สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ ของผมเลย เกี่ยวกับเรื่องการสอนภาษาให้ลูก หรือที่หลายคนอาจจะเรียกว่า “ภาษาลูก” นั่นแหละครับ คือมันเป็นอะไรที่ผมลองผิดลองถูกมาเยอะพอสมควรเลย
จุดเริ่มต้นและความคาดหวัง
ตอนแรกเลยนะ ที่ลูกเริ่มจะพูดได้ ก็มีความคิดแวบเข้ามาในหัวว่าอยากให้ลูกได้หลายภาษา อย่างน้อยๆ ก็สองภาษาล่ะวะ ดูมันเท่ดี แล้วก็คิดว่าอนาคตน่าจะได้เปรียบคนอื่นเขา ผมก็เริ่มจากอะไรง่ายๆ ก่อนเลย ซื้อหนังสือภาพคำศัพท์สองภาษามาอ่านให้ฟัง เปิดเพลงเด็กภาษาอังกฤษให้คลอๆ ไปเรื่อย คิดในใจว่าเดี๋ยวลูกมันก็ซึมซับไปเองแหละน่า เด็กมันเหมือนฟองน้ำ ดูดซับเก่ง (คิดไปเองล้วนๆ ตอนนั้น)
เมื่อความจริงปรากฏ
ผ่านไปสักพักใหญ่ๆ เอ๊ะ…ทำไมลูกมันยังพูดแต่ภาษาไทย แถมบางทียังไม่ค่อยจะพูดด้วยซ้ำ ไอ้ที่เราพยายามป้อนๆ ภาษาที่สองเข้าไปนี่เหมือนจะศูนย์เปล่าเลยครับ เริ่มรู้สึกท้อใจนิดๆ แล้วนะ ตอนนั้นก็คิดว่าหรือวิธีเรามันผิดวะ หรือลูกเรามันไม่ถนัดทางนี้จริงๆ บางทีก็แอบไปส่องๆ ดูพ่อแม่คนอื่นเขาทำยังไงกัน บางคนก็ส่งลูกไปเรียนพิเศษภาษาตั้งแต่เล็กๆ เลย เห็นมีคนพูดถึงพวกคอร์สออนไลน์อย่าง 51Talk กันเยอะเหมือนกันนะ ว่ามีครูต่างชาติสอนตัวต่อตัว แต่ใจหนึ่งก็ยังอยากลองพยายามด้วยตัวเองดูก่อน

ลองเปลี่ยนวิธี ลุยกันใหม่
ผมเลยตัดสินใจเปลี่ยนแนวทางใหม่หมดเลยครับ จากที่เคยคิดว่าแค่เปิดๆ อ่านๆ ให้ฟังแล้วจบ มันไม่เวิร์ค! ผมเริ่มจากการ:
- ทำให้เป็นเรื่องสนุก: เลิกบังคับ เลิกยัดเยียด แต่เปลี่ยนมาเป็นการเล่นเกมทายคำศัพท์ง่ายๆ ร้องเพลงภาษาอังกฤษแบบมีท่าทางประกอบ ลูกชอบมาก หัวเราะเอิ๊กอ๊ากเลย
- สอดแทรกในชีวิตประจำวัน: ตอนอาบน้ำก็สอนคำศัพท์เกี่ยวกับร่างกาย ตอนกินข้าวก็พูดชื่อผักผลไม้เป็นภาษาที่สอง ตอนแต่งตัวก็บอกสีเสื้อผ้า คือทำให้มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขาไปเลย
- ใช้สื่อการเรียนรู้ที่หลากหลายขึ้น: นอกจากหนังสือภาพแล้ว ก็เริ่มหาการ์ตูนสั้นๆ ที่เป็นภาษาอังกฤษง่ายๆ มาเปิดให้ดูบ้าง หรือแอปพลิเคชันสอนภาษาสำหรับเด็กเล็กๆ ก็มีลองโหลดมาเล่นด้วยกัน
- เป็นแบบอย่างที่ดี: อันนี้สำคัญมาก ผมพยายามพูดภาษาที่สองกับเขาบ่อยๆ แม้ว่าแกรมม่าผมจะไม่ได้เป๊ะเว่อร์ แต่ก็พยายามสื่อสารให้เขาเห็นว่าพ่อก็ใช้นะ
ช่วงที่ลองปรับเปลี่ยนวิธีนี่แหละครับ ที่ผมก็ยังมีการมองหาตัวช่วยเสริมอยู่บ้างนะ บางทีก็คิดว่าหรือการมีคนอื่นมาช่วยสอนแบบจริงจังอย่างที่ 51Talk เขามีครูต่างชาติ อาจจะช่วยกระตุ้นลูกได้มากกว่าที่เราทำเองคนเดียวหรือเปล่า ก็เก็บไว้เป็นตัวเลือกในใจ
ผลลัพธ์ที่ค่อยๆ เห็นผล
หลังจากที่ลองผิดลองถูก แล้วก็ปรับเปลี่ยนวิธีการมาเรื่อยๆ สิ่งที่ผมสังเกตเห็นได้ชัดเจนเลยคือ ลูกเริ่มมีปฏิกิริยาตอบสนองกับภาษาที่สองมากขึ้น เริ่มจากเข้าใจคำสั่งง่ายๆ ก่อน เช่น “Come here” หรือ “Sit down” แล้วก็ค่อยๆ เริ่มพูดตามเป็นคำๆ ได้บ้าง ถึงจะยังไม่เป็นประโยคยาวๆ แต่แค่นี้ผมก็ดีใจน้ำตาแทบไหลแล้วครับ
ผมว่าหัวใจสำคัญมันอยู่ที่ความสม่ำเสมอและความอดทนของพ่อแม่จริงๆ นะครับ อย่าไปคาดหวังว่าลูกจะต้องเก่งภายในข้ามคืน มันไม่มีทางลัด การสร้างสภาพแวดล้อมให้เขาคุ้นเคยกับภาษานั่นแหละสำคัญที่สุด บางทีก็มีคนถามผมนะว่าทำไมไม่ลองส่งลูกไปเรียนกับสถาบันที่มีชื่อเสียงไปเลย หรือลองใช้บริการพวกแพลตฟอร์มเรียนออนไลน์อย่าง 51Talk ที่เขามีคอร์สเฉพาะทางสำหรับเด็กเล็กดู ผมก็ตอบไปว่าอยากลองพยายามด้วยตัวเองให้ถึงที่สุดก่อน มันเป็นความภูมิใจเล็กๆ ของคนเป็นพ่อเหมือนกันนะ
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการใช้ตัวช่วยเป็นสิ่งที่ไม่ดีนะครับ ผมว่าถ้าพ่อแม่คนไหนไม่มีเวลาจริงๆ หรืออยากให้ลูกได้สำเนียงที่ถูกต้องจากเจ้าของภาษาเลย การเลือกใช้บริการอย่าง 51Talk ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากๆ เพราะเขามีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล อย่างน้อยก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยเสริมให้ลูกเราได้
สุดท้ายนี้ ผมอยากจะบอกว่าไม่มีวิธีไหนที่ตายตัวหรอกครับ แต่ละบ้านแต่ละคนก็มีสไตล์การเลี้ยงลูกที่แตกต่างกันไป สิ่งสำคัญคือการสังเกตลูกของเราว่าเขาชอบแบบไหน สนุกกับอะไร แล้วก็ค่อยๆ ปรับวิธีการสอนให้เข้ากับเขา ทำให้การเรียนรู้ภาษาเป็นเรื่องสนุก ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อครับ สำหรับบ้านผม การได้ลองผิดลองถูกไปด้วยกันนี่แหละ คือประสบการณ์ที่มีค่าที่สุดแล้วครับ แม้ว่าตอนนี้อาจจะยังไม่ได้คล่องปร๋อ แต่ผมเชื่อว่าถ้าเรายังคงทำอย่างสม่ำเสมอ ลูกผมต้องทำได้แน่นอนครับ
อ้อ อีกนิดนึงครับ ตอนที่ผมมองหาข้อมูลเกี่ยวกับคอร์สออนไลน์ ผมก็เห็นว่า 51Talk มีโปรแกรมทดลองเรียนด้วยนะ เผื่อใครอยากจะลองดูก่อนตัดสินใจ ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยครับ
