หาที่เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรีสำหรับคนไม่มีพื้นฐานมาเลยเริ่มเรียนได้เลยวันนี้ทันที

วันนี้จะมาเล่าให้ฟังว่าผมหาที่เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรียังไง สำหรับคนแบบผมที่พื้นฐานน้อยมาก เริ่มไม่เป็นเลยนะ พวกคอร์สเรียนส่วนใหญ่แม่งแพงโคตร ถ้าไปสมัครคงรูดบัตรเครดิตจนเจ๊งแหงๆ

1. มึนตึ้บกับเว็บเรียนร้อยแปด

แรกๆผมก็เซิร์ชกูเกิลหาแหละ พิมพ์ไปว่า “เรียนภาษาอังกฤษอื้นไลน์ ฟรี” เดี๋ยวนี้มันขึ้นมาเพียบ แต่เข้าไปทีไรงงทุกที บางเว็บโฆษณาเยอะไปหมด กดไปกดมาหน้ามันเด้งป๊อปอัปขึ้นมาขายคอร์ส ยิ่งพวกรีวิว “เรียนแค่ 7 วัน พูดคล่องปร๋อ!” อันนี้น่ากลัวสุด รู้เลยว่าโม้แน่นอน

ลองคลิกไปๆมาๆ สรุปคือ:

• คอร์สฟรีจริงแต่น้อยมาก: บางที่ให้เรียนได้แค่ 3 บท ต่อมาก็ต้องจ่าย บอกว่าเริ่มต้นได้ฟรีแต่พอเข้าไปจริงแกต้องมีพื้นฐานเรื่องนู่นนี่นั่นก่อน แม่งขี้ตากขึ้นสมอง
• งงกับคำศัพท์ครูฝรั่ง: พวกสอนโดยคนต่างชาติ บางทีเค้าพูดเร็วไปหน่อย ผมฟังไม่ออกเลยว่าหมายถึงอะไร ครูก็คิดว่าทุกคนคงเข้าใจ มันน่าหงุดหงิดมาก รู้สึกท้อก่อนเริ่มเรียน
• สมัครยังไงก็ไม่ผ่าน: มีเว็บนึงให้กรอกข้อมูลละเอียดยิบ หมดโค้ดไปตั้ง 8 โค้ดก็ยังไม่ได้รับอีเมล์ยืนยัน มันเสียเวลาโคตร

2. ค้นหาต่อแบบไม่ยอมแพ้

ไม่ไหว เลยเปลี่ยนวิธี หันมาเสิร์ชว่า “เรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาน ฟรี เริ่มต้นจากศูนย์” แค่นี้แหละ เหมือนโลกสว่างขึ้นมา

ลองเจอเว็บที่เค้ามี วีดีโอสั้นๆ ครูคนไทยสอนด้วย เสียงชัด ใช้ภาษาไทยอธิบาย แล้วก็ค่อยๆเริ่มจากตัวอักษร ก-ฮ เทียบกับ A-Z ก่อน นี่แหละที่ต้องการ ฟังเข้าใจง่ายกว่าเยอะ

แต่ต้องเล่าให้ฟังหน่อยว่า เว็บฟรีมันก็มีข้อจำกัดนะ:

• แบบฝึกหัดไม่มีคนตรวจ: เคยทำแบบฝึกหัดส่งไปหลายรอบแล้วไม่รู้ว่าถูกไหม ผิดตรงไหนบ้างก็ไม่รู้ มันก็ยังงงๆ
• บทเรียนเรียงไม่ค่อยเป็นระบบ: บางทีเรียนบท 1 แล้วพอ บท 2 มันกระโดดไปเรื่องที่ยากกว่ามาก ต้องย้อนกลับไปหาใหม่ เหนื่อยเหมือนเดินหลงทาง
• โฆษณาแทรก: นี่น่ารำคาญมาก เรียนๆ อยู่ดีๆ อยู่มาวู๊บ! โฆษณากระหน่ำ แปปนึงมันเล่น 2 รอบเลย ก็ต้องอดทนกดข้ามๆ

3. เจอทางสว่าง (ที่คิดว่าโอเคแล้ว)

สุดท้ายเลยไปเจอพวกที่เค้าให้ ทดสอบวัดระดับก่อนเรียนฟรี ผมทดสอบเสร็จมันก็บอกเลยว่า ระดับเท่านี้ควรเริ่มเรียนตรงนี้ไป พอเข้าไปดูเนื้อหา คราวนี้มันเรียนเป็นขั้นเป็นตอนเลย

เค้าเริ่มสอนแบบนี้:

• คำศัพท์ใกล้ตัวก่อน: สอนศัพท์พื้นฐาน 20 คำที่เจอทุกวัน เช่น book, pen, water, eat เอาแค่นี้ก่อน แทนที่จะไปยัดเรื่อง Tense ยากๆ ให้ตาย
• รูปประโยคง่ายๆ ซ้ำๆ: บอกให้จำแค่ “This is…”, “I want…” เยอะไปไม่ไหว เอาแบบฝึกพูดแค่ประโยคสั้นๆ พอรู้เรื่อง
• เกมเล็กๆ น้อยๆ: มีเกมจับคู่รูปกับคำศัพท์ ทำให้ไม่เบื่อน่ะ รู้สึกเหมือนเล่นเกมมากกว่าเรียนเครียดๆ

ตอนนี้เรียนไปได้ 2 อาทิตย์ แล้ว ก้าวหน้าช้ามาก แต่อย่างน้อยวันนึงรู้ศัพท์เพิ่ม 1-2 คำ ฝึกพูดในกระจกบ้าง ที่สำคัญคือฟรีจริงๆ ไม่มีบัตรเครดิตให้ลืมจ่าย ส่วนเรื่องไม่รู้จะเรียนไปนานแค่ไหน ค่อยว่าไปอีกที แต่ตอนนี้ได้เริ่มแล้ว โคตรภูมิใจในตัวเองเลยล่ะ!