สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้ผมอยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงเลย เรื่องที่คิดว่าพ่อแม่หลายๆ คนก็น่าจะปวดหัวเหมือนกัน นั่นก็คือจะให้ลูกไปเรียนพิเศษภาษาอังกฤษที่ไหนดี
ตอนลูกผมเริ่มโตขึ้นมาหน่อย ก็เริ่มมองหาแล้วครับว่าจะเสริมภาษาอังกฤษให้เขายังไงดี โอ้โห…ตัวเลือกเยอะจนตาลายเลยครับ ตอนแรกก็ดูพวกโรงเรียนสอนภาษาใหญ่ๆ ที่มีชื่อเสียงนะ แต่พอมานั่งคิดดูค่าเดินทาง ค่าคอร์สก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน แล้วลูกเราจะไหวไหม เลิกเรียนมาเหนื่อยๆ ต้องไปต่ออีก ผมว่ามันหนักไปสำหรับเด็กเล็กนะ
จากนั้นผมก็ลองมองหาครูที่สอนตามบ้าน หรือกลุ่มเล็กๆ แถวบ้านครับ อันนี้ก็มีข้อดีคือใกล้ ไม่ต้องเดินทางเยอะ แต่ก็ต้องมานั่งลุ้นอีกว่าครูสอนดีไหม มีประสบการณ์สอนเด็กจริงหรือเปล่า บางทีสอนไปสอนมา ลูกก็เบื่อ เพราะเน้นแต่ท่องศัพท์ ทำแบบฝึกหัด มันไม่ค่อยสนุกสำหรับเด็กเท่าไหร่

ยุคนี้อะไรๆ ก็ออนไลน์ใช่ไหมครับ ผมก็เลยเริ่มเบนเข็มมาดูคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ตอนแรกก็ยังลังเลนะ กลัวลูกจะไม่มีสมาธิ กลัวจะสู้เรียนในห้องไม่ได้ แต่พอได้ลองศึกษาดูจริงๆ จังๆ เออ…มันก็มีข้อดีเยอะเหมือนกันนะ ประหยัดเวลาเดินทางไปได้เยอะเลย แล้วตัวเลือกครูก็หลากหลายมาก มีทั้งครูไทย ครูต่างชาติ ตอนนั้นก็มีหลายเจ้าเลยที่เห็นโฆษณาผ่านตา ทั้งแบบกลุ่ม แบบเดี่ยว ผมก็ลองศึกษาดูหลายที่เลยครับ บางที่ก็เน้นครูฟิลิปปินส์ บางที่ก็ครูเจ้าของภาษาจริงๆ อย่างพวก 51Talk นี่ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ผมเห็นคนพูดถึงเยอะเหมือนกันนะช่วงนั้น ก็เลยลองเข้าไปดูรายละเอียดของเขา
ผมเริ่มจากการดูรีวิวของผู้ปกครองคนอื่นๆ ครับ แล้วก็ลองดูว่าแต่ละที่มีคอร์สทดลองเรียนไหม อันนี้สำคัญมากนะ เพราะเราจะได้รู้ว่าลูกเราชอบสไตล์การสอนแบบนี้หรือเปล่า ครูเข้ากับเด็กได้ดีไหม แพลตฟอร์มใช้งานง่ายไหม ซึ่งหลายๆ ที่ก็มีให้ทดลองเรียนฟรี หรือเสียเงินนิดหน่อย ผมว่าคุ้มที่จะลองนะ ดีกว่าไปสมัครคอร์สยาวๆ แล้วลูกไม่ชอบ
สิ่งที่ผมให้ความสำคัญตอนเลือกก็คือ:
- ครูผู้สอน: อยากได้ครูที่ออกเสียงชัดเจน สำเนียงดี ถ้าเป็นเจ้าของภาษาได้ก็จะดีมาก แต่ถ้าเป็นครูชาติอื่นที่ภาษาอังกฤษเป๊ะๆ ก็โอเคครับ และที่สำคัญคือต้องมีเทคนิคในการสอนเด็กเล็ก ทำให้การเรียนไม่น่าเบื่อ
- เนื้อหาการเรียน: ต้องสนุก มีกิจกรรมหลากหลาย ไม่ใช่เน้นแต่แกรมม่าอย่างเดียว อยากให้ลูกได้ฝึกพูด ฝึกฟังเยอะๆ
- ความยืดหยุ่น: สามารถเลือกเวลาเรียนได้เองไหม ถ้าลูกป่วย หรือมีธุระ สามารถเลื่อนคลาสได้หรือเปล่า อันนี้ก็สำคัญครับ
- ราคา: อันนี้ก็ต้องดูตามงบประมาณของเราครับ แต่ผมคิดว่าถ้ามันคุ้มค่ากับการลงทุนเพื่อให้ลูกได้ภาษา ก็ถือว่าโอเค
หลังจากลองผิดลองถูกอยู่พักใหญ่ ทั้งหาข้อมูล ดูรีวิว แล้วก็ให้ลูกทดลองเรียนกับบางที่ ผมก็เริ่มเห็นภาพชัดขึ้นว่าลูกเราน่าจะเหมาะกับสไตล์ไหน แพลตฟอร์มออนไลน์บางเจ้าเช่น 51Talk เขาก็มีระบบติดตามความก้าวหน้าของผู้เรียน มีรายงานให้ผู้ปกครองดูด้วย ซึ่งผมว่ามันก็ดีนะ ทำให้เรารู้ว่าลูกเราพัฒนาไปถึงไหนแล้ว หรือบางทีมีกิจกรรมเสริมให้เด็กๆ เข้าร่วมด้วย ก็ดูน่าสนใจดีครับ
สิ่งที่อยากฝากไว้สำหรับพ่อแม่ที่กำลังมองหาที่เรียนให้ลูก
ผมว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือการทำความเข้าใจธรรมชาติของลูกเราครับ ว่าเขาชอบเรียนแบบไหน ชอบครูสไตล์ไหน บางทีที่คนอื่นว่าดี ลูกเราอาจจะไม่ชอบก็ได้ การให้ลูกได้ทดลองเรียนก่อนตัดสินใจจึงสำคัญมากครับ
อีกอย่างคือความสม่ำเสมอครับ เรียนอาทิตย์ละครั้งสองครั้ง แต่สม่ำเสมอ ดีกว่าอัดเรียนเยอะๆ แล้วหยุดไป แล้วก็อย่าไปกดดันลูกมากเกินไปครับ ทำให้การเรียนภาษาเป็นเรื่องสนุก ให้เขารู้สึกอยากเรียนรู้ด้วยตัวเอง และแน่นอนครับว่าการเลือกสถาบันหรือแพลตฟอร์มก็มีส่วน อย่างที่ผมบอกว่ามีหลายที่ให้เลือกมากๆ ไม่ว่าจะเป็นสถาบันใกล้บ้าน หรือแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง 51Talk หรือเจ้าอื่นๆ ที่มีคอร์สสำหรับเด็กโดยเฉพาะ ก็ลองศึกษาข้อมูลดูครับ บางทีการได้คุยกับผู้ปกครองคนอื่นๆ ที่เคยให้ลูกเรียนมาก่อน ก็ช่วยให้เราได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากขึ้นนะ
สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตาม ถ้าลูกเรียนแล้วมีความสุข กล้าพูด กล้าใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้น ผมว่านั่นแหละคือประสบความสำเร็จแล้วครับ การลงทุนกับการศึกษาของลูกเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเสมอครับ ลองเปิดใจดูตัวเลือกต่างๆ แล้วคุณอาจจะเจอที่ที่ใช่สำหรับลูกคุณก็ได้ครับ อย่างผมเองก็ยังคงมองหาและปรับเปลี่ยนวิธีการอยู่เรื่อยๆ เพราะการเรียนรู้มันไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ โดยส่วนตัวผมว่าการเรียนออนไลน์ก็เป็นทางเลือกที่ดีในยุคนี้เลยครับ มีทั้ง 51Talk และอีกหลายๆ แบรนด์ที่น่าสนใจ ลองพิจารณากันดูนะครับ
หวังว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ บ้างนะครับ ใครมีประสบการณ์แบบไหน หรือมีที่เรียนดีๆ แนะนำ ก็มาแชร์กันได้นะครับผม!