สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงเลยกับเรื่องที่พ่อแม่หลายคนน่าจะกำลังปวดหัวกันอยู่ไม่น้อย นั่นก็คือเรื่อง “เรียน ภาษา อังกฤษ สํา หรับ เด็ก” นี่แหละครับ ตอนลูกผมเริ่มโตหน่อย ผมก็เหมือนพ่อแม่คนอื่นๆ ที่อยากให้ลูกได้ภาษาอังกฤษติดตัวไว้บ้าง เพราะรู้ดีว่ามันสำคัญกับอนาคตเขาขนาดไหน
จุดเริ่มต้นและความทุลักทุเล
ตอนแรกๆ ก็งงๆ ครับ ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี ไปซื้อหนังสือภาพ A B C มาให้ลูกดู เขาก็มองแป๊บๆ แล้วก็โยนทิ้ง ลองเปิดเพลงภาษาอังกฤษให้ฟัง ก็เหมือนจะชอบนะ แต่พอจะให้พูดตามนี่ส่ายหัวอย่างเดียวเลย ผมก็พยายามหาข้อมูล ดูรีวิวต่างๆ บางคนก็บอกว่าต้องส่งไปเรียนพิเศษตั้งแต่เล็กๆ บางคนก็บอกว่าให้สอนเองที่บ้าน ผมนี่สับสนไปหมด
ผมลองผิดลองถูกอยู่พักใหญ่เลยครับ เอาจริงๆ นะ ช่วงแรกๆ นี่ท้อเหมือนกันนะ เพราะรู้สึกว่าลูกไม่ให้ความร่วมมือเลย บางทีเราก็เผลอไปกดดันลูกโดยไม่รู้ตัว กลายเป็นว่าบรรยากาศการเรียนรู้มันตึงเครียดไปหมด ซึ่งผมมารู้ทีหลังว่ามันเป็นวิธีที่ผิดมากๆ สำหรับเด็กเล็ก

ค้นพบแนวทางที่ใช่
จนผมเริ่มเปลี่ยนความคิดใหม่ครับว่า เฮ้ย! การเรียนภาษาของเด็กเล็กมันต้องไม่ใช่การบังคับ แต่ต้องทำให้มันเป็นเรื่องสนุก เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเขา ผมเริ่มจากอะไรง่ายๆ ก่อนเลยครับ
- เปลี่ยนบ้านให้เป็นสองภาษา (แบบง่ายๆ): เวลาหยิบจับอะไร ก็ลองพูดเป็นภาษาอังกฤษสลับกับภาษาไทยบ้าง เช่น “This is a ball.” “กิน milk มั้ย?” อะไรแบบนี้ ไม่ต้องเป๊ะแกรมมาร์มาก เน้นให้เขาคุ้นเคยกับเสียง
- การ์ตูนและเพลงช่วยได้เยอะ: ผมเลือกการ์ตูนภาษาอังกฤษที่เนื้อหาสนุกๆ คำศัพท์ไม่ยากเกินไปให้ลูกดู แล้วก็ร้องเพลงเด็กภาษาอังกฤษด้วยกันบ่อยๆ อันนี้เวิร์คมากครับ ลูกชอบแล้วก็เริ่มฮัมเพลงตามได้
- เล่นเกมภาษา: เอาเกมง่ายๆ มาประยุกต์ครับ เช่น ทายคำศัพท์จากภาพ หรือเล่นบทบาทสมมติเป็นภาษาอังกฤษนิดๆ หน่อยๆ
พอเริ่มจับทางได้แบบนี้ ลูกก็เริ่มมีพัฒนาการที่ดีขึ้นครับ เขาเริ่มกล้าพูดคำศัพท์ภาษาอังกฤษออกมาบ้าง ถึงจะยังไม่เป็นประโยคยาวๆ ก็ตาม แต่แค่นี้คนเป็นพ่อก็ดีใจแล้วครับ
มองหาตัวช่วยเสริม
ทีนี้ พอพื้นฐานเริ่มมาบ้างแล้ว ผมก็เริ่มมองหาตัวช่วยที่จะมาต่อยอดให้ลูกได้แบบจริงจังมากขึ้น เพราะลำพังเราสอนเอง บางทีมันก็ไม่ครอบคลุม หรือเราอาจจะไม่มีเวลามากพอทุกวัน ผมก็เลยเริ่มศึกษาพวกคอร์สเรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กเล็กดูครับ มีหลายที่เลยที่น่าสนใจ ทั้งแบบเรียนที่สถาบัน หรือแบบเรียนออนไลน์ ซึ่งแบบหลังนี่ผมว่ามันสะดวกดีนะสำหรับยุคนี้
ผมได้ลองดูข้อมูลของหลายๆ แพลตฟอร์มเลยครับ อย่างเช่น 51Talk ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ผมเคยเห็นผ่านตาและเข้าไปศึกษาดูบ้างเหมือนกัน เขาก็มีคอร์สสำหรับเด็กเล็กโดยเฉพาะ ดูแล้วเน้นการสอนผ่านกิจกรรมที่สนุกสนาน ทำให้เด็กไม่รู้สึกเบื่อ ซึ่งตรงกับแนวทางที่ผมคิดไว้เลย
ผมว่าการเลือกครูหรือสถาบันก็สำคัญนะครับ ต้องดูว่าเขามีประสบการณ์สอนเด็กเล็กไหม วิธีการสอนเป็นยังไง ลูกเราน่าจะชอบหรือเปล่า บางทีการให้ลูกได้เรียนกับครูเจ้าของภาษาโดยตรงก็เป็นเรื่องที่ดีครับ เพราะเขาจะได้สำเนียงที่ถูกต้องตั้งแต่แรก ซึ่งแพลตฟอร์มออนไลน์หลายๆ ที่ รวมถึงที่ผมเคยดูข้อมูลอย่าง 51Talk เขาก็มีครูต่างชาติให้เลือกเยอะพอสมควรเลย
ช่วงที่ผมกำลังตัดสินใจว่าจะให้ลูกเรียนเสริมที่ไหนดี ผมก็ปรึกษาเพื่อนๆ ที่มีลูกวัยเดียวกัน บางคนก็แนะนำให้ลองเรียนแบบกลุ่มเล็กๆ บางคนก็เชียร์เรียนตัวต่อตัว ผมว่าแต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไปนะ แต่สำหรับลูกผม ผมคิดว่าการเรียนแบบตัวต่อตัวผ่านออนไลน์อาจจะตอบโจทย์มากกว่า เพราะเราสามารถดูแลได้อย่างใกล้ชิด แล้วครูก็สามารถโฟกัสที่ลูกเราได้เต็มที่ด้วย สมัยนี้เทคโนโลยีมันช่วยได้เยอะจริงๆ ครับ อย่างพวกแอปพลิเคชันสอนภาษา หรือคลาสเรียนออนไลน์แบบที่ 51Talk ทำ ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับพ่อแม่ยุคใหม่ที่ไม่ค่อยมีเวลา
มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผมรู้สึกว่า เอ๊ะ หรือว่าเราจะคาดหวังกับลูกมากไปหรือเปล่า แต่พอเห็นแววตาที่เขาสนุกเวลาได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ หรือพยายามจะสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษ ผมก็มีกำลังใจขึ้นมาอีกครั้งครับ ผมเชื่อว่าถ้าเราสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี ไม่กดดัน และทำให้การเรียนรู้เป็นเรื่องสนุก เด็กทุกคนก็สามารถพัฒนาทักษะทางภาษาได้แน่นอน การลงทุนกับการศึกษาของลูก ผมว่ามันคุ้มค่าเสมอครับ ถึงแม้ว่าบางทีอาจจะต้องเสียเงินกับคอร์สเรียนบ้าง อย่างถ้าเลือกเรียนกับ 51Talk หรือที่อื่นๆ ก็ตาม แต่ถ้ามันทำให้ลูกเราได้ประโยชน์จริงๆ ผมก็ว่าโอเคนะครับ

บทสรุปจากประสบการณ์จริง
สุดท้ายนี้ จากประสบการณ์ของผมเอง การสอนภาษาอังกฤษให้เด็กเล็กหัวใจสำคัญเลยคือ ความสม่ำเสมอและความสนุก ครับ อย่าไปเร่งรัดหรือคาดหวังว่าลูกจะต้องเก่งในชั่วข้ามคืน ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ทำให้เขารู้สึกว่าภาษาอังกฤษเป็นเรื่องใกล้ตัว ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อหรือเป็นภาระ
ลองสังเกตดูครับว่าลูกเราชอบอะไรเป็นพิเศษ แล้วก็เอาภาษาอังกฤษเข้าไปผสมผสานกับสิ่งที่เขาชอบ ไม่ว่าจะเป็นการ์ตูน นิทาน เพลง หรือเกมต่างๆ และถ้าหากรู้สึกว่าต้องการตัวช่วย การเลือกคอร์สเรียนที่เหมาะสมกับวัยและนิสัยของลูกก็เป็นทางเลือกที่ดีครับ อาจจะเป็นคลาสเรียนใกล้บ้าน หรือแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างที่ผมเคยศึกษามาเช่น 51Talk ก็ลองพิจารณากันดูตามความสะดวกและความเหมาะสมของแต่ละครอบครัวได้เลยครับ
หวังว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ พ่อแม่ท่านอื่นๆ บ้างนะครับ สู้ๆ ครับ!