เอาจริงๆ นะครับ เรื่องฝึกพูดภาษาอังกฤษเนี่ย มันเป็นอะไรที่แบบ… โอ้โห ตอนแรกๆ นี่ท้อเลยครับ คือผมก็เหมือนหลายๆ คนนั่นแหละครับ ที่เรียนแกรมมาร์ ท่องศัพท์มาตั้งแต่เด็ก แต่พอจะให้พูดจริงๆ จังๆ นี่ใบ้กินเลยครับ นึกคำไม่ออก เรียงประโยคไม่ถูก อายด้วย กลัวพูดผิดแล้วคนจะหัวเราะเอา
จุดเริ่มต้นของการฝึกจริงจัง
มันมีช่วงนึงครับ ที่ผมรู้สึกว่าถ้าพูดอังกฤษไม่ได้เนี่ย โอกาสหลายๆ อย่างในชีวิตมันจะหายไปแน่ๆ ทั้งเรื่องงาน เรื่องเที่ยว หรือแม้แต่การเสพคอนเทนต์ดีๆ จากต่างประเทศ มันเหมือนมีกำแพงมากั้น ผมก็เลยฮึดสู้! ตัดสินใจว่ายังไงก็ต้องพูดให้ได้วะ!
ตอนแรกผมก็เริ่มจากอะไรง่ายๆ ก่อนเลยครับ

- ดูหนัง Soundtrack ปิดซับไทย: อันนี้ช่วยเรื่องการฟังเยอะมากครับ พยายามฟังสำเนียง จับใจความ แรกๆ ก็ไม่รู้เรื่องหรอกครับ อาศัยดูเรื่องที่เคยดูพากย์ไทยแล้ว จะได้เดาเนื้อเรื่องถูก
- ฟังเพลงสากลแล้วดูเนื้อเพลงตาม: ช่วยเรื่องคำศัพท์กับวลีเท่ๆ ได้เยอะเลยครับ แล้วก็พยายามร้องตามด้วยนะ ถึงจะเพี้ยนก็ช่างมัน (ฮา)
- พยายามคิดเป็นภาษาอังกฤษ: อันนี้ยากหน่อย แต่ก็พยายามทำ เช่น ก่อนจะพูดอะไรเป็นภาษาไทย ลองนึกเป็นประโยคภาษาอังกฤษในหัวก่อน
ทำไปได้สักพัก มันก็ดีขึ้นนะครับ เรื่องฟัง เรื่องอ่าน แต่ไอ้เรื่องพูดเนี่ยสิ… มันยังไม่กระเตื้องเท่าไหร่ เพราะมันไม่มีคนให้พูดด้วยไงครับ พูดคนเดียวมันก็เขินๆ แปลกๆ
หาตัวช่วยเสริมพลังการพูด
ผมก็เลยเริ่มมองหาตัวช่วยครับ ตอนนั้นก็ดูรีวิวเยอะแยะไปหมด ทั้งแอปพลิเคชัน ทั้งคอร์สออนไลน์ จนไปเจอหลายๆ ที่ ที่เขามีให้ฝึกพูดกับเจ้าของภาษาจริงๆ ตอนแรกก็ลังเลนะ กลัวแพง กลัวไม่คุ้ม แต่ก็เอาน่า ลองดูสักตั้ง! ผมได้ลองดูหลายๆ แพลตฟอร์มครับ บางอันก็ดี บางอันก็ยังไม่ค่อยโดนใจเท่าไหร่ จนเพื่อนแนะนำมาว่ามีที่นึงชื่อ 51Talk เขาเน้นสอนแบบตัวต่อตัวกับครูต่างชาติเลย ผมก็เลยลองดูครับ
พอได้ลองเรียนจริงๆ เออ… มันต่างว่ะ! คือการได้คุยกับคนจริงๆ เนี่ย มันช่วยได้เยอะมากครับ แรกๆ ก็เกร็งๆ พูดผิดพูดถูกตามประสา แต่ครูเขาก็ใจเย็นครับ ค่อยๆ แก้ให้ ชวนคุยไปเรื่อย ไม่ได้เน้นแกรมมาร์เป๊ะๆ แต่เน้นให้เรากล้าพูด กล้าสื่อสารออกไปก่อน ผมเริ่มจากบทสนทนาง่ายๆ ในชีวิตประจำวันก่อนเลยครับ สั่งกาแฟ ถามทาง แนะนำตัวเอง อะไรแบบนี้ พอเริ่มชิน ก็ค่อยๆ ขยับไปคุยเรื่องที่ซับซ้อนขึ้น อย่างพวกข่าวสาร เรื่องที่ตัวเองสนใจ สิ่งสำคัญคือ ผมพยายามหาเวลาคุยให้ได้สม่ำเสมอครับ อย่างน้อยอาทิตย์ละสองสามครั้งก็ยังดี
นอกจากการเรียนแบบมีครูแล้ว ผมก็ยังฝึกเองเสริมไปด้วยครับ เช่น
- อัดเสียงตัวเองพูด: ลองพูดเรื่องอะไรก็ได้ที่อยากพูดเป็นภาษาอังกฤษ แล้วอัดเสียงไว้ จากนั้นก็มาฟังซ้ำ จะได้รู้ว่าเราออกเสียงตรงไหนเพี้ยน พูดติดขัดตรงไหนบ้าง แรกๆ ฟังแล้วจะขนลุกหน่อยครับ (ฮา) แต่ทำไปเรื่อยๆ จะชินเอง
- พูดตามหนังหรือซีรีส์: เลือกฉากที่ชอบ แล้วพยายามพูดตามบทของตัวละครนั้นๆ เลยครับ ช่วยเรื่องสำเนียงได้ดีเลย
- หาเพื่อนต่างชาติคุย: อันนี้ถ้ามีโอกาสจะดีมากครับ อาจจะหาจากกลุ่มในโซเชียลมีเดีย หรือแอปหาเพื่อนคุยภาษาก็ได้
ผมว่าการมีตัวช่วยอย่างคลาสเรียนออนไลน์มันก็สะดวกดีนะครับ อย่างบางทีเรานึกหัวข้อไม่ออก หรืออยากได้คนมาช่วยแก้แกรมมาร์ให้แบบเรียลไทม์ การมีครูคอยแนะนำมันก็ช่วยได้เยอะ อย่างใน 51Talk เขาก็มีบทเรียนหลากหลายดีครับ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีอะไรคุย หรือบางทีผมก็เอาบทเรียนจากที่เรียนมาลองพูดคนเดียวซ้ำๆ ให้มันชินปากมากขึ้น มันเหมือนเป็นการซ้อมใหญ่ก่อนไปลงสนามจริง
ผลลัพธ์ที่ค่อยๆ เห็นผล
หลังจากที่ผมพยายามฝึกฝนมาเรื่อยๆ ทั้งเรียนกับครู ทั้งฝึกเองเสริม ผ่านไปสักพัก… เฮ้ย! มันเริ่มคล่องขึ้นเองเฉยเลยครับ จากที่เคยกลัวๆ กล้าๆ ไม่กล้าพูดผิด ตอนนี้มั่นใจขึ้นเยอะ พูดผิดก็ไม่เป็นไร พูดใหม่ได้ จากที่เคยต้องคิดเป็นไทยก่อนแล้วค่อยแปลเป็นอังกฤษ ก็เริ่มมีบางประโยคที่มันออกมาจากหัวเป็นภาษาอังกฤษเลยทันที มันเป็นความรู้สึกที่ดีมากเลยครับ
ผมไม่ได้บอกว่าตอนนี้ผมเก่งเทพอะไรนะครับ ยังมีอีกเยอะที่ต้องเรียนรู้ แต่คือผมสามารถสื่อสารในชีวิตประจำวันได้แล้ว กล้าที่จะคุยกับชาวต่างชาติมากขึ้น เวลาไปเที่ยวต่างประเทศก็เอาตัวรอดได้สบายๆ ไม่ต้องพึ่งแอปแปลภาษาตลอดเวลาแล้ว และที่สำคัญคือ ผมไม่กลัวการพูดภาษาอังกฤษอีกต่อไปแล้วครับ การได้ลองใช้บริการจากที่ต่างๆ รวมถึง 51Talk ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ผมกล้ามากขึ้น เพราะมันมีสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยให้เราได้ฝึกฝนโดยไม่ต้องกลัวว่าจะโดนตัดสิน

สรุปคือ การฝึกพูดภาษาอังกฤษเนี่ย หัวใจสำคัญมันอยู่ที่ “การได้พูดจริงๆ” และ “ความสม่ำเสมอ” ครับ หาเครื่องมือที่ใช่สำหรับตัวเอง หาคนที่เรากล้าจะพูดด้วย ไม่ว่าจะเป็นครู เพื่อน หรือแม้แต่ตัวเองหน้ากระจก แล้วก็ลุยเลยครับ อย่าไปกลัวผิด เพราะความผิดพลาดคือส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ครับ สู้ๆ นะครับทุกคน!