วันนี้กูจะมาเล่าให้ฟังว่ากูเรียนคุยภาษาอังกฤษออนไลน์ยังไง เริ่มจากวันนึงกูนั่งดูทีวีอยู่ดีๆ ก็เบื่อขึ้นมาซะงั้น เลยคิดได้ว่าถ้าเรียนพูดกับฝรั่งตัวเป็นๆ น่าจะเวิร์คกว่าเปิดยูทูปฟังคนเดียว
ขั้นแรก : ปวดหัวกับโค้ดลงทะเบียน
เปิดเว็บแอปชื่อดังเจอบั๊กแรกเลย เวลากดสมัครมันให้ใส่พวกรหัสอะไรไม่รู้หยั่งงั้น กูเอาลูกบิดไปบิดไปบิดมาซะห้านาทีกว่าจะถึงช่องใส่เมล มึนตึ้บบอกให้ใส่ referral code ทั้งๆ ที่กูไม่มีพวกนั้นเลย อืมบวกก็ได้ เดี๋ยวกุยัดตัว H-A-H-A ลงไปแทน
อาการติดขัด :

- ระบบรีเซ็ตหน้ากระหน่ำเวลาย้ายเมนู
- ค่าคอร์สขึ้นเป็นตัวเลขประหลาดแบบ $9.99999
- รูปโปรไฟล์อัพโหลดทีไรกรอบแตกทุกที
จัดคิวคุย : สมาธิกระเจิง
พอเข้าห้องเรียนนัดแรกได้เนี่ย ครูฝรั่งสาวโผล่มาแบบสวยเว่อร์ แต่ปัญหามันเกิดตอนเครื่องกูรวน! กล้องมันแป๊กๆ เหมือนโดนฝนกรด เสียงครูแตกเป็นชิ้นๆ ซ้อนกันไปสามเลเยอร์ พอจะถามซ้ำเธอยังหัวเราะคิกๆ แล้วถามกลับว่า “Do you have cat?” เห้ย กูแมวก็ไม่เลี้ยงนะเนี่ย!
ลากลับมาดูหน้าการสอน ระบบมันให้กดนาฬิกาทรายรีโหลดเองเลยแบบอัตโนมัติ ระหว่างรอกูนั่งจิบกาแฟไปถุงใหญ่ เจอคนไทยในแชทมึงถามมาว่า “วันนี้เรียนกับครูคนไหน? โหดมั้ย?” กูพิมพ์ตอบไปว่า “ครูสวยครับ” ยังไม่ทันได้ส่งข้อความ ระบบเด้งออกแล้วไอ้สัส!
เกมพลิก: ฉลาดขึ้นนิดหน่อย
อาทิตย์หลังๆ กูใช้เล่ห์สารพัดนึก :
เปิดสมุดโน๊ตแปะข้างจอเขียนไว้เลยว่า
- ห้ามตอบว่า “I think” ตอนตอบคำถาม
- เวลาอยากถามว่า “มันเขียนยังไงนะ” ให้พูดว่า “How to spell?” แทน
- ทิพเนตรครูทันทีที่เสียงเริ่มเฮี้ยนเหมือนจะร้องเพลงชาติ
วันสุดท้ายครูถามว่าฝันถึงอะไรเป็นภาษาอังกฤษ ทันใดนั้นเสียงน้องชายกูก็ลั่นมาจากห้องข้างๆ : “พี่ขา! ข้าวผัดไก่ใส่พริกไทยมั้ยอ่า?” ครูฝรั่งเบิกตาโตแล้วพูดทวนตามว่า “ผัดไก่พริกไทย?” นั่นแหละกูเลยได้ศัพท์ใหม่ติดตัวมา – “Spicy stir fry” ไง!
ตอนจบคาบครูชมกูแบบงงๆ : “You smell good today”… คิดไปคิดมาถึงบางอ้อ มันต้องลิปสติกกลิ่นสตรอเบอร์รี่ที่กูทาเล่นๆ ตอนรอเรียนนั่นเอง!
สรุปสั้นๆ จากการเจ็บตัว :

- เรียนแบบเสียตังค์มันทำให้บังคับตัวเองได้กว่าเรียนฟรี
- ไวไฟบ้านช่วงเย็นมันมักจะ奄奄一息เสมอ
- หมอนข้างใช้กั๊กแทนไมค์กันเสียงรบกวนได้
- เรียนออนไลน์มันก็เหมือนแฟนบอล – เราสนุกตอนที่มันไม่บึ้กตึงนั่นแหละ