คือเรื่องมันเริ่มจากเราเป็นคนหนึ่งที่คิดมาตลอดว่าภาษาอังกฤษเนี่ยมันยากโคตรๆ แต่พอต้องใช้ทำงานจริงๆก็มานั่งเสียดายทำไมไม่ตั้งใจเรียนสมัยเด็กให้จบไปเลย เลยตัดสินใจหาวิธีเรียนแบบเข้มข้นเห็นผลเร็วสักที
ลองนั่งเรียนตามแอพฟรีมาก่อน
ตอนแรกก็โหลดแอพสอนภาษามาหลายตัว ใช้ได้อาทิตย์นึงรู้สึกว่าเบื่อมาก สอนวนไปวนมากับแกรมม่าเดิมๆ เราจับจุดไม่ถูกว่าเราติดขัดตรงไหน บางวันรู้สึกโอเคแต่พเจอฝรั่งทีไรเป็นลมทุกที
บังเอิญเจอกลุ่มครูอาสาสอนฟรีในเฟซบุ๊ก
มีคนแชร์กลุ่มนึงเขียนว่า “หาครูติวตัวต่อตัวฟรี เห็นผลภายใน 1 เดือน” แอบสงสัยอยู่หรอกว่าฟรีจริงป่าว แต่ไหนๆก็ไม่เสียตังค์ เลยส่งข้อความไปลองดู

- ครูให้เรากรอกฟอร์มถามเป้าหมายกับจุดอ่อน
- ได้คุยโทรศัพท์วัดระดับ 10 นาที (ตอนนั้นเสียวท้องมว๊าก)
- ครูแจงเลยว่าเราพูดติด filler words เยอะ เช่น อ่า…เอ่อ…
เริ่มคอร์สตัวต่อตัวแบบไม่ง้อตำรา
ครูให้เริ่มจากสิ่งที่เราทำประจำวันก่อน อย่างแรกคือให้เราเล่าวันทำงานเป็นภาษาอังกฤษ ตั้งแต่ตื่นนอนยันเข้านอน ตอนแรกนึกในใจแค่นี้ก็หอบแล้วนะ
- วันแรกระดับสมองล้า! พูดได้แค่ “I wake up. I eat rice.” นี่สาหัสกว่าเด็กประถมอีก
- ครูไม่แคร์แกรมม่าเลย ช่วยแค่เวลาคำศัพท์ติดขัด
- สัปดาห์แรกโดนโฟกัสให้เล่าเรื่องเดิมซ้ำจนเริ่มคล่องปาก
พอเริ่มชินครูก็เพิ่มเกมฝึกสมดุ้นแทบขาดใจ เช่นให้พูดต่อจากประโยคคนอื่นภายใน 5 วินาทีไม่ให้หยุด หรือคุยโทรศัพท์ 20 นาทีโดยห้ามพูดคำว่า “very” จนเราทรุดลงไปนอนดิ้นอยู่หลายรอบ
ผลลัพธ์ที่ได้แบบเห็นๆ
ผ่านไปเดือนนึง:
- เวลาคุยงานกับทีมต่างชาติไม่ต้องใช้ Google Translate ก่อนส่งข้อความทุกอัน
- เจ้านายฝรั่งเดินมาถามทางทีไรไม่เข่าทรุดแล้ว (แค่ขาสั่นนิดๆ555)
- ครูใช้คลิปเก่าเดือนแรกมาให้ดูเปรียบเทียบ ตอนแรกอายจนหน้าแดง หลังๆขำกลิ้งเพราะพัฒนาการชัดมาก
สรุปแบบเข้าใจง่าย: ถ้าเรียนแล้วไม่โดนแซว ไม่ขมิบถุงเท้า เพราะครูจับจุดเป๊ะแบบตัวต่อตัว นี่คือทางลัดสำหรับคนไม่มีพื้นฐานแต่ขี้เหนียวแบบเราเลย!
