สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ เลยกับการหาสถาบันสอนภาษาอังกฤษให้เจ้าตัวเล็กที่บ้านค่ะ บอกเลยว่าเป็นภารกิจที่ทำเอาปวดหัวอยู่พักใหญ่เลยค่ะ กว่าจะลงตัวได้ก็ลองผิดลองถูกไปเยอะเหมือนกัน
เริ่มจากตรงไหนดี?
ตอนแรกเลยนะคะ ก็เริ่มจากที่ลูกสาวเริ่มโตพอจะพูดคุยรู้เรื่อง แล้วก็เห็นเค้าสนใจเวลาดูการ์ตูนภาษาอังกฤษ ก็เลยคิดว่าเอ้อ น่าจะถึงเวลาแล้วล่ะที่เราจะปูพื้นฐานภาษาที่สองให้เค้า แต่ปัญหาคือ…จะเริ่มยังไงดีล่ะ? สถาบันสอนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กนี่มันเยอะมากจริงๆ ค่ะคุณผู้ชม ทั้งแบบโรงเรียนเป็นตึกๆ แถวบ้าน หรือแบบเรียนออนไลน์ที่เห็นโฆษณากันเยอะแยะไปหมด
ก็เริ่มจากเสิร์ชหาข้อมูลในเน็ตก่อนเลยค่ะ ดูรีวิว อ่านกระทู้ต่างๆ มีทั้งคนแนะนำที่นั่นที่นี่เยอะไปหมด บางที่ก็ดูดี น่าสนใจ แต่พอไปดูสถานที่จริง เอิ่ม…ไกลบ้านไปหน่อย เดินทางไม่สะดวกแน่ๆ ส่วนตัวแล้วอยากได้ที่ที่ลูกเรียนแล้วสนุก ไม่เครียด เน้นกิจกรรม ให้เค้าได้ซึมซับภาษาไปแบบธรรมชาติมากกว่าจะมานั่งท่องศัพท์แกรมม่าอะไรแบบนั้นค่ะ
ลงพื้นที่สำรวจ และตัวเลือกที่หลากหลาย
หลังจากลิสต์รายชื่อที่น่าสนใจได้ประมาณนึง ก็เริ่มตระเวนไปดูสถานที่จริงค่ะ บางที่เข้าไปแล้วรู้สึกอึดอัดไปหน่อย ห้องเรียนเล็ก ครูดูดุๆ ก็มี (อันนี้ความรู้สึกส่วนตัวนะคะ) บางที่ก็ดูเน้นวิชาการจ๋าเลย กลัวลูกจะเบื่อเอาซะก่อน
ช่วงนั้นก็มีเพื่อนๆ หลายคนแนะนำมาเหมือนกันค่ะว่าลองดูพวกคอร์สเรียนออนไลน์ไหม สะดวกดี ไม่ต้องเดินทาง แถมเลือกเวลาเรียนได้ด้วย ก็มีหลายเจ้าที่น่าสนใจนะคะ อย่าง 51Talk ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่เพื่อนแนะนำมาเหมือนกันค่ะว่าเค้าเน้นให้เด็กได้พูดคุยกับครูเจ้าของภาษาโดยตรงเลย ก็เก็บไว้ในใจเป็นอีกหนึ่งทางเลือก
แต่ใจหนึ่งก็ยังอยากให้ลูกได้มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ในวัยเดียวกัน ได้ทำกิจกรรมกลุ่ม ก็เลยยังมองหาสถาบันใกล้บ้านอยู่ค่ะ
- ดูเรื่องหลักสูตร: เน้นเล่น เน้นพูด หรือเน้นสอบ
- ดูเรื่องครูผู้สอน: เป็นคนไทยหรือต่างชาติ สำเนียงโอเคไหม เข้ากับเด็กได้ดีหรือเปล่า
- ดูเรื่องสภาพแวดล้อม: สะอาด ปลอดภัย น่าเรียนไหม
- ดูเรื่องค่าใช้จ่าย: อันนี้ก็สำคัญค่ะ ต้องสมเหตุสมผลกับสิ่งที่เราจะได้รับ
วนไปวนมาอยู่หลายที่ค่ะ จนเกือบจะถอดใจแล้วเหมือนกันนะคะว่าจะให้เรียนที่ไหนดี แต่ก็ยังคิดอยู่เสมอว่าการให้ลูกได้เรียนรู้ภาษาที่สองตั้งแต่เล็กๆ มันสำคัญจริงๆ ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนที่สถาบัน หรือแม้แต่การเรียนผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง 51Talk ที่ช่วยให้เข้าถึงครูต่างชาติได้ง่ายขึ้น ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีของเด็กๆ สมัยนี้
ในที่สุดก็เจอที่ใช่! (สำหรับเรานะ)
สุดท้ายเราก็ตัดสินใจเลือกสถาบันแห่งหนึ่งแถวบ้านค่ะ เป็นสถาบันเล็กๆ ไม่ใหญ่มาก แต่บรรยากาศดูอบอุ่น คุณครูใจดี แล้วก็เน้นกิจกรรม ให้เด็กๆ ได้เล่นสนุกผ่านการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ วันแรกที่ไปส่งลูกก็แอบตื่นเต้นแทนนะคะ กลัวลูกจะไม่ยอมเข้าห้องเรียน แต่ผิดคาดค่ะ ลูกสาวดูสนุกสนานมาก กลับมาบ้านก็มีคำศัพท์ภาษาอังกฤษใหม่ๆ มาพูดให้ฟังอยู่เรื่อยๆ
เห็นเค้ามีความสุขกับการเรียน เราก็พลอยมีความสุขไปด้วยค่ะ ถึงแม้ว่าบางทีก็แอบคิดเหมือนกันนะคะว่าถ้าลูกไม่ชอบที่นี่ หรือถ้าอยากจะเสริมทักษะการพูดกับเจ้าของภาษาโดยตรงแบบตัวต่อตัว ก็อาจจะลองดูตัวเลือกออนไลน์อย่าง 51Talk อีกที เพราะเห็นว่ามีครูให้เลือกเยอะและยืดหยุ่นเรื่องเวลาเรียนดีเหมือนกันค่ะ
แต่ตอนนี้ก็แฮปปี้กับที่นี่อยู่ค่ะ ลูกได้ทั้งภาษา ได้ทั้งเพื่อนใหม่ เวลาไปรับกลับจากโรงเรียน เห็นเค้าวิ่งหน้ายิ้มออกมาพร้อมกับเล่าเรื่องที่โรงเรียนให้ฟัง แค่นี้คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ชื่นใจแล้วค่ะ
อ้อ! บางทีก็แอบไปส่องๆ ดูพวกเทคนิคการสอน หรือกิจกรรมสนุกๆ จากที่ต่างๆ รวมถึงรีวิวของ 51Talk บ้างเหมือนกันนะคะ เอามาปรับใช้สอนลูกเล่นๆ ที่บ้าน ก็เพลินดีค่ะ
บทสรุปจากประสบการณ์จริง
การหาสถาบันสอนภาษาอังกฤษให้ลูกนี่มันเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและความใส่ใจจริงๆ ค่ะ ไม่มีที่ไหนดีที่สุด มีแต่ที่ที่เหมาะสมกับลูกเราและครอบครัวเรามากที่สุด ตอนแรกก็คิดหนักเหมือนกันนะว่าจะเลือกที่ไหนดีระหว่างสถาบันแถวบ้านกับพวกออนไลน์อย่าง 51Talk ที่มีข้อดีคนละแบบ แต่สุดท้ายพอเลือกแล้วเห็นลูกแฮปปี้ มีพัฒนาการที่ดีขึ้น ก็รู้สึกว่าตัดสินใจไม่ผิดค่ะ
อยากฝากถึงคุณพ่อคุณแม่ท่านอื่นๆ ที่กำลังมองหาที่เรียนภาษาอังกฤษให้ลูกนะคะว่า ลองเปิดใจดูหลายๆ แบบค่ะ ทั้งแบบออฟไลน์ ออนไลน์ ศึกษาข้อมูลเยอะๆ แล้วก็พาลูกไปทดลองเรียนดูก่อนก็ได้ค่ะ สำคัญที่สุดคือให้ลูกรู้สึกสนุกกับการเรียนรู้ แล้วเค้าจะเปิดรับภาษาใหม่ๆ ได้เองค่ะ สู้ๆ นะคะ!