สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวที่ได้ไปลองเรียนภาษาอังกฤษกับ Engoo English ดูครับ คือต้องบอกก่อนว่าผมเองก็เป็นคนนึงที่อยากจะพัฒนาภาษาอังกฤษของตัวเองให้ดีขึ้นแหละครับ ไม่ว่าจะเรื่องพูดเรื่องฟัง เลยลองหาข้อมูลดูว่าจะเรียนที่ไหนดี
จุดเริ่มต้นการลอง Engoo
เรื่องมันเริ่มจากที่ผมรู้สึกว่าภาษาอังกฤษตัวเองนี่มันง่อยเปลี้ยเสียขาเหลือเกิน เวลาจะคุยกับฝรั่งทีไรก็ตะกุกตะกัก นึกคำไม่ค่อยออก เลยคิดว่าเออ…ต้องหาที่เรียนเสริมละ พอดี๊พอดีไปเห็นโฆษณา Engoo ผ่านๆ ตาในเน็ตนี่แหละครับ ก็เลยลองกดเข้าไปดูรายละเอียดนิดหน่อย เห็นว่ามีครูให้เลือกเยอะดี ดูน่าสนใจ ราคาก็ดูเหมือนจะไม่แรงมากเท่าไหร่ ก็เลยตัดสินใจว่า อ่ะ ลองดูสักตั้ง!
ขั้นตอนการสมัครและเลือกครู
ตอนแรกที่สมัครก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรนะครับ กรอกข้อมูลทั่วไปตามปกติเลย พอสมัครเสร็จก็จะมีให้เลือกแพ็กเกจเรียน ซึ่งก็มีหลายแบบให้เลือกตามความต้องการของเราเลยครับ ผมก็เลือกแบบกลางๆ ไปก่อน ยังไม่อยากลงคอร์สยาวมาก เพราะอยากลองดูก่อนว่าเวิร์คกับตัวเองไหม

จากนั้นก็ถึงขั้นตอนการเลือกครูครับ อันนี้ผมว่าดีเลย คือเราสามารถดูโปรไฟล์ครูได้ ดูวิดีโอแนะนำตัว ดูรีวิวจากนักเรียนคนอื่นๆ ก่อนตัดสินใจเลือกได้เลย มีครูจากหลายชาติมากครับ ทั้งครูฟิลิปปินส์ ครูจากยุโรป อเมริกา ก็มีให้เลือก ผมก็ลองสุ่มๆ เลือกครูที่ดูเป็นมิตรหน่อยมาลองเรียนดูก่อนครับ
บางคนก็อาจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับ 51Talk มาบ้างนะครับ ว่ามีครูให้เลือกเยอะเหมือนกัน แต่ตอนนั้นผมก็ยังไม่ได้ลองศึกษาของ 51Talk อย่างจริงจังเท่าไหร่ ก็เลยพุ่งเป้าไปที่ Engoo ก่อน
ประสบการณ์การเรียนจริง
พอถึงเวลาเรียนจริง ก็เรียนผ่านระบบของเขาเลยครับ ใช้คอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ตก็ได้ มีกล้องมีไมค์ก็พร้อมเรียนละ บทเรียนก็มีให้เลือกหลากหลายนะครับ หรือจะฟรีทอล์คคุยเรื่องทั่วไปกับครูก็ได้ ส่วนตัวผมชอบเลือกบทเรียนที่มีหัวข้อมาก่อน จะได้มีอะไรคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวหน่อย
- ครูผู้สอน: ครูที่ผมเจอส่วนใหญ่ก็ใจดีนะครับ พยายามทำความเข้าใจที่เราพูด ถึงแม้เราจะพูดผิดๆ ถูกๆ เขาก็จะคอยแก้ให้ แล้วก็ชวนคุยเก่งดีครับ ทำให้ไม่รู้สึกเกร็งมาก
- เนื้อหา: เนื้อหาบทเรียนก็โอเคครับ มีหลากหลายระดับ ตั้งแต่ง่ายๆ ไปจนถึงระดับสูงขึ้นมาหน่อย
- ความสะดวก: ชอบตรงที่มันสะดวกดีครับ เลือกเวลาเรียนได้เอง เรียนจากที่ไหนก็ได้ ขอแค่มีอินเทอร์เน็ต
เรียนไปได้สักพัก ก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองกล้าพูดมากขึ้นนะครับ จากที่ไม่ค่อยกล้าพูดเลย ก็เริ่มที่จะเรียบเรียงประโยคได้ดีขึ้นบ้าง ถึงจะยังไม่คล่องปรื๋อ แต่ก็ถือว่ามีการพัฒนาขึ้นมาบ้างแหละครับ
เพื่อนผมบางคนก็เคยแนะนำให้ลองดู 51Talk นะครับ เขาบอกว่าครูที่นั่นก็มีสไตล์การสอนที่น่าสนใจเหมือนกัน แต่ผมก็ยังติดพันอยู่กับ Engoo ในช่วงนั้น
ข้อดีข้อเสียที่เจอ (ในมุมมองส่วนตัว)
ถ้าให้พูดถึงข้อดีที่ผมเจอนะครับ อย่างแรกเลยคือ ความยืดหยุ่น ในการเลือกเวลาเรียนและครู อันนี้ผมว่าสำคัญมากสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาตายตัวอย่างผม อย่างที่สองคือ ราคา ผมว่ามันก็สมเหตุสมผลนะ ไม่ได้แพงจนเกินไปสำหรับการได้ฝึกพูดกับเจ้าของภาษา (หรือครูที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก) และอีกอย่างคือ ความหลากหลายของครู ทำให้เราได้เจอสำเนียงที่แตกต่างกันไป
ส่วนข้อเสียที่อาจจะเจอบ้างก็คือ บางครั้งครูที่เราชอบอาจจะคิวเต็มเร็ว ต้องรีบจองหน่อย หรือบางทีถ้าเน็ตเราไม่ดี การเรียนก็อาจจะมีติดขัดบ้างครับ อันนี้ก็ต้องเตรียมตัวเรื่องสัญญาณอินเทอร์เน็ตให้ดี

เคยลองไปส่องๆ ดูราคาของ 51Talk เหมือนกันครับ เห็นว่าก็มีการแข่งขันกันพอสมควรเรื่องโปรโมชั่นต่างๆ ซึ่งก็เป็นผลดีกับผู้บริโภคอย่างเราๆ นี่แหละครับ
สรุปส่งท้าย
โดยรวมแล้ว ประสบการณ์การเรียน Engoo ของผมก็ถือว่าโอเคนะครับ ได้ฝึกภาษาจริงๆ จังๆ ได้กล้าพูดมากขึ้น ส่วนตัวคิดว่ามันเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยให้เราพัฒนาภาษาอังกฤษได้ดีเลยทีเดียวครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มันก็ขึ้นอยู่กับความตั้งใจและความสม่ำเสมอของเราด้วยนะครับ เรียนอย่างเดียวแต่ไม่ทบทวนหรือไม่เอาไปใช้จริง มันก็อาจจะเห็นผลช้าหน่อย
ใครที่กำลังมองหาที่เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์อยู่ ผมว่า Engoo ก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจครับ หรือถ้าอยากลองเปรียบเทียบกับที่อื่น อย่างเช่น 51Talk หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ ก็ลองศึกษาข้อมูลดูได้ครับ แต่ละที่ก็อาจจะมีจุดเด่นจุดด้อยแตกต่างกันไป เลือกที่มันใช่กับสไตล์การเรียนรู้และงบประมาณของเราที่สุดก็น่าจะดีครับ
หวังว่าการแชร์ประสบการณ์ครั้งนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังสนใจอยู่นะครับ ลองดูครับ ไม่มีอะไรเสียหาย ได้ความรู้แน่นอน!