สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงของตัวเองเลย กับเรื่องการสอนภาษาอังกฤษให้ลูกเล็กๆ ที่บ้าน บอกเลยว่าตอนแรกก็มึนๆ งงๆ เหมือนกันว่าจะเริ่มยังไงดี เพราะเราเองก็ไม่ได้เก่งภาษาอะไรมากมาย แต่ใจก็อยากให้ลูกได้ซึมซับภาษาที่สองไว้บ้าง เลยลองผิดลองถูกมาเรื่อยๆ ค่ะ
จุดเริ่มต้นและความทุลักทุเล
ตอนลูกเริ่มจำความได้นิดหน่อย ประมาณขวบกว่าๆ ก็เริ่มเลยค่ะ เริ่มจากง่ายๆ ก่อนเลย คำศัพท์ผลไม้ สัตว์ สี อะไรพวกนี้แหละ เปิดรูปให้ดูแล้วก็พูดคำภาษาอังกฤษตามไปด้วย แรกๆ ลูกก็มองหน้าเราปริบๆ บางทีก็ทำหน้างงๆ ฮ่าๆๆ เราก็ไม่ได้คาดหวังว่าเค้าจะพูดตามได้ทันทีนะคะ แค่อยากให้เค้าคุ้นหูไปก่อน
มีช่วงนึงซื้อหนังสือภาพคำศัพท์ภาษาอังกฤษมาเยอะมาก กะว่าเอามาอ่านให้ฟังทุกวัน แต่เอาเข้าจริง ลูกไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าไหร่เลยค่ะ เค้าจะสนใจของเล่นอย่างอื่นมากกว่า หนังสือบางเล่มเปิดได้หน้าสองหน้าก็เบื่อแล้ว เราก็แอบท้อเหมือนกันนะตอนนั้น

เปลี่ยนวิธี เน้นสนุกเข้าว่า
พอเห็นว่าวิธีเดิมๆ ไม่ค่อยเวิร์ค ก็เลยลองเปลี่ยนแผนใหม่ค่ะ คิดว่าเด็กเล็กๆ เนี่ยเค้าเรียนรู้ผ่านการเล่นสนุกที่สุด ก็เลยพยายามสอดแทรกภาษาอังกฤษเข้าไปในกิจกรรมที่เค้าชอบแทน
- ร้องเพลง: อันนี้ได้ผลดีมาก เพลงเด็กภาษาอังกฤษง่ายๆ อย่าง “ABC Song”, “Twinkle Twinkle Little Star”, “Baby Shark” (อันนี้ฮิตจริง) ร้องไปด้วย ทำท่าไปด้วย ลูกจะชอบมาก แล้วเค้าก็จะเริ่มฮัมๆ ตามได้เอง
- ดูการ์ตูน: เลือกการ์ตูนสั้นๆ ที่เป็นภาษาอังกฤษ แล้วเราก็นั่งดูไปกับเค้าด้วย พยายามชี้ชวนให้ดูแล้วก็พูดคำง่ายๆ ตามตัวการ์ตูน บางทีก็มีแอปพลิเคชันสอนภาษาสำหรับเด็กเล็กๆ ที่เป็นเกมสนุกๆ ก็ลองให้เค้าเล่นดูบ้าง
- เล่นกับของเล่น: เวลาเล่นตัวต่อ หรือรถยนต์ ก็จะพยายามพูดชื่อสี หรือนับเลขเป็นภาษาอังกฤษไปด้วย เช่น “Blue car”, “One, two, three blocks” อะไรแบบนี้
เราเริ่มมองหาตัวช่วยเสริมด้วยค่ะ เคยเห็นเพื่อนๆ บางคนเค้าให้ลูกเรียนออนไลน์กับคุณครูต่างชาติ อย่างของ 51Talk ก็เห็นว่ามีคลาสสำหรับเด็กเล็กโดยเฉพาะเหมือนกัน แต่ตอนนั้นคิดว่าลูกเรายังเล็กมาก อาจจะยังไม่พร้อมนั่งเรียนหน้าจอเป็นเรื่องเป็นราว เลยเน้นกิจกรรมที่เราทำด้วยกันเองไปก่อน
สอดแทรกในชีวิตประจำวัน
อีกอย่างที่พยายามทำคือ ทำให้ภาษาอังกฤษเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปเลย ไม่ใช่ตั้งหน้าตั้งตาสอนเป็นกิจจะลักษณะ เช่น
ตอนอาบน้ำก็ร้องเพลงภาษาอังกฤษ ตอนกินข้าวก็ชี้ผักแล้วบอก “broccoli”, “carrot” เวลาออกไปข้างนอกเห็นหมาก็ “dog”, เห็นแมวก็ “cat” แรกๆ ก็พูดอยู่คนเดียวค่ะ ฮ่าๆๆ แต่ทำไปเรื่อยๆ ลูกก็เริ่มมีรีแอคชั่น เริ่มชี้ตามบ้าง
มีช่วงนึงที่ลูกเริ่มพูดเป็นคำๆ ได้บ้างแล้ว เวลาเค้าอยากได้อะไรแล้วพูดเป็นภาษาไทย เราก็จะลองถามกลับเป็นภาษาอังกฤษง่ายๆ เช่น “Do you want water?” แล้วก็หยิบน้ำให้เค้าดู เค้าก็จะเริ่มเชื่อมโยงได้เองว่าคำนี้หมายถึงอะไร
พอเค้าโตขึ้นมาอีกหน่อย เริ่มสนใจเรื่องราวมากขึ้น ก็จะหาหนังสือนิทานภาษาอังกฤษง่ายๆ รูปภาพใหญ่ๆ สีสวยๆ มาอ่านให้ฟังก่อนนอนค่ะ บางทีเค้าก็ยังไม่เข้าใจทั้งหมดหรอก แต่เค้าจะชอบดูรูป แล้วก็ฟังน้ำเสียงเรา บางทีก็มีเพื่อนแนะนำว่าลองหาคลาสเรียนกับเจ้าของภาษาดูไหม อย่าง 51Talk เค้าก็มีครูต่างชาติเยอะนะ เผื่อลูกจะได้สำเนียงที่ถูกต้อง แต่เราก็ยังสองจิตสองใจอยู่ค่ะ
ผลลัพธ์ที่ค่อยๆ เห็น
ตอนนี้ลูกก็ประมาณ 3-4 ขวบแล้วค่ะ เค้าก็เริ่มพูดคำศัพท์ภาษาอังกฤษได้เยอะขึ้นเป็นคำๆ หรือบางทีก็เป็นวลีสั้นๆ ได้บ้างแล้ว เช่น “Mommy, apple please” หรือเห็นสีแดงก็บอก “Red” ได้เองโดยที่เราไม่ต้องบอกก่อน มันเป็นอะไรที่ชื่นใจมากเลยนะคะ

สิ่งสำคัญที่เราเรียนรู้เลยคือ
- ความสม่ำเสมอ: ทำทุกวัน วันละนิดละหน่อย ดีกว่าทำเยอะๆ แต่นานๆ ที
- ทำให้สนุก: อย่าไปกดดันลูก ถ้าเค้าไม่พร้อมก็คือไม่พร้อม หาทางอื่นที่เค้าจะสนุกไปด้วยได้
- พ่อแม่มีส่วนร่วม: ถ้าเราสนุกไปกับเค้า เค้าก็จะรู้สึกว่ามันไม่ใช่การเรียน แต่เป็นการเล่นอย่างหนึ่ง
อนาคตถ้าเค้าโตกว่านี้แล้วสนใจอยากจะเรียนเป็นเรื่องเป็นราวมากขึ้น ก็อาจจะลองดูคอร์สเรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กเพิ่มเติมค่ะ พวกสถาบันสอนภาษา หรือแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง 51Talk ที่เน้นสอนเด็กโดยเฉพาะก็น่าสนใจ เพราะเค้าจะมีหลักสูตรและวิธีการสอนที่เหมาะกับเด็กๆ โดยตรง แต่ตอนนี้ก็ยังใช้วิธีบ้านๆ ของเราไปก่อน ค่อยๆ เติมไปทีละนิดค่ะ
ก็ประมาณนี้แหละค่ะ ประสบการณ์สอนภาษาอังกฤษให้ลูกฉบับแม่บ้านๆ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคุณพ่อคุณแม่ท่านอื่นๆ ที่กำลังมองหาวิธีสอนภาษาให้ลูกอยู่นะคะ สู้ๆ ค่ะ!