ประสบการณ์เรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วยตัวเองแบบฟรีๆ ที่คาดไม่ถึง
เริ่มจากมันอยากฝึกภาษาอังกฤษแบบจริงจังนะ ตอนแรกตั้งใจว่าจะเรียนฟรีให้ได้แบบไม่ต้องลงทุนเลย เพราะเงินในกระเป๋ามันไม่ค่อยจะมี เลยเริ่มหาแหล่งฟรีในเน็ตดูก่อน ตอนแรกก็งงมาก ข้อมูลเพียบ แต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี
ลองโหลดแอปเรียนภาษาหลายตัวมาก ประมาณ 5-6 ตัว เปิดมาแต่ละอันก็สวยงาม น่าใช้ทั้งนั้น แต่มันดันมีให้ลองแค่นิดเดียว พอเล่นไปซักพักไม่กี่นาที อ้าว! ขอให้ซื้อครอสเรียนต่อ เจอแบบนี้ทุกแอปเลยเกือบหมด ยกเลิกการติดตั้งทิ้งทีละตัว หน้าแทบจะคว่ำ มันไม่ได้ฟรีจริงๆ แบบที่คิดนี่นา
ก็ยังไม่ยอมแพ้ ลองหาต่อไปเจอบล็อกหนึ่ง เขาเขียนว่าให้เริ่มจากเว็ปฝึกฟังของต่างประเทศที่ให้ใช้ฟรีได้ เลยลองเข้าไปดู แต่พอดูบทสนทนาแล้วแบบ… ตาถอดสิ เขาพูดกันเร็วมาก แถมศัพท์แสงก็ยากกว่าที่คิดไว้เยอะ ไม่นึกว่าของฟรีพื้นฐานมันจะยากขนาดนี้!
ยังหาๆ ต่ออยู่อีกพักใหญ่ จนไปเจอคลิปสอนภาษาอังกฤษพื้นฐานจากครูไทยคนหนึ่งในยูทูบ (มันมีให้ฟรีๆ นะ ไม่ต้องจ่าย) เป็นคลิปสั้นๆ แบ่งเป็นตอน การออกเสียงง่ายๆ คำศัพท์พื้นฐานใกล้ตัวก่อน อย่าง รถเมล์ ผัก ผลไม้ กินข้าว อะไรแบบนี้ ฟังครั้งแรกแบบรู้สึกว่าค่อยยังชั่ว มันพอจะเข้าใจได้! เลยลองทำตามที่ครูเขาสอนเลยนะ พูดตามหน้าจอทีละคำ ทีละประโยค อัดเสียงเก็บไว้ฟังตัวเองด้วย ตั้งหลักใหม่แบบเริ่มกันจริงๆ
ลองเรียนคลิปนี้ไปประมาณสองอาทิตย์ เริ่มจำคำศัพท์ง่ายๆ ได้บ้าง ประโยคสั้นๆ ได้ยินแล้วพอเดาความหมายได้ รู้สึกตื่นเต้นและมีกำลังใจขึ้นมาเล็กน้อย คิดว่าจริงๆ แล้วต้องใช้เวลามากกว่านี้แหละ กว่าจะคุ้นชินกับเสียง
แต่!! ความรู้สึกดีๆ นี่มันอยู่ไม่นาน ตอนวานนี้เองนะ เปิดเจอคอร์สเรียนฟรีอีกที่หนึ่ง เป็นคอร์สแกรมม่าพื้นฐาน เลยลองกดลงทะเบียนเรียนดู พอได้เรียนจริงๆ หืมมม!! แม่งยากกว่าฟังคู่สิบเท่า อ่านโพยพวกตัวย่อ S V O นี่ตาลายไปหมด! อ่านหนังสือเขาว่าเรียนแกรมม่า 5-10 นาทีต่อวันก็พอ เล่นเอาทำเป็นชั่วโมงกว่าๆ แถมยังไม่เข้าใจซักทีซิ! จนปวดหัวมึนไปหมด รู้สึกสมองจะไม่ทำงาน
วันนี้ตื่นมาตอนเช้าก็มานั่งทบทวนใหม่ มันเริ่มต้นอยากเรียนภาษาอังกฤษแบบฟรีๆ กับแผนที่ตั้งไว้ดูสวยหรู ตอนนี้คือเกือบจะถอดใจแล้วนะ เพราะมันมีอะไรขวางทางเยอะมาก ทั้งข้อมูลท่วมท้น หาแหล่งดีๆ ยาก แบบฝึกหัดฟรีบางอย่างใช้ไม่ได้เลยจริงๆ พอมันมีบางแหล่งที่ดีฟรีจริง แต่พื้นฐานเราต้องแน่นหน่อยถึงจะตามทัน
สุดท้ายที่นั่งเขียนนี่ก็ยังไม่รู้ว่าแผนแบบไหนจะเวิร์ค แต่คิดว่าการได้ฝึกทีละนิด ก่อนนอนวันละสิบห้านาที เน้นฟัง พูดตาม และท่องจำศัพท์ใกล้ตัวนี่แหละ ดูจะเป็นวิธีที่พอทำได้ ไม่หนักเกินไปตอนนี้ ส่วนแกรมม่ายากๆ นี่…ขอพักก่อนเหอะ สมองยังรับไม่ไหวจริงๆ!
เล่าเมื่่อตะกี้นี้เมียเดินผ่านได้ยินเข้า แกขำใหญ่เลยบอก “ที่แกมานั่งก้มหน้าก้มตาหน้าจอ มือจิ้มๆ พูดคนเดียวเนี่ย แกคิดว่าตัวเองเป็นนักเรียนเอกอิงกะริ้ดตัวจริงเหรอ?” ทิ้งท้ายด้วยน้ำตาคลอเบ้าของลูกชายที่อยากได้ขนมไปโรงเรียน แต่กระเป๋าตังค์แม่ยังมีแต่เหรียญหลอ ได้แต่บอกเค้าว่า “พรุ่งนี้เดี๋ยวแม่ซื้อให้นะลูก” ทั้งที่ในใจรู้เลยว่าสถานการณ์คงไม่ต่างกัน 😭
