มาเล่าให้ฟังว่าฉันฝึกภาษาอังกฤษยังไง เริ่มจากศูนย์เลยนะ ตัวฉันเองก่อนหน้านี้แทบไม่รู้เรื่องเลย แค่เห็นตัวอักษรก็ปวดหัวแล้ว
วันแรกๆ : เอาให้รอดก่อน
ตื่นเช้ามากำหนดเป้าหลองๆ ว่า “วันนี้ต้องรู้จักคำศัพท์ 5 คำให้ได้” ไม่เยอะไป จะได้ไม่ท้อ นั่งจ้องเว็บเรียนฟรีซักสิบยี่สิบนาที รู้สึกสมองตื้อ เปลี่ยนทันที เอาสมุดปากกา ดึงกล่องนมหยิบนมกล่องขึ้นมา ตั้งสติแล้วเขียนลงสมุดว่า “milk” พอเปิดตู้เย็นเห็นอะไรเป็นอะไรก็เขียนหมดเลย egg, water, apple – ทำแบบนี้ทุกเช้าแค่ 10 นาที ทำเหมือนเล่นเกมสะสมไอเทม
อาทิตย์ถัดมา : ของใกล้ตัวนั่นแหละ ครูที่ดี
เริ่มบ้าเล็กน้อย เวลาใช้แอพในมือถือ เปลี่ยนภาษาเป็นอังกฤษซะหมด ตอนแรกกดไม่ถูกเลยย แปะกระดาษโน๊ตไว้ข้างๆ ว่าปุ่มนี้แปลว่าอะไร บางวันนั่งรถเมล์เห็นป้ายบอกทาง ก็เอามือถือจดคำว่า “exit” หรือ “stop” แล้วกลับมาค้นหาด้วยภาพในกูเกิลว่าใช่รูปนั้นมั้ย เจอประโยคสั้นๆ ในอินเตอร์เน็ต ไม่ต้องเข้าใจทั้งหมด แค่แบ่งประโยคเป็นคำๆ ดูว่าแต่ละคำมันโดดเด่นอะไร อย่างเช่น “I need coffee” ก็โฟกัสแค่ need กับ coffee ก่อน

จุดเปลี่ยน : พบว่ายูทูปเป็นครูพี่เลี้ยงชั้นดี
เริ่มเลี่ยงวิดีโอสอนภาษาเพราะน่าเบื่อ ตอนนี้ จิ้นหาเพลงการ์ตูนเด็กฝรั่งดูแทน ตอนแรกฟังไม่ออกเลย แต่เปิดซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษคู่กับภาพประกอบ ทนดูไปก่อนแม้ไม่เข้าใจ 80% แต่พอเห็นภาพตัวการ์ตูนชี้ผลไม้แล้วพูดว่า “apple! red apple!” แค่นี้ก็กระจ่าง! สุดท้ายก็เอามาใช้กับชีวิตจริง พอเปิดตู้เย็นเห็นแอปเปิ้ลก็พึมพำว่า “apple… red?” เดี๋ยวนี้ล้างจานไปยังร้องเพลงง่ายๆ เป็นภาษาอังกฤษไปด้วยเลย (เพื่อนบ้านว่าเสียงเหมือนแมวโดนเหยียบ 555)
ฝึกเขียน…เริ่มจากแป้นพิมพ์นี่แหละ
แอบกดโหมดแชทสลับเป็นภาษาอังกฤษกับเพื่อนที่ไม่รู้เรื่องซักคน บอกตรงๆ ว่าให้ทนอ่านภาษาอังกฤษง่อยๆ ของฉันหน่อย เริ่มจากแชทตอนตี 3 ส่งไปว่า “me… hungry… want food” พอดึกๆ เดินคนเดียวก็พยายาม คิดในใจเป็นคำง่ายๆ เช่น “sky dark” “street quiet” ฝืนคิดทุกวันจนเริ่มชินมือ ไม่ได้สวยหรู แต่ขอให้สื่อสารได้ก่อน ล่าสุดพอทริปไปตลาดนัดฝรั่ง ฉันยันตั้งตังค์เอง โห่ร้องแบบเด็กประถมว่า “HOW MUCH?!” ได้เหรียญมา 3 เหรียญ ดีใจเหมือนได้รางวัลโนเบลไปแล้วอะ!
สิ่งที่เห็นชัดมากตอนนี้คือ เวลาเห็นป้ายหรือเมนูภาษาอังกฤษ ไม่ใช่แค่ตัวอักษรเลอะเทอะอีกต่อไป รู้สึกเหมือนเห็นเกมปริศนาให้เราแก้ อาจจะยังผิดบ่อย ยังพูดได้ตะกุกตะกัก แต่เชื่อเถอะ…ถ้าเราฝึกเหมือนเด็กหัดเดิน ที่สุดแล้วมันต้องเดินโทงเทงได้เอง!