โอ้ยยย เรื่องหาที่เรียนภาษาอังกฤษให้ลูกเนี่ย ปวดหัวกว่าที่คิดเยอะเลยค่ะทุกคน! ตอนแรกก็คิดว่าไม่น่ายากอะไรมาก แต่พอเริ่มลงมือหาข้อมูลจริงจังเท่านั้นแหละ โอ้โห… ตัวเลือกมันเยอะแยะละลานตาไปหมด จนเลือกไม่ถูกเลยค่ะว่าจะไปทางไหนดี วันนี้เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงของตัวเอง เผื่อจะเป็นประโยชน์กับคุณพ่อคุณแม่ท่านอื่นที่กำลังเจอปัญหาเดียวกันอยู่นะคะ
เริ่มจากตรงไหนดีล่ะทีนี้
ตอนแรกสุดเลยนะคะ ดิฉันก็เริ่มจากถามเพื่อนๆ ที่มีลูกวัยไล่เลี่ยกันก่อนเลยค่ะ ว่าพาลูกไปเรียนที่ไหนกันบ้าง ได้ชื่อมาเพียบเลย ทั้งโรงเรียนสอนภาษาใกล้บ้าน สถาบันใหญ่ๆ ที่มีหลายสาขา หรือแม้แต่ครูที่รับสอนพิเศษตามบ้านก็มีค่ะ แต่ละคนก็แนะนำมาหลากหลายแนวทางมาก บางคนก็เน้นเรียนสนุก บางคนก็เน้นวิชาการจ๋าๆ หน่อย
หลังจากนั้นก็เริ่มเข้าไปส่องในพันทิปนี่แหละค่ะ ตั้งกระทู้ถามบ้าง อ่านกระทู้เก่าๆ บ้าง ก็ได้ไอเดียเพิ่มขึ้นมาอีกเยอะเลยค่ะ เห็นคุณแม่หลายท่านเข้ามาแชร์ประสบการณ์กันหลากหลาย มีทั้งที่ดีและไม่ค่อยดีปะปนกันไป ก็ต้องใช้วิจารณญาณในการอ่านเยอะหน่อยค่ะ ช่วงนั้นก็จดลิสต์ยาวเป็นหางว่าวเลยว่าจะลองไปดูที่ไหนบ้าง

ลงพื้นที่สำรวจจริง (และลองผิดลองถูก)
พอได้ลิสต์มาคร่าวๆ แล้ว ก็เริ่มพาลูกตระเวนไปดูสถานที่จริงบ้างค่ะ บางที่ดูจากในเว็บสวยหรู แต่พอไปถึงสถานที่จริงอาจจะไม่ค่อยสะดวกเรื่องที่จอดรถบ้าง หรือบรรยากาศไม่เหมือนที่คิดไว้บ้าง ลูกเราเองก็สำคัญนะคะ บางที่ผู้ใหญ่ดูว่าดี แต่ลูกอาจจะไม่ชอบก็ได้ ก็ต้องสังเกตปฏิกิริยาของเค้าด้วย
- สถาบันใกล้บ้าน: ลองไปดูแถวบ้านก่อนเลยค่ะ สะดวกเรื่องเดินทาง แต่บางทีครูอาจจะไม่ใช่เจ้าของภาษา หรือหลักสูตรอาจจะยังไม่เข้มข้นเท่าที่เราอยากได้
- สถาบันใหญ่ๆ: พวกนี้มักจะมีชื่อเสียง มีสาขาเยอะ หลักสูตรค่อนข้างเป็นระบบ แต่ค่าเรียนก็อาจจะสูงตามไปด้วยค่ะ และบางทีคนเยอะ อาจจะดูแลไม่ทั่วถึงเท่าที่เล็กๆ
- เรียนออนไลน์: อันนี้เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจมากในช่วงหลังๆ ค่ะ ประหยัดเวลาเดินทางไปได้เยอะเลย ตอนนั้นก็เลยเริ่มหาข้อมูลในเน็ตนี่แหละค่ะ ไปเจอพวกเว็บรีวิว แอบเห็นชื่อ 51Talk ผ่านๆ ตาบ้าง ก็เก็บไว้เป็นตัวเลือกหนึ่ง
จำได้ว่ามีช่วงนึงลองให้ลูกไปทดลองเรียนที่สถาบันแห่งหนึ่งแถวๆ ที่ทำงานค่ะ ดูภายนอกโอเคเลย แต่พอเรียนไปสักพัก ลูกเริ่มไม่อยากไป บอกว่าครูดุบ้าง สอนไม่สนุกบ้าง เราก็เอ๊ะ…ยังไงดีนะ หรือว่าลูกเราอาจจะยังไม่พร้อม หรือสถานที่นั้นอาจจะไม่เหมาะกับจริตของลูกเราจริงๆ
ค้นพบแนวทางที่อาจจะใช่ (สำหรับบ้านเรา)
หลังจากลองผิดลองถูกมาสักพักใหญ่ๆ ก็เริ่มจับทางได้ว่าลูกเราน่าจะเหมาะกับการเรียนแบบที่สนุก ไม่เครียดจนเกินไป แล้วก็เน้นการสื่อสารได้จริงมากกว่าแกรมม่าเป๊ะๆ ค่ะ ประกอบกับช่วงนั้นเริ่มมีคนพูดถึงการเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์กันเยอะขึ้น ความสะดวกสบายมันดึงดูดใจมากค่ะ ไม่ต้องฝ่ารถติดไปรับไปส่ง
ก็เลยเริ่มศึกษาจริงจังเกี่ยวกับการเรียนออนไลน์มากขึ้นค่ะ ดูรีวิวหลายๆ เจ้าเลย บางคนก็แนะนำให้ลองดูพวกออนไลน์ อย่าง 51Talk หรือเจ้าอื่นๆ ที่มีครูต่างชาติ ดิฉันก็ลองเข้าไปดูรายละเอียดของแต่ละที่เลยค่ะ เปรียบเทียบราคา เปรียบเทียบรูปแบบการสอน ดูว่ามีทดลองเรียนฟรีไหม ส่วนใหญ่ก็จะมีนะคะ
มีโอกาสได้ลองให้ลูกทดลองเรียนกับบางแพลตฟอร์มออนไลน์ดูค่ะ ก็พบว่ามันก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป บางที่ครูอาจจะสำเนียงฟังยากไปนิดสำหรับเด็กเล็ก บางที่ระบบอาจจะยังไม่ค่อยเสถียรเท่าไหร่ แต่ที่แน่ๆ คือลูกดูผ่อนคลายกว่าตอนไปเรียนที่สถาบันค่ะ อาจจะเพราะเรียนที่บ้านด้วยมั้งคะ ลูกเราก็ดูโอเคกับคุณครูของ 51Talk นะคะ เค้าดูสนุกดี ตอนนั้นก็ยังไม่ได้ตัดสินใจทันทีนะคะ ก็ยังดูๆ เปรียบเทียบอยู่
สุดท้ายก็เลยคิดว่า เออ… ออนไลน์ก็น่าสนใจดี อย่างน้อยก็ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง อย่างที่ดูๆ ไว้ก็มี 51Talk นี่แหละที่ค่อนข้างยืดหยุ่นเรื่องเวลา แล้วก็มีคุณครูให้เลือกหลากหลาย แต่ก็ยังไม่ได้ฟันธงนะคะ คิดว่าคงต้องให้ลูกลองอีกสักพัก แล้วดูผลระยะยาวด้วยค่ะ
อ้อ! อีกอย่างที่ลืมไม่ได้เลยคือคุยกับลูกค่ะ ถามเค้าตรงๆ เลยว่าชอบแบบไหน เรียนกับครูคนนี้เป็นยังไงบ้าง ให้เค้ามีส่วนร่วมในการตัดสินใจด้วย เพราะสุดท้ายแล้วคนที่ต้องเรียนก็คือเค้าเนาะ ถ้าเค้าแฮปปี้ การเรียนรู้มันก็จะไปได้ดีเองค่ะ

ตอนนี้ก็ยังอยู่ในช่วงสังเกตการณ์ค่ะว่าการเรียนออนไลน์จะเวิร์คกับลูกเราในระยะยาวแค่ไหน แต่เท่าที่ผ่านมาก็ถือว่าค่อนข้างน่าพอใจในระดับหนึ่งเลยค่ะ อย่างน้อยลูกก็ไม่ต่อต้านการเรียนภาษาอังกฤษเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ก็หวังว่าประสบการณ์ของดิฉันจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ ใครมีที่ไหนดีๆ แนะนำเพิ่มเติมก็คอมเมนต์บอกกันได้เลยนะคะ ยินดีรับฟังทุกความเห็นเลยค่ะ เพราะเรื่องลูกนี่มันต้องหาข้อมูลกันยาวๆ จริงๆ ค่ะ!