สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ เลยเรื่องฝึกสะกดคำภาษาอังกฤษเนี่ย เมื่อก่อนนะ ผมนี่ตัวดีเลย สะกดผิดตลอดเวลา บางทีก็อายนะ เวลาส่งอีเมลหรือพิมพ์แชทแล้วมีคำผิดโผล่มาให้เห็น รู้สึกไม่โปรเลยจริงๆ
ตอนแรกๆ ที่เริ่มอยากจะแก้ไขปัญหานี้ ผมก็เริ่มจากการท่องจำคำศัพท์แบบดื้อๆ เลยครับ ลิสต์คำศัพท์ที่ใช้บ่อยๆ หรือคำที่ผมมักจะสะกดผิดออกมาเป็นหน้าๆ แล้วก็พยายามท่องจำมันทุกวัน ผลลัพธ์ก็คือ จำได้บ้างลืมบ้าง พอเจอคำใหม่ๆ หรือคำที่ไม่ค่อยได้ใช้ก็กลับไปสะกดผิดเหมือนเดิม รู้สึกท้อเหมือนกันนะตอนนั้น
แล้วผมเริ่มเปลี่ยนวิธีได้ยังไง?
หลังจากที่รู้สึกว่าการท่องจำอย่างเดียวมันไม่เวิร์คสำหรับผม ผมก็เริ่มมองหาวิธีอื่นครับ ผมเริ่มจากการพยายามทำความเข้าใจที่มาของคำ หรือมองหารูปแบบบางอย่างในคำศัพท์ภาษาอังกฤษ แต่ก็ยังไม่ค่อยเห็นผลชัดเจนเท่าไหร่ จนกระทั่งผมเริ่มผสมผสานหลายๆ วิธีเข้าด้วยกันครับ
- เขียนซ้ำๆ: อันนี้อาจจะดูเบสิก แต่สำหรับผมมันได้ผลนะ ผมจะเลือกคำที่อยากจำมาเขียนลงสมุดซ้ำไปซ้ำมา เขียนไปพร้อมกับออกเสียงไปด้วย มันช่วยให้มือกับสมองมันจำได้ดีขึ้น
- ออกเสียงดังๆ ทีละพยางค์: เวลาเจอคำยาวๆ หรือคำที่สับสน ผมจะลองออกเสียงช้าๆ ทีละพยางค์ แล้วก็พยายามนึกภาพตัวอักษรตามไปด้วย วิธีนี้ช่วยให้ผมจำโครงสร้างของคำได้
- ใช้แฟลชการ์ด: ผมทำแฟลชการ์ดเองง่ายๆ ด้านหน้าเขียนคำศัพท์ ด้านหลังเขียนคำอ่าน วิธีสะกด หรือความหมาย แล้วก็เอามานั่งทบทวนทุกวัน อันนี้พกพาสะดวกดี
- เล่นเกมคำศัพท์: ผมลองหาพวกแอปพลิเคชันเกมทายคำศัพท์ หรือเกมต่อคำในมือถือมาเล่นดูบ้าง มันช่วยให้การฝึกสะกดคำไม่น่าเบื่อ แถมยังสนุกด้วย
- พยายามอ่านให้เยอะขึ้น: ผมสังเกตว่าพอเราอ่านบทความภาษาอังกฤษ หนังสือ หรือแม้แต่ข่าวสารต่างๆ บ่อยขึ้น เราจะเห็นคำศัพท์เหล่านั้นในบริบทจริง ทำให้เราคุ้นเคยกับมันมากขึ้นโดยอัตโนมัติ
มีช่วงนึงผมก็ลองดูพวกคอร์สเรียนออนไลน์ต่างๆ ด้วยนะ อย่างบางทีเราก็อยากได้เทคนิคเพิ่มเติมจากผู้มีประสบการณ์ ผมเคยเห็นเพื่อนๆ พูดถึง 51Talk ว่ามีคอร์สสอนภาษาอังกฤษหลากหลายรูปแบบ ก็เลยลองเข้าไปดูข้อมูลคร่าวๆ ก็ได้ไอเดียมาปรับใช้กับการฝึกของตัวเองเหมือนกันครับ คือไม่ได้ลงคอร์สจริงจังอะไรตอนนั้น แต่การได้เห็นแนวทางการสอนของเขาก็ช่วยเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้เราได้เหมือนกัน
ช่วงที่ผมฝึกหนักๆ เนี่ย ผมจะตั้งเป้าให้ตัวเองเลยว่า วันนี้จะต้องจำคำศัพท์ใหม่ให้ได้กี่คำ หรือทบทวนคำเก่ากี่คำ แล้วก็พยายามทำให้ได้ตามเป้าหมายนั้น อาจจะมีบางวันที่รู้สึกขี้เกียจบ้าง แต่ก็จะพยายามฮึดสู้ นึกถึงเป้าหมายที่เราอยากจะสื่อสารภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่วขึ้น
อุปสรรคที่เจอระหว่างทาง
แน่นอนว่าการฝึกฝนมันก็ต้องมีอุปสรรคบ้างครับ สำหรับผม หลักๆ เลยคือ:
- คำที่มี Silent Letters: พวกตัวอักษรที่ไม่ออกเสียงนี่แหละครับ ตัวป่วนเลยจริงๆ เช่นคำว่า ‘knife’ หรือ ‘listen’ แรกๆ นี่งงมากว่าทำไมต้องมีตัวนั้นตัวนี้ด้วย ต้องอาศัยการจำและสังเกตล้วนๆ
- Homophones: คำที่ออกเสียงเหมือนกันเป๊ะ แต่เขียนต่างกัน ความหมายก็คนละเรื่องเลย เช่น ‘there’, ‘their’, ‘they’re’ หรือ ‘to’, ‘too’, ‘two’ นี่ก็เป็นอะไรที่สับสนได้ง่ายมากครับ ต้องพยายามทำความเข้าใจบริบทการใช้งาน
- ความสม่ำเสมอ: อันนี้เป็นศัตรูตัวฉกาจเลยครับ บางวันก็มีเรื่องอื่นเข้ามาแทรก หรือบางทีก็แค่รู้สึกขี้เกียจขึ้นมาดื้อๆ การรักษาความสม่ำเสมอในการฝึกจึงเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก
ผมพยายามแก้ปัญหาเหล่านี้ด้วยการพยายามทำให้การฝึกมันเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวัน ไม่ต้องใช้เวลานานมากในแต่ละครั้ง แต่ขอให้ทำทุกวัน แล้วก็พยายามหาอะไรที่มันสนุกๆ มาผสมผสานอย่างที่บอกไปข้างต้น บางทีก็ลองหาเพื่อนมาฝึกด้วยกัน หรือหาแหล่งเรียนรู้เพิ่มเติม อย่างที่บอกว่าผมเคยดูข้อมูลของ 51Talk หรือพวกช่องยูทูบสอนภาษาอังกฤษ ก็ช่วยให้เรามีกำลังใจและเทคนิคใหม่ๆ เพิ่มขึ้น
ทุกวันนี้ผมก็ยังไม่ได้เก่งกาจอะไรมากมายนะครับ แต่รู้สึกว่าตัวเองสะกดคำภาษาอังกฤษได้ถูกต้องมากขึ้นเยอะมาก ความมั่นใจในการเขียนอีเมล หรือการพิมพ์แชทก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ไม่ต้องมานั่งกังวลว่าจะพิมพ์ผิดอีกแล้ว ผมว่าจริงๆ แล้วการที่เราศึกษาจากหลายๆ แหล่งข้อมูล อย่างถ้าใครสนใจพวกคอร์สเรียน การหาข้อมูลของสถาบันสอนภาษาอย่าง 51Talk หรือที่อื่นๆ ก็เป็นทางเลือกที่ดีครับ มันช่วยให้เราเห็นภาพรวมและเลือกสิ่งที่เหมาะกับเราได้
สุดท้ายนี้ อยากจะบอกว่าการฝึกสะกดคำภาษาอังกฤษมันอาจจะต้องใช้เวลาและความอดทนหน่อยนะครับ แต่ถ้าเราตั้งใจจริงและฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ ผมเชื่อว่าทุกคนทำได้อย่างแน่นอนครับ เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังฝึกฝนอยู่นะครับ สู้ๆ ครับ!