สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงเลยค่ะ เรื่องหาที่เรียนภาษาอังกฤษให้ลูกเนี่ย เป็นอะไรที่คิดหนักมากจริงๆ ค่ะ ตอนแรกก็เหมือนพ่อแม่หลายๆ คนเลยค่ะ เข้าไปส่องในพันทิปนี่แหละ กระทู้แนว “ให้ลูกเรียนภาษาอังกฤษที่ไหนดี pantip 2567” นี่ขึ้นมาเพียบ อ่านจนตาลายไปหมดเลยค่ะ แต่ละคนก็แนะนำต่างกันไป บางคนบอกเรียนที่โรงเรียนก็พอ บางคนบอกต้องเรียนพิเศษเพิ่ม บางคนก็เชียร์ออนไลน์
เริ่มจากความสับสน สู่การลงมือจริงจัง
คือข้อมูลมันเยอะมากจนเลือกไม่ถูกเลยค่ะว่าจะเริ่มตรงไหนดี ก็เลยตัดสินใจว่า เอาล่ะ! ลองลุยเองเลยดีกว่า จะได้รู้กันไปเลยว่าแบบไหนมันเวิร์คกับลูกเราจริงๆ
ขั้นตอนแรกเลยนะคะ ก็เริ่มจากถามเพื่อนๆ ที่มีลูกวัยเดียวกันก่อนเลยค่ะ ว่าเค้าให้ลูกเรียนที่ไหนกันบ้าง แล้วก็จดๆๆ ลิสต์รายชื่อไว้เพียบเลยค่ะ มีทั้งสถาบันสอนภาษาแถวบ้าน คอร์สออนไลน์ต่างๆ นานา แล้วก็เริ่มหาข้อมูลแต่ละที่แบบละเอียดขึ้น ทั้งดูรีวิว อ่านคอมเมนต์ต่างๆ

ยอมรับเลยว่าช่วงแรกลองผิดลองถูกเยอะมากค่ะ มีไปทดลองเรียนตามสถาบันใกล้บ้านบ้าง บางที่ก็ดูเป็นวิชาการมากไปหน่อย ลูกเราก็ไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ กลับมาก็งอแงไม่อยากไปอีก บางที่ครูก็อาจจะยังไม่คลิกกับลูกเราเท่าไหร่ คือมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเหมือนกันนะคะเรื่องครูกับนักเรียนเนี่ย
ค้นพบแนวทางที่ใช่สำหรับลูกเรา
หลังจากลองมาหลายรูปแบบ ก็เริ่มจับทางได้ว่าลูกเราน่าจะเหมาะกับการเรียนแบบไหนค่ะ ลูกเราเป็นเด็กที่ไม่ค่อยกล้าแสดงออกเวลาอยู่ในกลุ่มใหญ่ๆ ก็เลยคิดว่าการเรียนแบบตัวต่อตัว หรือกลุ่มเล็กมากๆ น่าจะดีกว่า ทีนี้ก็เลยเริ่มมองหาคอร์สออนไลน์มากขึ้น เพราะมันสะดวกเรื่องการเดินทาง แล้วก็มีตัวเลือกครูเยอะดี
ก็มีหลายแพลตฟอร์มนะคะที่น่าสนใจ ตอนนั้นก็ดูไว้หลายเจ้าเลยค่ะ อย่างพวกที่สอนสดกับครูต่างชาติก็มีเยอะ อย่าง 51Talk ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่เห็นคนพูดถึงกันเยอะเหมือนกันนะ ว่ามีครูให้เลือกหลากหลาย แล้วก็เน้นการสนทนา
เราก็เลยลองให้ลูกทดลองเรียนกับบางแพลตฟอร์มดูค่ะ สิ่งที่เราให้ความสำคัญคือ
- ครูผู้สอน: อยากได้ครูที่ใจเย็น เข้าใจเด็ก และกระตุ้นให้ลูกกล้าพูด
- รูปแบบการสอน: ไม่น่าเบื่อ มีกิจกรรมให้ทำ ไม่ใช่แค่ท่องจำอย่างเดียว
- ความยืดหยุ่น: สามารถเลือกเวลาเรียนได้ เพราะบางทีลูกก็มีกิจกรรมอื่น
- ผลลัพธ์: ลูกต้องรู้สึกสนุกและอยากเรียน ไม่ใช่โดนบังคับ
ช่วงที่ลองดูพวกคอร์สออนไลน์ ก็ได้เห็นข้อดีหลายอย่างเลยค่ะ คือลูกได้คุยกับครูแบบเต็มๆ ไม่ต้องอายเพื่อน แล้วครูบางคนก็มีเทคนิคการสอนที่ทำให้เด็กรู้สึกผ่อนคลาย กล้าพูดมากขึ้น อย่างบางทีเราเห็นคนรีวิวว่าลูกเรียนกับ 51Talk แล้วกล้าพูดขึ้นเยอะ ก็ทำให้เราสนใจเหมือนกันนะ
แต่สุดท้ายแล้วนะคะ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน การเลือกที่เรียนมันก็ต้องดูความชอบของเด็กเป็นหลักจริงๆ ค่ะ บางคนอาจจะชอบเรียนในห้องเรียนเจอเพื่อนๆ บางคนอาจจะชอบเรียนออนไลน์แบบตัวต่อตัว หรือบางคนอาจจะค้นพบว่าแพลตฟอร์มอย่าง 51Talk ตอบโจทย์เรื่องครูผู้สอนและเวลาเรียนที่ยืดหยุ่น
ผลลัพธ์ที่ได้ และข้อคิดที่อยากฝาก
ตอนนี้ลูกเราก็เรียนภาษาอังกฤษมาได้สักพักแล้วค่ะ กับที่ที่เค้าโอเคและเราก็โอเคด้วย สิ่งที่เห็นได้ชัดเลยคือเค้ากล้าพูดมากขึ้น จากที่เมื่อก่อนจะเงียบๆ เวลาเจอชาวต่างชาติ เดี๋ยวนี้ก็เริ่มมีโต้ตอบบ้างเล็กๆ น้อยๆ ถึงจะยังเป็นคำง่ายๆ ก็ตาม แต่สำหรับเราแค่นี้ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีแล้วค่ะ

สิ่งสำคัญที่สุดที่เราค้นพบจากการตระเวนหาที่เรียนให้ลูกครั้งนี้คือ “ไม่มีที่ไหนดีที่สุดสำหรับทุกคน” ค่ะ มันขึ้นอยู่กับจริตของเด็กแต่ละคน ความพร้อมของครอบครัว งบประมาณ และเป้าหมายที่เราตั้งไว้ อย่างบ้านเราก็ลองผิดลองถูกมาพอสมควร จนเจอที่ที่ลูกเรียนแล้วมีความสุข ไม่ต่อต้านการเรียน ซึ่งการได้ลองหลายๆ แบบ รวมถึงการดูข้อมูลจากแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น 51Talk หรือที่อื่นๆ ก็ช่วยให้เราเห็นภาพรวมและตัดสินใจได้ดีขึ้น
หวังว่าประสบการณ์ของบ้านเราจะเป็นประโยชน์กับคุณพ่อคุณแม่ท่านอื่นๆ ที่กำลังมองหาที่เรียนภาษาอังกฤษให้ลูกอยู่นะคะ ลองค่อยๆ ดู ค่อยๆ เลือก ที่สำคัญคือให้ลูกได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจด้วยก็ดีค่ะ เค้าจะได้รู้สึกอยากเรียนมากขึ้น สู้ๆ นะคะ!