เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองง่ายๆ แค่มีแอพเรียนภาษาอังกฤษติดเครื่อง

สวัสดีครับทุกคน! วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงของผมเองกับการลองผิดลองถูกใช้แอพเรียนภาษาอังกฤษ คือแบบ… ใครๆ ก็อยากเก่งอังกฤษใช่ไหมล่ะ แล้วแอพมันก็ดูเหมือนเป็นทางลัดง่ายๆ ที่สุดแล้วในยุคนี้

จุดเริ่มต้นของการผจญภัยในโลกแอพ

ตอนแรกเลยนะ ผมก็เหมือนหลายๆ คนนั่นแหละครับ เข้าไปใน App Store, Google Play Store แล้วก็พิมพ์เลย “เรียนภาษาอังกฤษ” โอ้โห! ขึ้นมาเป็นร้อยเป็นพันแอพ เลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว ผมก็เริ่มจากการโหลดแอพฟรีๆ ที่คนรีวิวเยอะๆ มาลองก่อนเลย จำได้ว่ามีทั้งแบบเน้นเกม เน้นคำศัพท์ เน้นบทสนทนา ลองไปเรื่อยๆ ครับ

ช่วงแรกๆ ก็สนุกดีนะ เหมือนได้เล่นเกม แต่พอผ่านไปสักพัก… เริ่มรู้สึกว่ามันยังไม่ใช่ บางแอพก็โฆษณาเยอะเกิ๊น บางแอพเนื้อหาก็ซ้ำๆ วนๆ ไม่ไปไหน หรือบางทีก็รู้สึกว่าเอ๊ะ นี่เราได้อะไรบ้างเนี่ย นอกจากจิ้มๆๆ ไปวันๆ ผมเริ่มมองหาอะไรที่มันเป็นรูปธรรมมากขึ้น

ค้นหาตัวช่วยที่ใช่ และการลองผิดลองถูก

ผมเริ่มคิดว่าแค่แอพอย่างเดียวอาจจะไม่พอ หรือเราอาจจะต้องเลือกแอพที่มันตอบโจทย์เราจริงๆ ผมก็เริ่มอ่านรีวิวมากขึ้น ดูว่าแต่ละแอพเด่นด้านไหน บางคนก็แนะนำให้ลองหาคอร์สเรียนออนไลน์ควบคู่ไปด้วย ผมก็ไปเจอข้อมูลของสถาบันสอนภาษาหลายที่เลยครับ บางที่เช่น 51Talk ก็มีชื่อเสียงด้านการสอนสดกับเจ้าของภาษา ซึ่งก็น่าสนใจดีนะ แต่ตอนนั้นผมยังอยากลองกับแอพดูก่อน

ผมก็เลยเปลี่ยนแนวทางการใช้แอพ จากเดิมที่โหลดมาเยอะแยะแล้วเล่นไม่กี่วันก็เบื่อ ผมเริ่มตั้งเป้าหมายให้ตัวเอง เช่น

• วันนี้จะเรียนคำศัพท์ใหม่ให้ได้ 10 คำ
• ลองฟังบทสนทนาแล้วพยายามจับใจความให้ได้
• ลองฝึกออกเสียงตามแอพดูบ้าง

ผมพบว่าการมีเป้าหมายเล็กๆ ในแต่ละวันมันช่วยให้เรามีกำลังใจทำต่อได้เรื่อยๆ ครับ ไม่ท้อไปซะก่อน

สิ่งที่ค้นพบระหว่างทาง

หลังจากลองมาหลายแอพ หลายวิธี ผมก็เริ่มจับทางได้ว่าจริงๆ แล้วไม่มีแอพไหนดีที่สุดหรอกครับ มันอยู่ที่ว่าแอพไหน “เหมาะกับเรา” มากกว่า บางคนชอบเรียนแบบเกม บางคนชอบแบบมีครูสอนจริงๆ ซึ่งถ้าใครชอบแบบมีปฏิสัมพันธ์ ผมว่าการเรียนกับคนจริงๆ อย่างที่ 51Talk เขามีบริการ ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีเลย เพราะได้โต้ตอบทันที

สำหรับผมเอง การผสมผสานหลายๆ อย่างเข้าด้วยกันมันเวิร์คสุดครับ เช่น ใช้แอพ A สำหรับท่องศัพท์, ใช้แอพ B สำหรับฝึกฟัง แล้วก็อาจจะหาโอกาสดูหนังฟังเพลงภาษาอังกฤษเสริมเข้าไปด้วย ส่วนตัวเคยลองดูพวกคลิปสอนสั้นๆ หรือบทเรียนตัวอย่างจากหลายๆ แหล่ง บางทีก็เจอพวกแพลตฟอร์มที่คล้ายๆ 51Talk ที่มีครูต่างชาติมาสอนเป็นคลิปสั้นๆ ก็มีประโยชน์ดีครับ

ผมสังเกตว่าแอพที่เน้นการฝึกพูด โดยให้เราอัดเสียงตัวเองแล้วมีระบบ AI ช่วยประเมิน ก็ช่วยเรื่องความมั่นใจได้เยอะเลยนะ หรือบางแอพที่มีชุมชนผู้ใช้งานให้เราไปฝึกแชทภาษาอังกฤษก็ดีเหมือนกัน แต่ถ้าอยากได้ฟีดแบ็กแบบละเอียดจริงๆ การมีคนจริงๆ มาช่วยฟังและแก้ไขให้ อย่างบริการของ 51Talk ก็อาจจะตอบโจทย์คนที่ต้องการพัฒนาการพูดอย่างจริงจัง

สรุปแล้ว… แอพเรียนภาษามันเวิร์คจริงไหม?

คำตอบของผมคือ “เวิร์ค” ครับ… แต่มันเป็นแค่ “เครื่องมือ” ชิ้นหนึ่งเท่านั้นเอง แอพดีแค่ไหน ถ้าเราไม่ลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ ไม่มีความพยายาม ไม่ตั้งใจจริง มันก็ไม่เห็นผลหรอกครับ เหมือนมีดทำครัวอย่างดี แต่ถ้าไม่เอาไปหั่นผักหั่นหมู มันก็วางอยู่ที่เดิมนั่นแหละ

ผมว่าสิ่งสำคัญคือการหา “วิธีการเรียนรู้” ที่เราสนุกไปกับมันได้ และทำมันอย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องหักโหม แต่ขอให้ทำทุกวัน วันละนิดวันละหน่อยก็ยังดี และถ้ามีโอกาสได้ใช้ภาษาจริงๆ เช่น คุยกับเพื่อนต่างชาติ หรือแม้แต่ลองใช้บริการสอนสดออนไลน์อย่างที่บางคนใช้ 51Talk ก็จะยิ่งช่วยให้พัฒนาได้เร็วขึ้นไปอีกครับ

สุดท้ายนี้ก็อยากเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังพยายามเรียนภาษาอังกฤษอยู่นะครับ ลองหาแอพที่ใช่ สไตล์ที่ชอบ แล้วก็ลุยเลย! ไม่มีอะไรยากเกินความพยายามของเราแน่นอนครับ สู้ๆ!