วันก่อนผมนั่งคิดว่าอยากเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติม แต่เบอร์โทรมันแรงมากไปเรียนสถาบันกวดวิชา ก็เลยเริ่มหาวิธีเรียนฟรีในเน็ต ตามเว็บบอร์ดกระทู้ต่างๆ ที่เขาแชร์กัน
เริ่มต้นจากการหาเบาะแส
กดเสิร์ชในกูเกิลด้วยคีย์เวิร์ด “เรียนภาษาอังกฤษฟรีในกรุงเทพ” ปรากฏว่าขึ้นมาเพียบเลย แต่ดันเจอแต่เว็บขอเงินสมทบ สมัครสมาชิกก่อนเข้าเรียนน่ะสิ บางที่ก็บอกฟรีแต่พอลงทะเบียนดันมีค่าใช้จ่ายแอบแฝง น่าเบื่อมาก
ดวงสะเดาะกับรามคำแหง
อยู่ๆเพื่อนที่ทำงานคนนึงเล่าให้ฟังว่าแถวๆ สนามกีฬาห้างฯบางกะปิเคยเห็นป้ายโครงการสอนภาษาฟรี ผมก็รีบบึ่งรถเมล์สาย65ตะลุยไปทันที ปรากฏว่าป้ายมันเป็นของรามฯ ตอนแรกก็มึนเพราะคิดว่าต้องเป็นนักศึกษาเท่านั้นถึงเรียนได้
ผมเดินเข้าไปถามหน้างานนิทรรศการเขาจนได้ เคล็ดลับสำคัญคือ :
- ไม่ต้องเป็นนักศึกษารามฯก็สมัครได้
- ไม่มีค่าใช้จ่ายทุกขั้นตอน
- สื่อการเรียนแจกฟรีเป็นเล่มหนาเท่าปลายนิ้วก้อย
ขั้นตอนการสมัครแบบเซียน
ไปที่ตึกวิจัยชั้น10ของคณะมนุษย์ ศัตรูสำคัญคือเอกสารที่ดูน่ากลัว แต่ความจริงแค่เตรียมสองอย่าง :
1. สำเนาบัตรประชาชน
2. รูปถ่าย1นิ้วสองรูป
พอลงทะเบียนเสร็จ ทางศูนย์ดันให้คำปรึกษาฟรีซะด้วย แนะนำว่าควรเริ่มจากคอร์ส Grammar Basic ก่อนเพราะพื้นฐานผมแย่มาก จนพี่เจ้าหน้าที่บอกว่าคนมาเรียนฟรีนี่เพียบทุกวันศุกร์แทบไม่มีที่นั่งว่าง
บทเรียนแรกหลังเข้าเรียน
สัปดาห์แรกผมไปเช้าๆเจ็ดโมงครึ่งนั่งแถวหน้า อาจารย์ใจดีมากเวลาเราตอบผิดก็ไม่ว่าอะไร บางทีพี่คู่ซี้ในคลาสกับเพื่อนใหม่ที่มาจากปั๊มน้ำมันนั่งช่วยติวให้ตอนพักเบรคด้วย สิ่งที่เซอร์ไพรส์สุดคือ มีแบบฝึกหัดเสริมให้เอากลับไปทำที่บ้านแบบไม่คิดตังค์
ถัดมาสามเดือน ตอนนี้ผมเริ่มฟังพอดแคสต์ฝรั่งรู้เรื่อง บทสนทนาง่ายๆก็พอถูไถไปได้ แถมได้เพื่อนใหม่มาเต็มก๊วน ตกเย็นก็โดนดึงไปนั่งติวกลุ่มที่สยามสแควร์กันบ่อยๆ โดยไม่ต้องจ่ายค่าห้องติวแพงๆ
คำโปรยทิ้งท้าย : ของฟรีบางทีก็มีในโลก แค่ต้องลงแรงหาอย่างพอบ้างเหมือนผมอ่ะนะ