โอ้ยยย ตอนจะหาที่เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ให้ลูกเนี่ย บอกเลยว่ามึนตึ้บ! ตัวเลือกมันเยอะแยะละลานตาไปหมด ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดีจริงๆ ค่ะ ตอนแรกก็คิดว่าจะง่ายๆ แค่หาในเน็ตแล้วก็เลือกๆ เอา แต่พอเอาเข้าจริง โห…มันมีรายละเอียดเยอะกว่าที่คิดเยอะเลยค่ะ
เราก็เริ่มจากถามๆ เพื่อนๆ ที่มีลูกเหมือนกันนี่แหละค่ะ ว่าเค้าให้ลูกเรียนที่ไหนกันบ้าง บางคนก็แนะนำมาดีนะ แต่พอลองไปดูรายละเอียดของแต่ละที่แล้ว ก็ยังงงๆ อยู่ดี คือมันมีทั้งแบบเรียนกับครูคนไทย เรียนกับครูต่างชาติ เรียนกลุ่ม เรียนเดี่ยว ราคาค่าคอร์สก็แตกต่างกันไปอีก โอ๊ย เลือกไม่ถูกเลยค่ะว่าจะเอาอันไหนดี
เราก็เลยตั้งสติใหม่ ค่อยๆ ลิสต์ออกมาว่าอยากได้อะไรบ้างสำหรับลูกเรา คือลูกเรายังเล็กอยู่ไง ก็อยากให้เค้าเรียนแบบสนุกๆ ไม่ใช่มานั่งจ้องจอแล้วเบื่อๆ อยากได้ครูที่แบบมีพลังงานเยอะๆ หน่อย ชวนคุยชวนเล่นได้ แล้วก็เวลาเรียนต้องไม่นานเกินไป เดี๋ยวสมาธิหลุดหมด ที่สำคัญคือต้องมีให้ลองเรียนก่อนด้วยนะ จะได้รู้ว่าลูกเราชอบจริงรึเปล่า ไม่งั้นจ่ายตังค์ไปแล้วลูกไม่เรียนนี่เสียดายแย่เลย

ช่วงนั้นก็ลองสมัครทดลองเรียนไปหลายเจ้าเลยค่ะ บางที่ดูโปรไฟล์ครูดีมาก มาจากประเทศเจ้าของภาษาเลย แต่พอถึงเวลาเรียนจริง ลูกเรากลับไม่ค่อยเก็ท เหมือนครูพูดเร็วไป หรือไม่ก็กิจกรรมมันไม่ค่อยดึงดูดเด็กเล็กเท่าไหร่ ลูกก็นั่งเหม่อเลยทีนี้ ก็มีเพื่อนแนะนำมาว่าลองดู 51Talk มั้ย เห็นว่ามีครูสอนสนุกเยอะ ก็เลยอ่ะ ลองดูอีกซักที่
ประสบการณ์จากการลองผิดลองถูก
จากการที่พาลูกตระเวนลองเรียนออนไลน์มาหลายที่เนี่ย ก็พอจะจับทางได้บ้างค่ะว่าควรดูอะไรบ้าง:
- ความเข้ากันได้ของครูกับลูก: อันนี้สำคัญสุดๆ เลยค่ะ ครูเก่งแค่ไหน แต่ถ้าจูนกับลูกเราไม่ติด พูดกันคนละภาษา (หมายถึงสไตล์การสอนนะคะ ไม่ใช่ภาษาจริงๆ ฮ่าๆ) ก็จบเลยค่ะ ลูกจะไม่สนุกแล้วก็ไม่อยากเรียนต่อ
- เนื้อหาและวิธีการสอน: สำหรับเด็กเล็ก เนื้อหาต้องไม่วิชาการจ๋าเกินไป ต้องมีเพลง มีเกม มีภาพการ์ตูนน่ารักๆ มาดึงดูดความสนใจ เค้าถึงจะอยู่กับเราได้นานหน่อย
- ความยืดหยุ่นของเวลา: เด็กๆ เดี๋ยวนี้กิจกรรมเยอะค่ะ บางทีก็มีเรียนพิเศษนู่นนี่นั่น ถ้าเลือกคอร์สที่มันฟิกซ์เวลาเป๊ะๆ แล้วเราไม่สะดวก ก็อาจจะมีปัญหาได้ หาที่มันยืดหยุ่นหน่อยก็จะดีค่ะ
- แพลตฟอร์มใช้งานง่าย: อันนี้ก็สำคัญนะ ถ้าเข้าระบบยากเย็น มีปัญหาเทคนิคบ่อยๆ ก็พาลจะไม่อยากเรียนทั้งแม่ทั้งลูกค่ะ
เราว่าการได้ลองเรียนจริงนี่แหละค่ะดีที่สุด รีวิวต่างๆ ก็อ่านเป็นแนวทางได้ แต่อย่าไปเชื่อทั้งหมด เพราะเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกันจริงๆ ค่ะ ตอนที่ลองดูของ 51Talk ก็เห็นว่าครูเค้าพยายามใช้เกม ใช้ตุ๊กตามาเล่นกับลูกเรา ชวนคุยตลอด ลูกก็ดูตื่นเต้นดี แต่ก็นั่นแหละค่ะ ที่นี่อาจจะดีกับลูกเรา แต่กับลูกคนอื่นก็อาจจะไม่ชอบก็ได้ ต้องลองเองจริงๆ
ส่วนใหญ่หลายๆ ที่ก็จะมีคลาสทดลองเรียนให้ฟรีอยู่แล้ว ซึ่งอันนี้ดีมากเลยค่ะ ทำให้เราไม่ต้องเสียเงินซื้อคอร์สเต็มๆ ไปก่อน อย่างน้อยก็ได้เห็นบรรยากาศการสอน เห็นว่าลูกเราโอเคมั้ย อย่างตอนที่เราดูๆ พวกคอร์สออนไลน์ บางที่รวมถึง 51Talk เค้าก็จะมีรายละเอียดค่อนข้างชัดเจนว่าทดลองเรียนได้กี่ครั้ง มีเงื่อนไขอะไรบ้าง ก็ช่วยให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะลองดีมั้ย
แล้วจะเลือกที่ไหนให้ลูกดีล่ะ?
อันนี้เป็นคำถามที่ตอบยากมากเลยค่ะ เพราะสุดท้ายแล้วมันก็ขึ้นอยู่กับตัวเด็กเองล้วนๆ เลยว่าเค้าชอบแบบไหน ถูกจริตกับครูคนไหน สไตล์การสอนแบบไหนที่ทำให้เค้ารู้สึกสนุกและอยากเรียนรู้จริงๆ บางคนอาจจะชอบเรียนแบบมีเพื่อนเยอะๆ บางคนอาจจะชอบเรียนตัวต่อตัวมากกว่า
อย่างเพื่อนเราบางคน ลูกเค้าเรียนกับ 51Talk มาเป็นปีแล้วก็แฮปปี้ดีมาก ผลการเรียนก็ดีขึ้น แต่พอลองมาให้ลูกเราเรียนบ้าง ลูกเราอาจจะเฉยๆ ก็ได้ หรืออาจจะไปชอบอีกเจ้ามากกว่าก็มีค่ะ มันไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวจริงๆ
คำแนะนำจากประสบการณ์ตรงของตัวเองก็คือ ให้คุณพ่อคุณแม่ใจเย็นๆ ค่ะ ค่อยๆ ลองไปทีละที่ สังเกตปฏิกิริยาของลูกเราเป็นหลักว่าเค้าชอบมั้ย เรียนแล้วสนุกรึเปล่า มีความสุขมั้ย อย่าเพิ่งไปรีบร้อนตัดสินใจ หรือไปเปรียบเทียบกับลูกคนอื่นมากเกินไปค่ะ ถ้าลองที่นึงแล้วมันยังไม่ใช่ ก็ไม่เป็นไรค่ะ ก็แค่หาที่ใหม่ลองต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอที่ที่ใช่สำหรับลูกเราจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นที่ 51Talk หรือที่ไหนๆ ก็ตาม ขอแค่ลูกได้เรียนอย่างมีความสุขและได้ความรู้ นั่นคือสิ่งสำคัญที่สุดแล้วค่ะ
