ก็เริ่มจากกูอยากอัพสกิลภาษาอังกฤษน่ะ แต่เงินไม่มี เห็นมีคอร์สฟรีปีนี้ก็ลองดูเลย ขั้นแรกไปเสิร์ชหาดูว่าเขามีคอร์สอะไรบ้าง เจอประกาศคอร์สฟรีไว้ฝึกพูดกับแกรมม่า แต่ต้องสมัครก่อนเปิดเรียน ตอนสมัครก็มึนๆเพราะบางเว็บมันขอข้อมูลเยอะเกิน กูยื่นแต่ชื่อกับเมลเปล่าๆ หาเรื่องจ่ายเงินไม่ได้แล้วกัน
เริ่มเรียนวันแรกสนุกดีเวอร์
พอถึงวันเรียนกดลิงก์เข้าไปในเว็บ ปรากฎว่ามันให้ลงโปรแกรมสอนสดมาเอง ซวยเลยต้องไปโหลดแอปเพิ่มอีกตัว แรกๆมันกระตุกตลอด เสียงอาจารย์ขาดๆหายๆเหมือนฟังวิทยุเก่าๆ ตอนสองโมงเช้าครึ่งยังใส่กางเกงในอยู่เลยไม่กล้าเปิดกล้อง
ของฟรีนี่มันห่วยจริงนะเว้ย คลิปวีดีโอบางอันคุณภาพต่ำมาก ดูในมือถือแทบแยกไม่ออกว่าหน้าจอเขียนว่าอะไร อาจารย์ให้โจทย์มาแต่ลืมแจกไฟล์งาน พอส่งข้อความถามในแชทก็ไม่มีใครตอบ คิดในใจอยากถอยแล้วแต่เสียดายเวลาไปตั้งหากลับไม่ไหว

แผนรับมือฉบับกูแพง:
- ตื่นตีห้ามาฟังคลิปย้อนหลังแทนเรียนสด
- จดศัพท์ใส่สมุดขี้หมูแทนการทำแบบฝึกหัดในเว็บ
- ถ้าไม่มีคนตอบแชทก็เอาคำถามไปถามในกลุ่มเฟสบุ๊คแทน
เจอปัญหาประจำคอร์ส
อยู่มาเดือนนึงเนื้อหาเริ่มยากขึ้น บางทีฟังอาจารย์ไม่ทันมันไม่มีซับไตเติ้ลไทย พอทำแบบทดสอบหลังบทเรียนปรากฏว่าเว็บล่มซะงั้น กูติดศูนย์เวอร์ซ่งแรงทั้งที่ทุ่มเทตั้งมาก ส่งเมลไปร้องเรียนก็ได้แต่อีเมลอัตโนมัติมาตอบแบบตัดแปะ
เพื่อนร่วมคอร์สคนนึงโดนแบนเพราะแชทถามว่า “ทำไมอาจารย์ไม่เปิดกล้อง” แม่มค่าตอบมาแบบโคตรฮา: “สมาชิกไม่ต้องกดไลน์ไอดีอาจารย์ส่วนตัว” เห้ยกูเห็นมาว่ารุ่นพี่ปีก่อนทนเรียนจบได้บางคน เลยปักหลักเรียนต่อไม่ยอมแพ้
ผลลัพธ์ที่ไม่คิดมาก่อน
เรียนไปสามเดือนมันเริ่มเข้าท่า พอได้ฝึกฟังทุกวันกูเริ่มแยกเสียงตัว R กับ L ออกนะ พูดกับชาวต่างชาติในร้านกาแฟทักษะดีขึ้นพอควร แม้แกรมม่ายังงงเรื่อง Perfect Tense บ้างแต่กูภูมิใจมากในคอร์สฟรีของกู
แอบเสียดายนิดหน่อยที่จบคอร์สมาไม่ได้ประกาศนียบัตรฟรี ให้มาเป็นไฟล์ PDF โหลดเอง แถมชื่อกูยังสะกดผิดอีกต่างหาก! แต่ยังไงก็ได้เรียนรู้ว่า:
- คอร์สฟรีดีไม่ดีอยู่ที่ความขยันมากกว่าคุณภาพ
- เรียนออนไลน์มันก็เหงาต่างหากเมื่อไม่มีเพื่อนโต้ตอบ
- การเรียนทุกคนไม่เท่ากัน แต่กูผ่านมันมาได้ด้วยตนเอง
สรุปถ้าไม่มีตังเรียนหรืออยากลองสกิลก่อนลงทุนจริง ตามหาคอร์สฟรีได้อยู่ แต่จงเตรียมใจกับความผิดหวังล่วงหน้าไว้เยอะๆนะเพื่อน
