เรื่องมันเริ่มจากเห็นโพสในเฟสบุก้านตาเขียนว่า “เรียนฟรีไม่ต้องจ่ายสตางค์ เสาร์-อาทิตย์ก็เรียนได้” แหม! ใจมันตุ๊บๆ อยากฝึกภาษาเก็บไว้ใช้งานบ้าง กระโจนเข้าไปอ่านรายละเอียดทันที
เจ้าของโพสแจกแบบฟอร์มให้กรอกอีเมลกับเบอร์โทร อิชั้นก็กรอกให้เขาเรียบร้อย รอแป๊บเดียวเขาก็โทรมา อธิบายนู่นนี่นั่นยาวเหยัดว่าโปรแกรมดีแค่ไหน สอนโดยครูคุณภาพ แต่สุดท้ายพอยุตรงค่าอุปการร์ “คุณน้องครับ เราเก็บแค่ค่าธรรมเนียมแรกเข้าเล็กน้อยนะ 1500 บาท” เฮ้ยย! ตกลงไม่ฟรีนี่หน่า! แต่พี่เขาประกันรัวๆ ว่าเรียนแล้วคุ้ม อึนใจก็จ่ายไป
วันลงทะเบียนจริง
ตื่นเต้นมากมาย ใส่เสื้อผ้าสวยๆ ไปถึงที่เรียนเช้าพอดี ปรากฎว่าคนยัดเยียดกว่าในรูปในโพสต์ตั้งเยอะ! ห้องแคบๆ อึดอัดหายใจแทบไม่ออก พนักงานแจกกระดาษมากองนึงให้กรอกข้อมูลเดิมซ้ำอีก เบอร์โทร อีเมล ที่ทำงาน บลาๆ ใช้เวลาซะชั่วโมงกว่าจะได้เข้าเรียน

พอถึงเวลาคาบเรียนปั๊บ ปัญหาเริ่มโผล่
- ครูมาสายเกือบทุกครั้ง! แทนที่จะได้เริ่มเรียน 10 โมงเช้า ต้องมานั่งรอกันยืด ครึ่งชั่วโมงเป็นอย่างน้อย
- หนังสือที่ว่า “แจกฟรี” จริงๆ แค่เป็นเอกสารโรเนียวขาวดำตัวอักษรเบลอๆ 6-7 แผ่น
- คนเยอะเกิน! อยากถามครูยังไงก็เงียบเสียงไม่ดังเพราะกลัวคนอื่นได้ยิน ถามครูก็เดินมาแป๊บเดียวรีบไปคนอื่น ไม่ทันเข้าใจก็จบ
เนื้อหาที่เรียน
โฆษณาเขาบอก “เรียนสบายๆ ไม่เครียด” ตอนแรกนึกว่าจะได้เรียนสนทนาประยุกต์ใช้ได้จังๆ ปรากฎว่าครูเริ่มต้นด้วย… ไวยากรณ์! เต็มเหนี่ยว! Tense นู่นนี่นั่น! แบบฝึกหัดให้ทำแต่ในกระดาษ ยังไม่เคยได้ยินเสียงเจ้าของภาษาซักครั้ง นั่งฟังครูไทยพูดไทยซะส่วนใหญ่
พอคาบหนึ่งจบ ครูสั่งการบ้านมากองนึง แต่ไหนจะงานประจำที่พึ่งเลิกอาทิตย์นึงก็เหนื่อยแทบตาย แทนที่จะได้พัก กลับมานั่งท่องศัพท์กับอ่านแกรมม่าอีกล่ะ! บอกไม่ขัดงานไงเนี่ย? ขัดชีวิตชัดๆ!
จุดแตกหัก
ผ่านไปสองอาทิตย์ คาบวันเสาร์ ครูโทรมาแจ้งนาทีสุดท้ายว่าลาป่วย! ไม่มีครูสำรอง! เอางี้… หยุดชั่วคราว สัปดาห์หน้าเรียนตามปกติ แล้วพออาทิตย์ต่อมา ไปเรียนเหมือนเดิม ครูคนเดิมก็มาพร้อมคำอธิบายแค่ “เมื่อวานเรางานเข้า” ไม่มีคำขอโทษ แล้วค่อยต่อบทเรียนตามหนังสือราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น รู้สึกเหมือนของถูก!
ตัดสินใจลาออก ตอนจะขอคืนเงินค่าธรรมเนียม ป้ายหน้าออฟฟิศเขียนไว้ว่าขอคืนได้ภายใน 7 วันหลังสมัคร อันนี้เกินมาพอดี พี่พนักงานยิ้มน้อยๆ บอก “แหมพี่น้องครับ เกินมาวันสองวัน ผมช่วยอะไรไม่ได้นะ” สุดท้ายทั้งเวลา ทั้งเงิน 1500 ทั้งความหวัง ลงบ่อไปเรียบร้อย
บทเรียนที่ได้: อะไรที่เขียนว่า “ฟรี” แต่ต้องจ่ายเงิน ยังไงก็ต้องสงสัยไว้ก่อน โคตรแล้วโคตรอีก! ถ้ามัวแต่เชื่อป้ายโฆษณาโม้จนฟ้าพังโดยไม่เช็ครีวิวจากคนที่เคยเรียนจริงๆ เสี่ยงเจ็บตัวอีกแน่! ฝึกภาษาอังกฤษตอนนี้ยอมเสียตังค์นิดหน่อยลงคอร์สออนไลน์ที่สอนเป็นขั้นเป็นตอน ตั้งใจทำการบ้านตามที่เขาจัดไว้ รู้สึกพัฒนาไปไกลกว่าครั้งก่อนเยอะ
