พอดีเห็นหลายคนในพันทิบถามเรื่องฝึกพูดอังกฤษ วันนี้ขอแชร์วิธีที่เราใช้อยู่เลยนะ เผื่อใครเอาไปปรับใช้ได้ เริ่มจากตอนแรกๆนี่ท้อเลย อ่านออกแต่พอนึกจะพูดทีไรตันทุกที
1. หาเครื่องมือง่ายๆก่อน
เราเริ่มจากแอปในมือถือที่เขาพูดถึงในพันทิบนั่นแหละ ตอนโหลดมาแทบร้องไห้ เพราะเจอแต่บทสนทนายาวๆ คำศัพท์ยากๆ เปิดมาก็อยากปิดทันที แต่บังคับตัวเองให้กดเข้าไปฟังวันละคลิป หัดเลียนแบบเสียงเค้าว่างๆ แรกๆนี่พูดตามไม่ทันหรอก ต้องกดหยุดคลิบทุกสิบวินาที
2. ทำเป็นกิจวัตรแบบมึนๆ
ตื่นมากินข้าวเช้าเสร็จ อันดับแรกไม่ใช่ล้างจาน แต่เปิดแอปขึ้นมาก่อนเลยนะ เอาแบบสั้นสุดที่หาได้ในแอปนั่นแหละ วันละ 5 นาทีเอง! ตอนแรกก็ทนๆทำไปก่อน พอวันที่สามเริ่มรู้สึกว่า “เฮ้ย อันนี้เมื่อวานก็พูดนะ” มันเริ่มคุ้นหูนิดนึง แต่พอนอกห้องมาก็ลืมอีก
3. โดนตีกลับจนเกิดภูมิคุ้มกัน
ท่าทางจะจำบทพูดได้นี่แหละ เลยไปลองฝึกกับชาวต่างชาติดาราในแอป เรากดปุ่มอัดเสียงที่เราพูดส่งไป เดี๋ยวเค้าจะตรวจให้ เสียงเราเว่อร์ไปหมด ปวดคอเลยนะพูดดังๆ เจ๊งมาก โดนแก้ไขมาเพียบ ถูกจัดให้อยู่ในระดับพื้นฐาน “ไม่เป็นไร เราชอบคำว่า ‘เริ่มต้น’” ขำตัวเองแล้วเอาปากกาจดไว้ 4 เรื่องที่โดนแก้
- เติม s ตอนพูดเร็วไม่เคยได้ : อย่าง I like dog (ต้องเป็น dogs)
- พูดแล้วเสียงคางไม่สั่น : They ไม่ออกเสียง “เด” แต่เป็นเสียง “เฎอ” แบบนุ่มๆ อันนี้ฝึกเป็นเดือน
- ลืมเสียงสูงต่ำในคำถาม : Is it good? พูดเป็นเสียงเดียวเรียบเชือด
- คำที่ลงท้ายด้วย t, d, k : พลาดทุกทีพูดไม่เต็มปาก เช่น “and” กลายเป็น “แอ่น”
4. ฉุกคิด เปลี่ยนท่า
ทำได้สักพักสังเกตตัวเองว่าเวลาเปิดแอป เรานั่งก้มหน้าบึ้งมองจอตลอด พอมือไม่อิสระ พูดก็ไม่ลื่น เลยลองเปลี่ยนท่าใหม่
- ยืนขึ้นยึดสมาร์ทโฟน : ถือโทรศัพท์เหมือนถือไมค์ (แถมกดอัดเสียงรัวๆ)
- เดินไปเดินมา : ในห้องนอนเองเนอะ เดินวนกะพริบไฟไปด้วย
- ยักคิ้ว ยักไหล่ : แอบดูหนุ่มฝรั่งในยูทูปเวลาเค้าพูด เลียนแบบสีหน้าไปด้วย
ปรากฎว่าออกเสียงดีขึ้นชัดเจนขึ้นโดยไม่รู้ตัวนะ แบบว่า body language ช่วยได้จริงๆ!
5. เอาเรื่องส่วนตัวมาหมกปน
บทในแอปเดิมๆเริ่มน่าเบื่อ เลยเอาไอเดียมาจากคุณลูกเพจคนนึงในทวิตเตอร์ คือเอาสถานการณ์ที่ตัวเองเจอมาแต่งเรื่องเอง
- บทไปซื้อข้าวแกงหน้าปากซอย (โดนแม่ค้าถามน้ำจิ้มมากกว่า)
- บทแย่งแท็กซี่กับเพื่อนตอนฝนตกหนัก (แถมสาดน้ำใส่ขาไปด้วยล่ะ)
- บทเถียงสามีเรื่องหมาทำรองเท้าพัง (บทนี้พูดคล่องปรื๋อ เพราะมีอารมณ์ร่วม)
บทแบบนี้มันจำง่ายมาก เพราะเราเคยเป็นมาก่อน มันคือชีวิตเราเอง เราเก็บคำศัพท์เฉพาะที่เราเจอจริงๆไว้ใช้เลย
6. ผลพลอยได้ที่ไม่ได้คาดไว้
ที่กล้าๆอายๆพูดไปเรื่อยๆเนี่ย ไม่ได้เวิร์คแค่กับตัวเราเองนะ แต่ลูกชายตัวเล็กมันจำไปหมด!
ตอนเช้าเปิดแอปปุ๊บ มันจะวิ่งมานั่งตักแล้วบอก “Mommy, you speak!” มันชอบกดฟังเสียงตัวเองมากกว่า เราเลยเอามาทำให้มันสนุก ตั้ง “เกมพ่อครัวร้านสะดวกซื้อ” คือมันจะเป็นคนนั่งเคาน์เตอร์(เก้าอี้) เราจะเดินถือตะกร้ามาซื้อของโดยพูดอังกฤษ เราเล่นเกมนี้สัปดาห์ละ 2 ครั้งได้นะ พลัดกันเป็นพนักงานสลับลูกค้า สิ้นเดือนนับเงินคือได้เรียนรู้เลขไปด้วย บังเอิญสุด 555+
สรุปแล้วทุกวันนี้ชีวิตติดพูด :
- การยืดตัวเวลาเปล่งเสียง ช่วยให้ออกเสียงลื่นขึ้นจริงๆ
- เอาสิ่งที่ตัวเองเคยประสบมาเองตั้งประเด็น ไม่ต้องไปฝืนจำประโยคสำเร็จรูป
- มีคนใกล้ตัวมาร่วมวงด้วยช่วยตัดความเขิน
ใครเริ่มท้อ ลองหยิบเรื่องใกล้ตัวมาพูดกับกระจกดูก่อนก็ได้นะ ใครจะรู้ เผลอๆวันนึงอาจเก่งไม่รู้ตัว!