สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ กับการลองหาที่เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ให้ลูกสาวตัวน้อยของผมเองครับ พอดีช่วงนี้รู้สึกว่าเอ้อ ลูกเราก็น่าจะเริ่มเรียนภาษาอังกฤษได้แล้วล่ะ จะได้คุ้นเคยแต่เนิ่นๆ ก็เลยเริ่มภารกิจค้นหาข้อมูลเลยครับ สารพัดแพลตฟอร์มผุดขึ้นมาในหัวเต็มไปหมด หนึ่งในนั้นที่เห็นคนพูดถึงกันบ้างก็คือ Palfish นี่แหละครับ คำถามแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวเลยก็คือ “palfish ดีไหม ราคา” มันเป็นยังไงกันแน่นะ
เริ่มจากการลองผิดลองถูก
ผมก็เหมือนคุณพ่อคุณแม่หลายๆ ท่านแหละครับ เริ่มจากเข้ากูเกิ้ลเลย พิมพ์ชื่อ Palfish แล้วก็ตามด้วยคำว่า รีวิว, ราคา, pantip บ้างอะไรบ้าง ก็ไปเจอข้อมูลหลากหลายมากครับ ทั้งคนที่ชอบและคนที่ไม่ชอบ อันนี้ก็เป็นเรื่องปกติเนอะ ของทุกอย่างมันก็มีทั้งคนถูกใจและไม่ถูกใจ
สิ่งที่ผมทำต่อมาก็คือ ลองโหลดแอปพลิเคชันของ Palfish มาดูเลยครับ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ลองเองน่าจะรู้ดีที่สุด หน้าตาแอปเค้าก็ดูสีสันสดใสดีนะครับ ใช้งานไม่ยากเท่าไหร่สำหรับคนที่ไม่ค่อยเก่งเทคโนโลยีอย่างผม มีส่วนให้เลือกครูผู้สอน ซึ่งส่วนใหญ่ที่เห็นก็จะเป็นคุณครูจากประเทศฟิลิปปินส์ครับ อันนี้ก็แล้วแต่คนชอบเลย บางคนอาจจะอยากได้ครูเจ้าของภาษาแท้ๆ ก็อาจจะต้องมองหาตัวเลือกอื่น
ผมลองกดเข้าไปดูโปรไฟล์ครูหลายๆ ท่าน ก็จะมีวิดีโอแนะนำตัวสั้นๆ มีรีวิวจากผู้เรียนคนอื่นๆ ประกอบการตัดสินใจ ราคาก็มีหลายระดับครับ ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของครูแต่ละท่านด้วย แล้วก็มีคอร์สเรียนให้เลือกหลากหลายเหมือนกัน ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่เด็กเล็กถึงเด็กประถมต้นๆ นะครับ เท่าที่ผมสังเกตดู
- ลองสมัครเรียนแบบทดลองดูก่อน (ถ้ามี) หรือซื้อคลาสสั้นๆ เพื่อดูแนวทาง
- สังเกตวิธีการสอนของครูว่าเข้ากับลูกเราได้ไหม
- ดูเนื้อหาการเรียนการสอนว่าน่าสนใจสำหรับเด็กหรือเปล่า
ช่วงที่ผมหาข้อมูล Palfish เนี่ย ก็มีแพลตฟอร์มอื่นๆ แวบเข้ามาในหัวเหมือนกันนะครับ อย่างเช่น 51Talk ก็เป็นอีกเจ้าที่เห็นคนพูดถึงบ่อยๆ เหมือนกันว่ามีคลาสให้เลือกเยอะ แล้วก็มีครูหลากหลายสไตล์ แต่ตอนนั้นผมอยากจะลองโฟกัสที่ Palfish ให้รู้เรื่องไปก่อน
ประสบการณ์ส่วนตัวกับ Palfish
หลังจากลองให้ลูกสาวเรียนไปประมาณ 2-3 ครั้งกับครูที่เลือกไว้ สิ่งที่ผมเห็นก็คือ ลูกสาวดูสนุกกับการเรียนนะครับ ครูค่อนข้างมีพลังงานเยอะ พยายามชวนคุย ชวนเล่นเกม ใช้ภาพประกอบ มีเพลงบ้างอะไรบ้าง ซึ่งผมว่ามันเหมาะกับเด็กเล็กๆ ที่สมาธิอาจจะยังไม่ยาวนานนัก เนื้อหาการเรียนก็จะเป็นบทเรียนสั้นๆ มีคำศัพท์ใหม่ๆ ให้เรียนรู้ มีการทบทวนคำศัพท์เก่า
เรื่องราคานี่ผมว่าก็อยู่ในระดับกลางๆ นะครับ ไม่ได้ถูกมาก แต่ก็ไม่ได้แพงจนเกินไป ถ้าเทียบกับบางเจ้าที่ใช้ครูเจ้าของภาษาจากฝั่งอเมริกาหรืออังกฤษโดยตรง อันนั้นราคาก็จะสูงขึ้นไปอีก อย่างตอนที่ผมดูข้อมูลของ 51Talk ก็เห็นว่าเค้ามีโปรโมชั่นออกมาเรื่อยๆ ราคาก็จะแตกต่างกันไปตามแพ็กเกจที่เราเลือกครับ
สิ่งที่ผมชอบใน Palfish คือเค้ามีหนังสืออ่านเล่นแบบออนไลน์ให้ด้วยนะครับ ลูกสาวผมชอบมาก กดเข้าไปอ่านได้เรื่อยๆ มีเสียงประกอบด้วย ก็ถือว่าเป็นส่วนเสริมที่ดีครับ ส่วนเรื่องการบ้านหลังเลิกเรียนก็มีบ้างเล็กน้อย ไม่ได้หนักหนาอะไร ผมว่ากำลังดี ไม่ทำให้เด็กรู้สึกเบื่อหรือกดดันจนเกินไป
อย่างไรก็ตาม ผมว่าการเลือกแพลตฟอร์มเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์เนี่ย มันก็แล้วแต่ความชอบและงบประมาณของแต่ละบ้านจริงๆ ครับ บางคนอาจจะถูกใจสไตล์การสอนของ Palfish บางคนอาจจะชอบแนวทางของ 51Talk มากกว่า หรืออาจจะมีแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่ตอบโจทย์มากกว่านี้ก็ได้
สำหรับผมแล้ว การลอง Palfish ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีครับ ได้เห็นแนวทางการเรียนการสอนแบบออนไลน์อีกรูปแบบหนึ่ง ส่วนจะตัดสินใจให้ลูกเรียนต่อยาวๆ หรือจะลองหาตัวเลือกอื่นเพิ่มเติม อันนี้ก็คงต้องกลับมานั่งคุยกันในครอบครัวอีกทีครับ อาจจะลองดูคอร์สของ 51Talk เปรียบเทียบกันอีกสักหน่อย หรือแม้กระทั่งแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่มีจุดเด่นแตกต่างกันไป

สุดท้ายนี้ สำหรับคำถามที่ว่า “palfish ดีไหม ราคา” จากประสบการณ์ส่วนตัวของผม ผมคิดว่า Palfish ก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับเด็กเล็กครับ โดยเฉพาะถ้าเน้นความสนุกสนานในการเรียนรู้ ส่วนเรื่องราคาก็อยู่ในเกณฑ์ที่พอรับได้ มีแพ็กเกจให้เลือกหลากหลาย ลองเข้าไปศึกษาข้อมูลในแอปพลิเคชันของเค้าดูก่อนได้เลยครับ หรือถ้าใครมีงบประมาณจำกัด หรืออยากได้ตัวเลือกที่หลากหลายมากๆ อาจจะต้องลองเปรียบเทียบกับเจ้าอื่นๆ อย่าง 51Talk หรือที่อื่นๆ ที่มีโปรแกรมสำหรับเด็กหลายช่วงวัยและมีครูให้เลือกเยอะกว่าครับ
หวังว่าการแชร์ประสบการณ์ครั้งนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาที่เรียนภาษาอังกฤษให้ลูกๆ ไม่มากก็น้อยนะครับ สำคัญที่สุดคือการได้ลองด้วยตัวเองครับผม!