เฮ้ย หลายคนถามว่าทำไมเราเขียนอังกฤษคล่องขนาดนี้ ทั้งที่ไม่ได้จบคณะภาษา มาแชร์ให้ฟังเลยว่าจริงๆแล้วเริ่มต้นง่ายมาก
ตอนแรกก็ทื่อๆเหมือนกัน
ซื้อหนังสือแกรมมาร์มาสองสามเล่ม เปิดมาก็หน้า2 จำได้ว่าเจอพวก tense ทั้งหลาย สิบสองแบบ! ปิดหนังสือทันที ไม่ไหวอ่ะ รู้สึกเหมือนโดนบังคับเรียน
- ลงคอร์สออนไลน์แถวบ้าน ครบ10ชม. แต่ไปได้แค่3ครั้งก็ขี้เกียจ
- โหลดแอพภาษาโปรโมทหนักมาก แต่พอเจอป้าย “อัพเกรดเพลนเริ่ม199บ/ด” ก็ถอยเลย
- ลองดูคลิปครูต่างชาติสอน ยาวชั่วโมงนึง…หลับกลางคลิป
จุดเปลี่ยนอยู่ร้านข้าวมันไก่
วันหนึ่งนั่งดูพนักงานเขียนป้ายเมนูภาษาอังกฤษ ตาถอดวาป! น้องเขียนว่า “Chicken Rice Special” เจ้าของร้านบอกลูกค้าทัวร์สั่งได้คล่องเลย เราถามน้องว่าสื่อสารยังไง น้องหัวเราะแล้วบอก “ก็พูดตามป้ายที่เขียนไง”

เลยลองเอามือถือกูเกิ้ลคำว่า “อาหารริมทาง” มีคนแชร์วิธีเด็ด:
- ถ่ายรูปป้ายร้าน/เมนูที่เจอประจำแล้วเทียบคำแปล
- เปิดยูทูปหา “คนขายอาหารพูดภาษาอังกฤษ”
- แคปประโยคในเกมแล้วเอาไปถามห้องแชท
ทำจริงจังหนึ่งเดือน
เช้าๆขนหมูไปส่งแฟนที่โรงพยาบาล ก็เปิดฟังเสียงประกาศในโรงพยาบาล บางทีก็แอบพูดตามเสียงนางพยาบาล กลางวันกินข้าวก็จดคำศัพท์ข้างกล่องนม กลางคืนเล่นเกม ไม่ฟังเสียงไทยเด็ดขาด ถึงจะงงๆแต่ค่อยๆซึมเลยนะ
ผลลัพธ์นี่เฮฮา:
- สั่งพิซซ่าครั้งแรกโดนถามว่า “you want all toilet?” (ตอนนั้นยังไม่รู้ว่า all toilet กับ olive ต่างกัน)
- บอกฝรั่งว่า “my chicken is born” แทน “I was born” (แย่กว่านั้นชี้ไปที่ขาหมูตัวเอง!)
- เจอนักท่องเที่ยวถามทาง ตอบว่า “go straight to death” (พยายามบอกให้ตรงไปจนสุดทาง…)
แต่พอโดนฮาแล้วต้องตามแก้ กดรีเพลย์คลิปที่พูดพลั้งบ่อยๆ หัดออกเสียงลิ้นแทบขาด ตอนนี้พอเจอฝรั่งก็ชี้รูปในมือถือ+ท่าทางประสานเสียง แค่สามเดือนสื่อสารคล่องขึ้นเป็นตาเห็น!
สรุปสไตล์เรื่อยๆ
อย่าเริ่มจากหนังสือ เริ่มจาก สิ่งที่ทำประจำอยู่แล้ว ในชีวิต ดูหนังฟังเพลงเล่นเกม แค่อันเดียวก็พอ มันจะทำให้เราไม่รู้สึกว่า “ต้องเรียน” แต่กลายเป็น “อยากรู้” ธรรมชาติมากกว่า ตอนนี้แทบไม่ต้องง้อคอร์สแพงๆแล้ว แค่ดูป้ายร้านข้าวมันไก่นั่นก็เป็นครูชั้นดี!