มาแล้วมาแล้ว! วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์เรียนภาษาอังกฤษแบบตัวต่อกระดานเลย เป็นไงบ้างสำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานอะไรเลย
จุดเริ่มต้น: ใจมันอยาก แต่สมองมันโล่ง
คือบอกตรงๆ ก่อนหน้านี้ภาษาอังกฤษสำหรับเราเนี่ย เป็นเรื่องไกลตัวมาก พอเปิดยูทูปไปทีไร เจอคลิปฝรั่งพูดเก่งๆ เค้าพูดกันสนุกจัง ความรู้สึกแบบ “เฮ้ย อยากพูดได้แบบนั้นบ้างวะ” มันผุดขึ้นมา แต่นึกดูตัวเองก็อึ้ง… พื้นฐานน่ะ? ก็เออ ศูนย์เป๊ะ เอาง่ายๆ ตอนเปิดคลิปเค้าต้องมีซับไตเติ้ลไทยถึงดูรู้เรื่องเนอะ อะไร basic แบบ “How are you?” นี่ยังตอบไม่คล่องเลยเว่ย! เลยคิดว่า หาทางเรียนฟังบ้างดิ ให้มันง่ายๆ ชิวๆ ก่อน.
ลงมือหาอย่างละมุนละม่อม (แบบฟรีๆ)
มันมีแพลตฟอร์มเรียนออนไลน์มากมายเนอะ แต่เราชอบอะไรที่ฟรีและใช้ได้ทุกที่ทุกเวลาอ่ะ เลยใช้วิธีนี้:

- เสิร์ชแบบเจาะจง: เปิดกูเกิ้ลพิมพ์เลย “เรียนภาษาอังกฤษฟรี ไม่มีพื้นฐาน” หรือ “English for absolute beginners free”. ตอนแรกเนี่ยมีเป็นร้อยคลิปเลยอ่ะ เลือกไม่ถูก ลองกดดูหลายอันจ๊ะ.
- เจอของดี: เลือกคลิปที่ดูแล้วคนสอนใจดีๆ ไม่ดุ อธิบายช้าๆ และมันเริ่มจาก ต่ำสุด จริงๆ โคตรเหมาะกับเราเลย เช่น สอนเอาต์พุทแบบ “Hello”, “My name is…”, “Thank you” ก่อน. เป็นคลิปสั้นๆ ประมาณ 10-15 นาทีนี่แหละ เพลินดี ไม่รู้สึกท้อ.
- ไม่เน้นวิชาการ: เราเบื่อมากกับพวกแกรมม่านะ รู้ไหม? เลยโฟกัสคลิปที่เน้นพูดเลย เน้นฟังเลย เห็นรูปภาพ อะไรที่มันเข้าใจง่ายๆ บอกเลยว่าคลิปที่มีคนสาธิตการทักทายแบบเห็นหน้าเห็นตาเนี่ยโคตรช่วย!
- พยายามฟังเพลง: หาเพลงสากลช้าๆ ฟังง่าย มานั่งฟังวนไป เปิดซับไตเติ้ลไทยไปด้วย เวลานึกศัพท์อะไรไม่ออกก็เปิดดิกฟรีในมือถือจิ้มๆ หา แรกๆ แปลทุกคำยังได้เลยเว้ย! อยู่ที่ความขยันอ่ะ.
ขั้นตอนการเรียนแบบถึกที่สุด
พอได้คลิปดีๆ มาแล้ว ไม่ใช่แค่นั่งดุนะ:
- เปิดแล้วฟัง: เริ่มแรกแค่นั่งฟังเฉยๆ ฟังไปยิ้มไปก็ยังได้ บางทีครูเค้าทำท่าทางตลกๆ นั่งหัวเราะคนเดียวไปก็มี! ฟังก่อนหนึ่งรอบเต็มๆ ไม่ต้องกดหยุด.
- ฟังซ้ำแล้วพูดตาม: อันนี้สำคัญมาก! เล่นใหม่ทีละประโยค แล้วพยายามเลียนเสียงเค้าให้เหมือนที่สุด ปากมันแข็งเป๊ก แต่ออกมาจากปากเรามันแปลกๆ ก็พูดไปเถอะ! “Hello, my name is…” มันดังก้องในบ้านคนเดียวเลยอ่ะ หน้าบานไปด้วย. พอเริ่มบ่อยขึ้น หูเริ่มเคยชินกับเสียง พูดคล่องขึ้นนิดนึง.
- ทำทุกวัน แม้แป๊ปเดียว: เราไม่ได้ฝันอยากเป็นอาจารย์ แต่ตั้งเป้าว่า วันละ 15-20 นาทีก็พอ ช่วงเช้าก่อนนอนตอนกลางคืน ถ้าเลิกงานไวก็ดีหน่อย. ไม่ต้องโหม ถ้าเบื่อก็พัก. การทำทุกวันเนี่ย มันสร้างพลังลึกลับอ่ะ เชื่อสิ.
- นึกถึงประโยคง่ายๆ ในชีวิต: มันมีประโยชน์อ่ะ ยืนในห้องน้ำมองตัวเองในกระจก แล้วทักทายเป็นภาษาอังกฤษ “Good morning, handsome! (ฮ่าๆ)” เวลากินข้าวก็นึกว่า “This is rice. This is fish.” เริ่มจากความเห็นแก่ตัวก่อนก่อน เอาให้ตัวเองรอดในสมองไปทีละนิด.
เจออะไรบ้าง? ก็มีนะ ความโง่กับความฮา!
ช่วงแรกมันน๊าา… โคตรท้อ! เสียงที่ออกมาจากปากเราอะ มันเหมือนคนเจ็บคอหรือพูดตะกุกตะกัก ไม่เหมือนฝรั่งเลยแบบ“ทำไมมันยากจังฟะ”. พอเริ่มจำศัพท์ได้เพิ่ม ประโยคเริ่มยาวขึ้น ความสงสัยแบบ “ไอ้ตัวนี้มันใช้วางตรงนี้ป่าววะ” มันผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด. จับไวยากรณ์ไม่ค่อยได้ก็ปล่อยไปก่อน นึกถึงที่ครูเค้าบอกว่า “พูดให้คนเข้าใจก่อน” แล้วค่อยไปใส่เก๊ะแกรมม่าทีหลัง.
ฮา: วันนึงเปิดคลิปคนสอนพูดว่า “I brush my teeth.” แต่เวลาพูดตาม เราดันพูดออกมาเป็น “I brush you teeth!” นึกภาพตัวเองแปรงฟันให้คนอื่นอยู่เหรอ? นั่งหัวเราะกับตัวเองพักใหญ่.
สรุปจากเริ่มจนถึงตอนนี้
แบบว่า… ประมาณ 2 เดือนกว่าแล้วนะ แต่ยังห่างไกลจากเก่งเลย รู้ตัวเอง. แต่ที่ภูมิใจสุด คือเริ่มรู้สึกว่า มัน“ไม่ใช่เรื่องไกลตัว” อีกต่อไปแล้วล่ะ! มั่นใจขึ้นนิดนึงเวลาจะทักใครเป็นภาษาอังกฤษพื้นฐาน ไม่กลัวว่าจะถูกหัวเราะแล้ว (กลัวแต่แอบน้อยลงนะ). การฟังก็เริ่มดีขึ้น เข้าใจในระดับคำศัพท์ง่ายๆ ได้มากขึ้นเวลาดูคลิปไร้ซับ. มันเหมือนเราเพิ่งเปิดประตูบานแรกของโลกใบใหม่ยังไงอยู่นั่นแหละ.
เคล็ดลับข้างทาง: “ใจเย็นๆ” สู้ไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก. ไม่ต้องเปรียบเทียบกับใคร. “ความกลัว” คือศัตรูตัวฉกาจ ที่ขโมยเวลาเรียนฟรีๆ ของเราไป! เอ้า พูดมันออกมาเลยผิดถูกไม่สนใจใคร! เวลามันเบื่อ มันท้อ นึกถึง”เหตุผล” ที่เราอยากทำอีกรอบ. เค้าว่าแรงบันดาลใจมีไว้จุดประกาย แต่วินัยต่างหากที่ทำให้ไฟลุกต่อ! เอาเถอะ ใครไม่มีพื้นก็เริ่มได้ ไม่ต้องใช้ตังค์เยอะ!
