มีนัดสัมภาษณ์งานต่างประเทศพรุ่งนี้ ตื่นเต้นมากกก! เกรงว่ามันจะพลาดโอกาสดีๆ เพราะภาษาอังกฤษเราไม่แข็ง พอดีนึกขึ้นได้ว่าเคยเห็นคอร์สเรียนออนไลน์เรื่องภาษาอังกฤษเพื่อธุรกิจ เลยรีบไปเซิร์ชหาแบบรีบด่วน
ขั้นแรกเลยคือไปหาหนังสือและเว็บที่เขาสอนเรื่องนี้โดยเฉพาะ ไม่ใช่แค่แกรมม่าทั่วไปนะ แต่เน้นพวกศัพท์ในออฟฟิศ การคุยงาน การเขียนเมล การพรีเซนต์ เราเปิดเจอเล่มนึงชื่อประมาณ “ภาษาอังกฤษขั้นเทพสำหรับคนทำงาน” เริ่มอ่านปุ๊บ มึนตึ๊บ! ศัพท์แบบ “synergy” “KPI” “stakeholder” อะไรเนี้ยไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต จิตตกไป ๕ นาที ก่อนจะตั้งสติแล้วบอกตัวเองว่า “จัดไป สู้ตาย!”
ลงมือเรียนจริงจัง
- เริ่มจดศัพท์ทุกวัน: ซื้อสมุดเล่มเล็กมาตังค์ร้อย นั่งแปะไว้ข้างคอมทีทำงาน วันนึงตั้งเป้าจำให้ได้สัก ๕-๑๐ คำ พอเห็นทีมมูฟทีมก็พูดในใจว่า “Ah, we need a quick turnaround on this.” แรกๆเพื่อนร่วมงานมองหน้าแบบ ????? หลังๆเขาเริ่มชิน
- ฝึกฟังจนหูชา: ยอมลงทุนสมัครพรีเมี่ยมฟีเจอร์ในแอพเรียนภาษาเนี่ยแหละ ฟังวีดีโอสัมภาษณ์งานกับฝรั่งจริงๆ บางทีมันพูดเร็วมาก แถมสำเนียงก็ไม่ใช่แบบในตำรา ฟังรั้งแรกไม่รอดแน่! เลยกดฟังซ้ำ ย้อยกลับ ย้ำไปย้ำมา สิบกว่าทีจนจับเค้าโครงได้ว่าเขาถามอะไร เริ่มจากแบบช้าๆก่อนค่อยขยับสปีดขึ้น
- ซ้อมพูดหน้ากระจก+อัดเสียงตัวเอง: ตอนแรกกะจะไม่ทำเพราะขี้อาย หลังๆยอมรับว่าจำเป็น! ยืนหน้ากระจกในห้องน้ำ ซ้อมแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษ “Hi, my name is… I have 5 years experience in…” พูดเสร็จก็กดอัดเสียงฟัง แรกๆได้ยินเสียงตัวเองพังๆแบบนี้ นี่คือเราเองหรอ?! ประหม่าเสียงสั่นตลอด แต่ฝึกไปเรื่อยๆเดี๋ยวมันก็ชิน พอเริ่มมั่นใจก็ไปหาสถานการณ์ยากขึ้น ซ้อมตอบคำถามยากๆแบบ “Why should we hire you?” ถ้าเจอคำถามไม่รู้จะตอบไง เราใช้เทคนิค “Let me think for a moment…” แทนการอ้าปากค้างไปงั้นๆ
พีคเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ จนถึงวันที่สัมภาษณ์จริง
เดินเข้าไปขาสั่น มือเปียก ตัวช่วยเดียวคือเอาความมั่นใจจากที่ซ้อมมาเต็มที่เท่าที่ทำได้ แรกๆก็ตื่นเต้น พอเริ่มคุ้นๆกับเค้าโครงคำถามที่เราเคยฝึกมา ก็เริ่มลื่นขึ้น ทันทีที่คนสัมภาษณ์ถามเกี่ยวกับประสบการณ์การแก้ปัญหาที่ทำงาน เราเอาเรื่องที่เคยซ้อมมาเล่าตั้งแต่ต้นจบ แถมพยายาม ยิ้มและมองตา (จะตายก็ยิ้มไว้ก่อน!)
พอจบสัมภาษณ์ เหงื่อแตกไปทั้งตัว แต่รู้สึกโล่ง! เค้าแบบ “We’ll be in touch.” ใช้ความคุมจิตขอบคุณแล้วเดินออกมาแบบ… เดินเซ เลยคิดว่าน่าจะหมดสิทธิ์แล้ว เอาแค่ได้ประสบการณ์ก็พอ
ช็อคสุดคือสามวันต่อมา ได้อีเมลข้อความว่า “Congratulations…” ตะโกนในห้องให้หลังบ้านคิดว่าลูกบ้านหัวเราะ คอนเฟิร์มว่าเป็นจริงนะโยม เราได้งาน! บอกตรงๆถ้าไม่ยอมลงมือหาความรู้เฉพาะทางมาปูพื้น + ฝึกซ้อมซ้ำๆจนคล่อง โอกาสนี่อาจจะหลุดมือไปแล้วก็ได้
สรุปสั้นๆ : เตรียมตัวให้เป๊ะ หาความรู้ที่ใช่ ฝึกเข้าไปไม่ถอย ทุกคนทำได้!