จะบอกตรงๆนะ ก่อนหน้านี้พยายามฝึกภาษาอังกฤษเองผ่านยูทูปแต่ทนไม่ไหวแล้วเพราะมันกระจัดกระจายเกินไป เลยลั่นว่ารอบนี้ต้องเจอคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรีแบบเริ่มต้นจริงๆให้ได้
ช่วงหัวฟูกับการค้นหา
คว้าโทรศัพท์มาเสิร์ชในกูเกิลทันทีด้วยคีย์เวิร์ด “เรียนภาษาอังกฤษฟรี คนไม่มีพื้นฐาน” ปรากฎว่าเจอคอร์สจากหลายเว็บแจกฟรีเพียบ! แต่ส่วนใหญ่ดันต้องสมัครสมาชิกก่อน แถมบางที่ยังอัพเดทล่าสุดปี 2019 นี่ของแถมหรือไงเนี่ย
- ขั้นแรก : หยิบกระดาษกับปากกามาจดเว็บที่มีรีวิวดีๆ 7 เว็บ เล็งๆไว้แล้วว่าถ้าเจอคอร์สเนื้อหาขั้นพื้นฐานกับฝึกออกเสียงชัดเจนคือปัง
- ขั้นต่อมา : นั่งไล่เช็กรายละเอียดแต่ละที่แบบละเอียดยิบ คัดคอร์สที่เนื้อหาอัดเป็นวีดีโอสั้นๆไม่เกิน 15 นาทีเพราะถ้ายาวกว่านั้นผมหลับแน่นอน
- ขั้นตัดสินใจ : โดนเว็บนึงสะดุดตาที่มี “ห้องแชทถามคำถามกับครูได้” แถมมีไฟล์เอกสารให้ดาวน์โหลดแบบไม่ต้องสมัครสมาชิกซะด้วยสิ
ลงมือเรียนจริงจัง
เปิดคลิปแรกที่สอนการทักทายแบบง่ายๆ ครูฝรั่งเสียงดังฟังชัดมาก ผมรีบคว้าสมุดมาจดประโยค “Hello, my name is…” แบบไม่กล้าพลาดสักตัวอักษร พอครูดันบอกให้พูดตามนี่เหงื่อแตกเลยนะ แต่ก็ตะโกนตอบในห้องว่างเปล่าแบบมั่นใจ

- ทริคปัง : เปิดซาวน์แมนปิดซับไตเติ้ล! บังคับตัวเองฟังสำเนียงจริงๆ แรกๆฟังไม่ค่อยรู้เรื่องแต่ผ่านไปอาทิตย์นึงเริ่มแยกเสียง “What” กับ “Water” ออก
- ปัญหาจุก : เรียนไป 3 คลิปดันติดบทพูดเกี่ยวกับสภาพอากาศที่มันยาวเป็นหางว่าว นี่เขาจะให้คนเพิ่งเริ่มต้นจำวลี “It’s rather chilly today” จริงดิ? ผมถอดใจพักกินข้าวไปหนึ่งมื้อเต็มๆ
ผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึง
ผ่านไปสองสัปดาห์ต้องยอมรับว่า การมีตารางเรียนฟรีทำให้ไม่กล้าขี้เกียจ ตื่นแปดโมงเช้าวันเสาร์เพื่อเรียนต่อไม่ขาด ตอนนี้สามารถแนะนำตัวแบบสั้นๆได้โดยไม่ม้วนกระดาษจด ยิ่งพอฟังเพลงฝรั่งเริ่มร้องตามได้บางท่อนนี่เริ่ดมาก
สรุปแบบตรงไปตรงมา : คอร์สฟรีสำหรับคนไม่มีพื้นฐานมันก็ดียังไงล่ะ อย่างน้อยก็ไม่ต้องทนเรียนกับศัพท์ยากระดับอาจารย์ที่ทำให้อยากเผาตำรา แต่ต้องเตรียมใจว่าบางเว็บเขาจะเอาเนื้อหาระดับกลางมาแปะป้าย “สำหรับผู้เริ่มต้น” แบบไม่น่าอินังเผื่อใจไว้ด้วยนั่นแหละ!
