ทำไมคนทำงานเก่งๆถึงกลับไปเริ่มเรียนภาษาอังกฤษใหม่
เรื่องนี้เกิดจากสัปดาห์ก่อนเจอเพื่อนร่วมงานต่างชาติที่ร้านชาบูนะ เขาถามทางเป็นภาษาอังกฤษง่ายๆแค่ว่า “Which BTS station is nearest here?” ปรากฎว่าแม่งรีบไปสอนภาษาไทยเค้าซะเอง ทั้งที่เค้าถามอังกฤษ! พอเขายิ้ม尷尬แล้วเดินไปรู้สึกอายตัวเองมากเลย
ตอนแรกตั้งใจจะซื้อหนังสือเรียน นึกว่าการจดจำแกรมม่าจะช่วยได้ เปิดดูสองเล่มแรกเจอพวกเทนส์ประหลาดๆแบบ “Future Perfect Continuous” นี่เค้าพูดกันจริงเหรอ? เล่มที่สามหน้าสองมีตัวอย่างบทสนทนา “Hello, my name is John. I am an engineer.” เฮ้ย! นี่มันระดับอนุบาลเลยนะ
ตัดสินใจหาคอร์สออนไลน์แทน เพราะต้องการฝึกพูดจริงๆ ลองค้นแล้วทำตามนี้เป๊ะๆ:

- เช้าวันจันทร์นั่งกดรีวิวในเฟสบุ๊คสามชั่วโมง
- พบแคมป์ที่เน้นฝึกพูดกับอาจารย์ฟิลิปปินส์โดยตรง
- ทดลองคลาสฟรีแบบ 1:1 โดนถามว่า “Where do you usually hang out on weekends?” ตอบไม่ติด!
วันที่สองถึงกับช็อค อาจารย์ให้เล่นเกมถาม-ตอบแบบให้คะแนนสดๆ โดนถามว่า “What will you do if you win the lottery?” ได้แต่นึกศัพท์ไม่ออก อ้ำอึ้งไปสิบวิ ครูเลยเปลี่ยนเป็นภาษาไทยว่า “ถ้าถูกล็อตเตอรี่จะทำอะไร?” นี่น่าอายโคตรๆ
ผ่านไปสี่วันเริ่มปรับสมองเป็นอังกฤษอัตโนมัติ ตื่นมาคิดเป็นภาษาอังกฤษว่า “Today I’ll drink black coffee” แม้แต่ตอนหุงข้าวก็พึมพำ “Now I press the rice cooker button” นี่มันบ้าไปแล้วมั้ย?
เคล็ดลัดที่ได้ผลสุด:
- เปิดสมุดจดแยกเป็นสามส่วน: ศัพท์ประจำวัน/ประโยคติดปาก/คำที่โดนแก้
- เวลาสอนห้ามจด! ให้ฟังแล้วพูดตามเหมือนเด็ก
- แอบอัดเสียงตัวเองไว้ฟังตอนอาบน้ำ
วันนี้ครบหนึ่งสัปดาห์พอดี สรุปผลแบบกะเทียบคะแนน:
- สัปดาห์แรก : พูดได้ 3 นาที/หยุด 20 ครั้ง
- วันนี้ : พูดต่อเนื่อง 8 นาที/หยุดแค่ 7 ครั้งเท่านั้น!
พรุ่งนี้ตั้งใจจะลองสั่งกาแฟที่ร้านสตาร์บัคส์ฝั่งตรงข้ามออฟฟิศ แถมจะบังคับตัวเองให้คุยเป็นภาษาอังกฤษเต็มรูปแบบ ถ้าลูกค้าหน้าโกงยืนคิวอยู่ก็ช่างแม่ง! คิดซะว่าคืนค่าเรียน