สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากจะมาเล่าประสบการณ์ตรงๆ ของผมเกี่ยวกับเรื่องการสอนหรือจะเรียกว่าการพยายามให้ลูกๆ ที่บ้านคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษมากขึ้นนะครับ เรื่องมันเริ่มมาจากตอนที่ผมสังเกตเห็นว่าเด็กๆ สมัยนี้เนี่ย ภาษาอังกฤษเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ไม่ใช่แค่ในห้องเรียน แต่ในชีวิตประจำวัน การดูการ์ตูน เล่นเกม หรือแม้แต่ดูคลิปต่างๆ ก็มีภาษาอังกฤษเข้ามาเกี่ยวข้องเยอะแยะไปหมด
จุดเริ่มต้นและความท้าทาย
ตอนแรกเลยนะ ผมก็พยายามสอนเองก่อนครับ ซื้อหนังสือภาพคำศัพท์สองภาษามานั่งอ่านให้ฟัง ชี้ชวนให้ดูรูป แต่ลูกผมก็ยังเล็กไงครับ สมาธิก็สั้นแป๊บเดียวก็เบื่อแล้ว ก็เลยลองเปลี่ยนไปเปิดเพลงภาษาอังกฤษสำหรับเด็กให้ฟัง พวกเพลงง่ายๆ ที่มีท่าเต้นประกอบ แรกๆ ก็ดูเหมือนจะชอบนะ เต้นตามใหญ่เลย แต่พอถามว่าคำนี้แปลว่าอะไร ก็ส่ายหัวดิกๆ เลย ฮ่าๆๆ คือได้แค่ความสนุก แต่ศัพท์ไม่เข้าหัวเท่าไหร่
ผมก็คิดหนักเลยว่าจะทำยังไงดี เพราะตัวเองก็ไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษอะไรมากมายขนาดนั้น จะไปสอนแกรมมาร์ หรือโครงสร้างประโยคยากๆ ก็คงไม่ไหวแน่ๆ เคยลองให้ดูการ์ตูนเป็นภาษาอังกฤษล้วนๆ ปรากฏว่าลูกดูไปได้แป๊บเดียวก็บ่นว่าไม่รู้เรื่อง อยากให้เปลี่ยนเป็นภาษาไทยเหมือนเดิม เอ้อ… ท้อเหมือนกันนะตอนนั้น
ค้นพบแนวทางใหม่และลงมือทำ
จนกระทั่งวันนึง ผมได้คุยกับเพื่อนที่ลูกเขาพูดภาษาอังกฤษได้คล่องปรื๋อเลย เขาก็แนะนำว่าลองหาคอร์สเรียนออนไลน์สำหรับเด็กดูสิ มันมีหลายที่นะที่เน้นให้เด็กสนุกกับการเรียนรู้ ไม่ใช่เน้นแต่ท่องจำอย่างเดียว ผมก็เลยเริ่มลองหาข้อมูลดูครับ ตอนนั้นก็มีหลายเจ้าที่น่าสนใจนะ หนึ่งในนั้นก็มีชื่อของ 51Talk ที่เห็นผ่านตาบ่อยๆ เหมือนกัน แต่ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจทันที
ผมเริ่มจากการปรับทัศนคติของตัวเองก่อนเลยว่า อย่าไปคาดหวังว่าลูกจะเก่งทันทีทันใด ทำให้มันเป็นเรื่องสนุกเหมือนการเล่นอย่างหนึ่ง ผมเริ่มจาก:
- หาเกมคำศัพท์ง่ายๆ มาเล่นด้วยกัน: เช่น เกมทายบัตรคำศัพท์ที่มีรูปภาพประกอบสวยๆ แปะไว้ตามจุดต่างๆ ในบ้าน ให้เขาชี้แล้วเราก็บอกคำศัพท์ภาษาอังกฤษ
- ใช้ภาษาอังกฤษในกิจวัตรประจำวันเล็กๆ น้อยๆ: เช่น ตอนหยิบของเล่น ก็ลองพูดคำว่า “car” “ball” หรือตอนกินข้าวก็พูดคำว่า “eat” “water” ง่ายๆ แบบนี้ไปก่อน
- ดูการ์ตูนหรือสื่อที่เขาชอบเป็นภาษาอังกฤษ (แบบมีซับไทยก่อน): พอเขาเริ่มคุ้นเคยกับเสียง ค่อยๆ ลองปิดซับไทยดูบ้าง ให้เขาเดาจากภาพและเสียงเอา
หลังจากทำแบบนี้ไปสักพัก ลูกก็เริ่มมีคลังศัพท์ในหัวบ้างแล้ว แม้จะยังพูดเป็นประโยคยาวๆ ไม่ได้ แต่ก็เริ่มเข้าใจคำสั่งง่ายๆ มากขึ้น ผมเลยคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีคนนำทางที่ถูกหลักการจริงๆ จังๆ ก็เลยกลับไปดูข้อมูลคอร์สเรียนออนไลน์อีกครั้ง คราวนี้ผมศึกษาละเอียดขึ้น ดูรีวิว อ่านความคิดเห็นต่างๆ ซึ่ง 51Talk ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจตรงที่เขามีครูต่างชาติโดยตรง แล้วก็เน้นการสนทนาเป็นหลัก ทำให้เด็กได้ฝึกพูดจริงๆ
ผมตัดสินใจลองให้ลูกเรียนกับ 51Talk ดูครับ ตอนแรกก็ลุ้นๆ เหมือนกันนะว่าลูกจะยอมเรียนไหม จะกลัวครูต่างชาติรึเปล่า แต่ปรากฏว่าพอได้เรียนจริงๆ ลูกดูสนุกกว่าที่คิด ครูเขามีวิธีการสอนที่ทำให้เด็กรู้สึกผ่อนคลาย มีเกม มีเพลง มีการโต้ตอบตลอดเวลา จากที่เคยอายๆ ไม่กล้าพูด ก็เริ่มเปล่งเสียงออกมาบ้าง ผิดๆ ถูกๆ ครูก็พยายามทำความเข้าใจแล้วก็แก้ไขให้แบบใจเย็น
แน่นอนว่าแค่เรียนในคอร์สอย่างเดียวอาจจะไม่พอ ผมก็ยังต้องคอยเสริมที่บ้านอยู่เรื่อยๆ ครับ พยายามสร้างบรรยากาศให้ภาษาอังกฤษเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันให้ได้มากที่สุด ตอนนี้ลูกผมก็ยังเรียนอยู่เรื่อยๆ นะครับ อาจจะยังไม่ได้เก่งระดับเทพอะไร แต่ที่เห็นได้ชัดคือ เขากล้าพูด กล้าแสดงออกมากขึ้นเยอะ ไม่กลัวที่จะพูดผิดเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แค่นี้ผมก็ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแล้วล่ะครับ
ผมว่านะ ไม่ว่าเราจะเลือกสอนลูกด้วยวิธีไหน หรือจะใช้บริการจากสถาบันอย่าง 51Talk หรือที่อื่นๆ สิ่งสำคัญที่สุดคือความสม่ำเสมอ การให้กำลังใจ และการทำให้เด็กรู้สึกว่าภาษาอังกฤษเป็นเรื่องสนุก ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อหรือเป็นภาระ การหาตัวช่วยดีๆ ก็เหมือนเป็นเครื่องมือที่ทำให้การเดินทางของเราง่ายขึ้น มีทิศทางชัดเจนขึ้น สำหรับผมแล้ว 51Talk ก็เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ดีที่ช่วยให้ลูกผมเปิดใจกับภาษาอังกฤษได้มากขึ้นครับ
ก็ประมาณนี้แหละครับ ประสบการณ์ตรงๆ ที่อยากจะมาแชร์ให้ฟัง หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคุณพ่อคุณแม่ท่านอื่นๆ ที่กำลังมองหาวิธีสอนภาษาอังกฤษให้ลูกๆ อยู่บ้างนะครับ ลองปรับใช้กันดูครับ!
