เมื่อเช้านั่งคิดว่าทำไมเรียนภาษามาตั้งนานแต่พอนั่งคุยกับฝรั่งทีไรเป็นเอาตัวไม่รอดทุกที พอดีเห็นโพสต์แนะนำคอร์สตัวต่อตัวกับครูเจ้าของภาษา เลยคิดว่าเออว่ะลองดีกว่า ไม่ลองไม่รู้
ขั้นแรกคือหาครูให้ถูกใจ
เข้าแอพหา teacher แต่ละคนโปรไฟล์สวยหมดเลย ตอนแรกกดเลือกหน้าเหมือนนางแบบซะสามคน ปรากฎว่าราคาเขย่าขวัญมาก เรียนชั่วโมงนึงเท่ากับกินข้าวทั้งอาทิตย์
- พลาดแล้ว! เลยย้อนกลับไปติ๊กกรอง “ราคาสุดฮอต”
- เจอครูเพ็ญนุ่มฟิลิปปินส์ราคาป้ายแดง ชั่วโมงละสองร้อยกว่าบาท แถมรีวิวเป็นดอกไม้เต็มหมด
- ทดลองเรียนฟรี 5 นาที ครูแกหัวเราะตอนเราพูด “I go to bathroom because…” แกบอกไม่ต้องเกรงใจพูดว่า “pee” เลยดีกว่า ฟีลตรงกันชัดๆ
เดือดจริงจังสัปดาห์แรก
ตั้งใจตื่นหกโมงเช้าทุกวันเพื่อเรียน ตอนแรกนั่งจ้องหน้าครูแบบกดดัน เหงื่อไหลไคลย้อย พอครูถามว่า “What you do yesterday?” ปากมันแข็งเหมือนคนโดนมอมยา

- ครูให้เริ่มจากเล่าเรื่องธรรมดา กินข้าว ตากผ้า เล่นเกม แค่นี้
- เจอศัพท์ติดๆเรียนใช้วิธี วาดรูป ลงสมุดแทนท่องศัพท์
- นาที25-30 ครูแจกการบ้านแปลกๆ: ให้เล่าหลังอาบน้ำแบบไม่สวมเสื้อแล้วอัดวิดีโอส่ง! อายจนคอแดงแต่ก็ทำ
สามสัปดาห์เจอของจริง
ครูเริ่มโยนสถานการณ์ปายากเข้าให้จำลอง
- สั่งให้โทรไปรีสอร์ตปลอมถามห้องพัก ทั้งๆ
- ที่ตัวสั่นเหมือนโดนไฟฟ้าช็อต
- แกแอบด่าพรางๆ“อ้าวๆ พูดเร็วสิค่าน้อย เจ้าของรีสอร์ตหนีไปกินข้าวแล้วนะ!”
- ทิ้งท้ายทุกคลาสด้วยการให้ท่อง“No paper! Only mouth!”
ผ่านไปเดือนนึงเพิ่งรู้ตัวว่าทำไมก่อนหน้านี้เรียนไม่รอด
ช่วงนาที18 ของคลาสวันนี้ อยู่ๆ
เราปากพันอธิบายปัญหาโรงงานฝุ่นเยอะให้ครูฟังได้โดยไม่ติดๆขัดๆ
ทั้งๆ
ที่มือยังขยับกด google translate อยู่เลย
สรุปแล้วมันคือ การโดนยัดให้จมน้ำก่อนจะว่ายเป็น

ครูแกไม่ให้ใช้วิธีอื่นนอกจากดึงความจำในหัวออกมาพูด
ตอนแรกเครียดจนอยากยกเลิกคอร์ส
แต่ตอนนี้ตอบแชทลูกค้าฝรั่งที เพลินเหมือนคุยกับเพื่อน
ส่วนตัวว่ามันเวิร์กเพราะโดนบังคับให้ใช้สมองในภาวะกดดันจริงๆ
แถมราคาถูกกว่าให้แฟนเรียนดนตรีเดือนนึงอีกนะ – -“