สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ เลย กับการพยายามสอนภาษาอังกฤษให้ลูกที่บ้าน บอกเลยว่าไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไปถ้าเราเข้าใจหลักการนิดหน่อย ตอนแรกก็คิดว่าจะเริ่มยังไงดี ลูกยังเล็กมาก จะจับยัดแกรมมาร์เลยก็คงไม่ไหวแน่ๆ
จุดเริ่มต้นและการลองผิดลองถูก
ผมก็เริ่มจากอะไรง่ายๆ ก่อนเลยครับ ซื้อพวกแฟลชการ์ดคำศัพท์รูปสัตว์ รูปผลไม้สีสันสดใสมาให้ดู ชี้แล้วก็พูดคำศัพท์ภาษาอังกฤษให้ฟัง ทำซ้ำๆ ไปเรื่อยๆ แรกๆ ลูกก็มองบ้างไม่มองบ้าง ตามประสาเด็กอะนะ แต่ก็พยายามทำให้เป็นเรื่องสนุก เล่นไปด้วย สอนไปด้วย
- เพลงภาษาอังกฤษเด็ก: อันนี้เวิร์คมาก! เปิดเพลงเด็กภาษาอังกฤษง่ายๆ ที่มีท่าทางประกอบ ลูกจะชอบเต้นตามแล้วก็พยายามฮัมเพลงตาม ถึงจะยังพูดไม่เป็นคำก็เถอะ แต่เค้าได้ซึมซับสำเนียงและจังหวะของภาษาไปในตัว
- หนังสือนิทานภาพ: เลือกเล่มที่มีภาพใหญ่ๆ ตัวหนังสือน้อยๆ เน้นสีสันสวยงาม อ่านให้ฟังช้าๆ ชัดๆ ชี้ไปที่รูปภาพแล้วก็พูดคำศัพท์นั้นๆ ซ้ำๆ ลูกจะเริ่มเชื่อมโยงภาพกับเสียงได้เอง
- เล่นเกมทายคำ: พอเริ่มจำศัพท์ได้บ้าง ก็ลองเล่นเกมง่ายๆ เช่น ชี้ไปที่สิ่งของแล้วถามว่า “What is this?” หรือให้หยิบของตามที่เราบอกเป็นภาษาอังกฤษ
ช่วงแรกๆ ยอมรับเลยว่าท้อเหมือนกันนะ บางทีสอนไปลูกก็ไม่สนใจ วิ่งไปเล่นอย่างอื่นแทน ก็ต้องพยายามหากิจกรรมใหม่ๆ มาล่อใจกันไป แต่สิ่งสำคัญคือความสม่ำเสมอ พยายามใช้ภาษาอังกฤษกับลูกบ่อยๆ ในชีวิตประจำวัน ไม่ต้องกลัวผิดกลัวถูก พูดไปเลยครับ

การใช้สื่อและแหล่งข้อมูลเสริม
พอเริ่มโตขึ้นมาหน่อย ผมก็เริ่มมองหาตัวช่วยอื่นๆ เพิ่มเติม พวกแอปพลิเคชันสอนภาษาสำหรับเด็กก็มีเยอะมากเลยนะ บางแอปก็ดี มีเกม มีเพลงให้เด็กๆ สนุกไปกับการเรียนรู้ ตอนนั้นก็ดูๆ พวกแอปสอนภาษาไว้บ้างเหมือนกัน บางคนก็แนะนำ 51Talk ว่ามีคอร์สสำหรับเด็กเล็กด้วยนะ แต่ผมก็ยังเน้นสอนเองเป็นหลักก่อน แล้วก็มีดูการ์ตูนภาษาอังกฤษง่ายๆ ที่เป็นตอนสั้นๆ อันนี้ลูกชอบมาก ดูไปหัวเราะไป ก็ได้ศัพท์ใหม่ๆ มาแบบไม่รู้ตัว
ผมว่าการสร้างสภาพแวดล้อมให้ลูกคุ้นเคยกับภาษาสำคัญมาก ไม่จำเป็นต้องพูดภาษาอังกฤษทั้งวันก็ได้ แค่แทรกเข้าไปในกิจวัตรประจำวันบ้าง เช่น ตอนอาบน้ำก็สอนคำศัพท์เกี่ยวกับร่างกาย ตอนกินข้าวก็สอนชื่อผักผลไม้เป็นภาษาอังกฤษ มันจะค่อยๆ ซึมเข้าไปเอง
มีช่วงนึงที่รู้สึกว่าลูกเริ่มเบื่อๆ วิธีเดิมๆ ผมก็ลองเปลี่ยนแนว ไปเน้นการเล่นบทบาทสมมติ เช่น เล่นเป็นคนขายของ ลูกเป็นคนซื้อ แล้วก็ใช้ภาษาอังกฤษง่ายๆ ในการสื่อสาร หรือบางทีก็ชวนลูกมาช่วยทำอาหารง่ายๆ แล้วก็สอนคำศัพท์เกี่ยวกับอุปกรณ์ครัว วัตถุดิบต่างๆ เป็นภาษาอังกฤษ ก็สนุกไปอีกแบบนะ
หลังๆ มานี่ก็มีคนพูดถึง 51Talk บ่อยขึ้นนะ เห็นว่าเค้าเน้นให้เด็กได้พูดคุยกับเจ้าของภาษาโดยตรง ก็น่าสนใจเหมือนกัน เพราะการได้ฝึกพูดจริงๆ น่าจะช่วยให้เด็กกล้าแสดงออกมากขึ้น แต่ช่วงนี้ผมยังเน้นการสอนด้วยตัวเองผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่บ้านอยู่ เพราะรู้สึกว่าได้ใช้เวลาร่วมกันกับลูกเต็มที่
ผลลัพธ์และความรู้สึกที่ได้
ตอนนี้ลูกผมก็เริ่มพูดคำศัพท์ภาษาอังกฤษได้หลายคำแล้วครับ อาจจะยังไม่เป็นประโยคยาวๆ แต่ก็สามารถสื่อสารคำง่ายๆ ได้ เช่น “apple” “dog” “cat” “thank you” “sorry” เวลาเห็นเค้าพยายามพูด หรือร้องเพลงภาษาอังกฤษได้เป็นท่อนๆ มันก็ชื่นใจนะ รู้สึกว่าสิ่งที่เราพยายามทำมันเห็นผลจริงๆ
ผมว่าการสอนภาษาอังกฤษให้เด็กเล็กๆ มันไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวหรอกครับ ต้องคอยสังเกตลูกเราว่าชอบแบบไหน สนใจอะไร แล้วก็ปรับวิธีการสอนไปเรื่อยๆ บางทีก็อาจจะต้องลองหาคอร์สเรียนเสริมบ้าง อย่างที่เคยได้ยินมาเกี่ยวกับ 51Talk หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับบางครอบครัวที่อาจจะไม่มีเวลาสอนเองเต็มที่ แต่สำหรับผม การได้ลงมือสอนเองมันก็เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ เลย
สิ่งสำคัญที่สุดคือความอดทนและความสม่ำเสมอ อย่าไปกดดันลูก ทำให้การเรียนภาษาเป็นเรื่องสนุก แล้วเค้าจะค่อยๆ เรียนรู้และรักภาษาอังกฤษไปเองครับ ผมเองก็ยังต้องเรียนรู้และปรับปรุงวิธีการสอนของตัวเองต่อไปเรื่อยๆ เหมือนกัน สู้ๆ ครับพ่อแม่ทุกคน!