ก็เริ่มจากตอนนึงเลยนะ คือแบบ…ไปเที่ยวต่างจังหวัดมา เจอฝรั่งถามทางนึกคำไม่ออกพูดไม่ออกแบบตายเลย พอกลับบ้านก็โมโหตัวเอง เปิดเน็ตไปเจอคอร์สนี้โฆษณาว่า “พูดได้เร็วกว่าท่องแกรมม่า” โทรไปสมัครทันทีแบบไม่ลังเล
สัปดาห์แรกรู้สึกว่าตัวเองโง่มาก
วันแรกเข้าไปในคลาส ครูสั่งให้เลิกเปิดดิกชันนารีซะ! เริ่มเรียนแบบเข้มข้นจริงๆ คือครูหยิบรูปอาหารมาให้แล้วบอกให้เราสั่งเมนูเป็นภาษาอังกฤษ จำได้ว่าเหม็นผ้าเช็ดมือเลย มึนตึบ! ตอนนั้นมีแค่คำว่า “chicken…rice…water…” โผล่มาหัว นึกว่าจะนั่งท่องทีเซอร์ทีม่าอีกแล้ว ครูกลับพุดแรงๆ ว่า “ไม่ต้องคิดแกรมม่า! พูดไปเดี๋ยวนี้ ผิดก็ยัดๆมันไปก่อน!” หน้าแดงครับ หน้าแบบร้อนๆเหมือนม้าเมืองตรัง
อาศัยฟังเยอะ+โดนบังคับให้พูด
คลาสเรียนเน้นไปที่การ เลียนแบบเสียง คือต้องฟังครูพูด(พูดเร็วมาก!)แล้วพูดตามทันที ไม่ต่องดูหนังสือ อ้อ! แกรมมาน่ะ ครูจะแทรกเป็นจุดๆ เช่น เคี้ยวๆสอนไปว่า “Did you eat yet?” ไม่ต้องไปกังวลเรื่องว่าทำไมเป็น Did ไม่ Do ลูกกกก จำเลย ไอ้พวกโครงสร้างน่ะ เรียนไปพูดไปเลย! ที่สำคัญคือครูมีเทคนิคคือ ยัดหัว คำคู่พวกนี้เข้าไปในกะโหลกเราให้ได้ทุกวัน:

- ชอบอะไร เรียนยังไง อยากได้น้ำมั้ย? บางทีครูก็โยนคำถามมาหาบอกไม่ทันตั้งตัวก็ต้องยัดๆออกไป
- เจอโครงสร้างซ้ำๆ บ่อยมากแบบวันล่ะหลายสิบรอบ พอพูดจนลิ้นแทบแตกแล้วนึกออกว่า อ๋อ…นี่มันแกรมม่า ไอ้ที่เคยท่อง!
- ได้พูดกับเพื่อนร่วมคลาสคนไทยล้วน (อายฝรั่งน้อยหน่อย) แต่ครูบังคับให้คุยกันเป็นอังกฤษตลอดเวลา นั่งเบรคทานข้าวอยู่ด้วยกันยังโดนสอย “English Only! Stop Thai!”
ไฮไลท์คือสวมบทบาทในหลายสถานการณ์
ครูให้ทำกิจกรรมแนวเนียนๆ พวกลองไปแกล้งเป็นมารับงานพาร์ทไทม์ที่ร้านคาเฟ่ กะล่อนกันจริง! เพื่อนร่วมคลาสคนนึงมาเป็นคู่ซีน พนักงานเสิร์ฟเอ๋อๆ แถมกูเองก็ลืมวิธีเรียกรายการอาหาร เป็นเอาท้องร้องเลย พอพูดคำว่า “Could I have a latte, please?” แล้วพนักงานร้านเขาเข้าใจ! ทั้งๆที่เสียงตัวเองสั่นเป็นเสียงจิ้งหรีด ประทับใจบัดซบ นึกถึงครูก่อนนอนนั่นแหละว่าเรียนแกรมม่ามากี่ปีตอนสั่งกาแฟเคยได้ใช้มั้ยวะ
เจอความจริงหลายๆอย่างที่ท่องมาแต่ไม่เคยใช้
ตัวอย่างไปเจอคำง่ายๆที่เราชอบหลงลืมตอนจะพูด เช่น “Anyway” (ก็ยังงี้แหละ) / “Actually” (เรื่องจริงนะ) / “I mean…” (หมายถึง) พอได้แชะคาแรกเตอร์ลงสนามจริงนี่มันผุดออกมาแบบอัตโนมัติทั้งๆที่ไม่เคยนึกจะท่องมันเลย สิ่งที่โดนคือ ท่องแกรมม่ามาเท่าไหร่ แต่ขาดความเคยชินปากเนี่ยก็ใช้ไม่คล่องอยู่ดี! คลาสนี้บังคับให้เราต้องอ้าปากพูดเยอะมากกก ผิดถูกไม่สน เอาให้ติดปากเป็นที่สุด
สรุปหลังเรียนจบเดือนนึง: คุ้มกว่าท่องหนังสือเป็นไหนๆ
ความรู้สึกตอนนี้คือ ความมั่นใจโตกว่าฝีมือจริงๆ แกรมม่าก็รู้สึกว่าไม่ใช่ภูเขาลูกใหญ่เท่าเมื่อก่อน แถมเวลาฟังฝรั่งพูดรู้เรื่องขึ้นเยอะ! (เพราะในคลาสเราแทบจมอยู่กับเสียงครูฝรั่งตลอด) ที่ยังกวนใจคือตอนพูดเร็วๆยังผสมท่าผสมทางไปกับภาษาไทยกะเขมรนิดหน่อย 555 แต่กูไม่กลัวขี้หน้าแล้วเว้ย โคตรได้เปรียบเลยตอนเที่ยวล่าสุด เอิ่ม…คือ ก็พูดไปเถอะ ผิดถูกมันค่อยแก้ทีหลัง นี่แหละความรู้สึกที่อยากให้ทุกคนมี ไม่ใช่ไปนั่งมึนท่าแบบแต่ก่อน! ใครท้อๆกับการท่องไวยากรณ์แบบไม่เห็นจุดจบ ต้องลองสูตรเน้นการพูดแบบไม่ต้องคิดเยอะดูครับ หมูนะ แค่หัดพูดทุกวัน ท่องคำคู่เอาไว้ซักนิดนึง อีกเดือนนึงกูเชื่อว่าปากจะลื่นขึ้นกว่าเดิมแน่นอน!