปลได้สนิทกว่าที่คิดไว้ ตอนนั้นถึงเข้าใจว่ามันเป็นดั่งเซนผักบุ้งที่ปลูกเองกินเองได้จริงๆ
สรุปแล้ว แม้ภาษาฟรีมันไม่มีครูมาคอยจี้แต่ต้องขยันจี้นี่หน่อย ฝึกทุกวันแบบไม่ต้องแบกอุดมการณ์ สุดท้ายประโยชน์ก็เกิดตอนเราไม่ทันตั้งตัว ตอนนี้ยังคุยกับฝรั่งไม่ได้หรูหราแต่เวลาดูหนังก็ฟังแยกคำได้ละ ไม่ใช่เป็นแค่เสียงปนๆกันไปหมด
