โอ้ย เรื่องเรียนภาษามันปวดหัวจริงๆนะ อย่างเราเนี่ย พื้นฐานอังกฤษแย่มากๆ คือลืมไปว่าคำศัพท์ที่เคยท่องไว้มันหายเกลี้ยงเลยอ่ะ ตัดสินใจซื้อสมุดเปล่ามาเล่มนึง เริ่มเขียนข้างในว่า “วันนี้จะเริ่มเรียน” ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
เอาจริงๆ แค่หัดพูดแบบเด็กอนุบาลก็พอ
เปิดยูทูปดูแล้วตาลาย บางคนสอนเร็ว บางคนศัพท์ยาก เราว่าเริ่มจากของง่ายๆที่ใช้บ่อยที่สุดก่อนดีกว่า เลยหยิบโน้ตบุ๊คมาจดแบบนี้:
- เจอใครก็พูด “Hello” ไปก่อนเลย ง่ายดี
- ถามชื่อเค้าว่า “What is your name?” แต่ตอนแรกอ่านว่า “วอท อิส ยัวร์ เนม” ฟังดูแข็งทื่อมาก 555
- พอเขาถามกลับมาก็ตอบ “My name is…” ตามด้วยชื่อเราแหละ
พอท่อง 3 ประโยคนี้เสร็จก็ไปยืนหน้ากระจกนั่นแหละ คอยดูปากตัวเองแล้วพูดซ้ำๆ “Hello, what is your name? My name is…” พูดจนลิ้นเริ่มพัง แต่มันคุ้นปากขึ้นมานิดนึง

ต่อยอดเอาจากชีวิตประจำวัน
พวกท่องเดี่ยวๆมันน่าเบื่อ เลยลองเอาศัพท์ใกล้ตัวที่สุดมาเล่นเกม เอาสติ๊กเกอร์มาแปะของในบ้านนั่นแหละ:
- ประตู = Door
- เก้าอี้ = Chair (เขียนว่าคำอ่านว่า “แชร์” แต่เสียงเราออกเป็น “เช-เออะ”)
- ขวดน้ำ = Water bottle (ตอนแปะเสร็จ แม่ถามว่าบ้าไปแล้วเหรอเนี่ย)
พอบอกชื่อสิ่งรอบตัวได้บ้างแล้วก็ผูกประโยคดู อย่างเวลาเปิดประตูก็บ่นว่า “This is a door” พอกินน้ำก็ว่า “This is water” เพื่อนบ้านเห็นหน้าตะแคงเหมือนกันนะ แต่ช่างมัน 555
ทริคเด็ด ใช้เลยในงาน
รู้สึกแอบมั่นใจนิดหน่อยเลยเอาความรู้น้อยนิดไปลองงานพาร์ทไทม์ที่ร้านสะดวกซื้อ มีฝรั่งมาเข้าห้องน้ำ ถามเรา “Toilet?” เรายิ้มแล้วพยักหน้า พอเขาออกมาก็พูดคำที่เตรียมมา “Yes, have!” แทน “มีครับ” ฝรั่งยิ้มแล้วบอก “Thank you” เราก็ตอบกลับ “ยู เวลคัม” มันง่ายกว่าที่คิดจริงๆ
สุดท้ายเลยพบว่าต้นเหตุที่เราไม่กล้าพูดก็เพราะกลัวผิดนี่แหละ แต่พอมึนๆบวกๆไม่ต้องแกรมม่าพิถีพิถัน แค่หัดพูดเรื่องตัวเองจนขึ้นใจเนี่ย โคตรง่ายแล้วก็ใช้ได้จริง ทีแรกนึกว่ายากสุดในโลก ตอนนี้รู้แล้วว่าแค่ขยับปากก็รอดแล้วว่ะ
