อยากให้ลูกเก่งอังกฤษ เริ่มจากการสื่อสารกับครูสอนภาษาอังกฤษของเด็ก

การสื่อสารที่ดีระหว่างผู้ปกครองและครูสอนภาษาอังกฤษของเด็กเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาการทางภาษาของเด็กให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ต่อไปนี้คือแนวทางสำคัญในการสื่อสารกับครูสอนภาษาอังกฤษของบุตรหลานท่าน

ประโยชน์ของการสื่อสารที่ดี

• ทราบถึงความก้าวหน้าและอุปสรรค: ผู้ปกครองจะได้รับข้อมูลโดยตรงเกี่ยวกับพัฒนาการทางภาษา จุดแข็ง และจุดที่เด็กอาจต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากครู

• สร้างความร่วมมือ: ครูและผู้ปกครองสามารถทำงานร่วมกันเพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ของเด็กทั้งที่โรงเรียนและที่บ้านได้อย่างสอดคล้องกัน

  

• แก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที: หากมีปัญหาหรือความเข้าใจผิดใดๆ เกิดขึ้น การสื่อสารที่เปิดกว้างจะช่วยให้สามารถแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว

• สร้างความสัมพันธ์อันดี: การสื่อสารอย่างสม่ำเสมอช่วยสร้างความไว้วางใจและความเข้าใจอันดีระหว่างบ้านและโรงเรียน

หัวข้อสำคัญในการพูดคุยกับครู

• ความก้าวหน้าโดยรวม: สอบถามเกี่ยวกับภาพรวมการเรียนภาษาอังกฤษของเด็ก เช่น การมีส่วนร่วมในชั้นเรียน ความเข้าใจในบทเรียน ทักษะการฟัง พูด อ่าน และเขียน

• จุดแข็งและจุดที่ควรพัฒนา: ขอให้ครูระบุจุดเด่นของเด็ก และส่วนที่เด็กยังต้องการการฝึกฝนหรือพัฒนาเพิ่มเติม พร้อมขอตัวอย่างที่เป็นรูปธรรม

• พฤติกรรมและทัศนคติในการเรียน: สอบถามเกี่ยวกับความกระตือรือร้น ความสนใจในการเรียนภาษาอังกฤษ การทำการบ้าน หรือพฤติกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเรียน

• เป้าหมายการเรียนรู้: พูดคุยถึงเป้าหมายที่ครูตั้งไว้สำหรับเด็ก และเป้าหมายที่ผู้ปกครองอยากเห็น เพื่อหาแนวทางร่วมกัน

• กิจกรรมเสริมที่บ้าน: ขอคำแนะนำจากครูเกี่ยวกับกิจกรรมหรือสื่อการเรียนรู้ที่ผู้ปกครองสามารถนำไปใช้เสริมทักษะภาษาอังกฤษให้เด็กที่บ้านได้

  

แนวทางการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ

• เตรียมตัวล่วงหน้า: ก่อนพูดคุยกับครู ควรจดประเด็นหรือคำถามที่ต้องการทราบไว้ล่วงหน้า เพื่อให้การสนทนาเป็นไปอย่างกระชับและได้ข้อมูลครบถ้วน

• เลือกช่องทางและเวลาที่เหมาะสม: สอบถามครูถึงช่องทางที่สะดวกในการติดต่อ เช่น อีเมล ไลน์ หรือการนัดหมายเพื่อพูดคุยโดยตรง และเคารพเวลาส่วนตัวของครู

• แสดงความเคารพและรับฟัง: สื่อสารด้วยท่าทีที่สุภาพ ให้เกียรติ และเปิดใจรับฟังความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะจากครู แม้ว่าอาจมีความเห็นไม่ตรงกัน

• เน้นการทำงานร่วมกัน: ใช้คำพูดที่แสดงถึงความร่วมมือ เช่น “เราจะช่วยกันสนับสนุนน้องได้อย่างไรบ้าง” แทนที่จะเป็นการตำหนิหรือโยนความรับผิดชอบ

• ติดตามผล: หากมีการตกลงหรือวางแผนร่วมกัน ควรมีการติดตามผลเป็นระยะ และแจ้งให้ครูทราบถึงความคืบหน้าจากทางบ้านด้วย

ข้อควรจำเพิ่มเติม

• สื่อสารอย่างสม่ำเสมอ: ไม่ควรรอให้เกิดปัญหาแล้วจึงติดต่อครู การพูดคุยอัปเดตข้อมูลกันเป็นระยะจะช่วยป้องกันปัญหาได้

• ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเด็ก: หากเด็กมีลักษณะเฉพาะ รูปแบบการเรียนรู้ หรือปัญหาอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อการเรียนภาษาอังกฤษ ควรแจ้งให้ครูทราบ

  

• ไว้วางใจในความเป็นมืออาชีพของครู: ครูผู้สอนมีความรู้และประสบการณ์ในการสอนภาษาอังกฤษ การแสดงความไว้วางใจจะช่วยให้การทำงานร่วมกันเป็นไปอย่างราบรื่น

• แสดงความขอบคุณ: อย่าลืมแสดงความขอบคุณต่อความพยายามและความทุ่มเทของครูในการสอนบุตรหลานของท่าน

การสื่อสารเชิงบวกและสร้างสรรค์ระหว่างผู้ปกครองและครูสอนภาษาอังกฤษคือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้เด็กพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษได้อย่างเต็มศักยภาพและมีความสุขกับการเรียนรู้