เริ่มจากจุดที่รู้สึกว่าการเรียนภาษาอังกฤษเนี่ยมันน่าเบื่อสุดๆ เลย เพื่อนเคยบอกให้ท่องศัพท์ทุกวัน กูก็ทำนะ เอาจริงพยายามตั้งเป้าวันละ 10 คำ แต่ทำได้แค่สองวันก็เลิก แปะโพยคำศัพท์บนกำแพงก็เห็นจนเบื่อ นึกในใจว่า “นี่กูต้องทนแบบนี้ไปอีกกี่ปีถึงจะพูดได้วะ?”
เปลี่ยนแนวคิดตอนเจอคลิปชาวต่างชาติสอนแบบฮาๆ
วันนึงมันบังเอิญเลื่อนฟีดยูทูบไปเห็นฝรั่งคนนึงทำคลิปล้อสำเนียงไทยเป๊ะเว่อร์! กูดูแล้วขำกลิ้งเลย ทั้งๆ ที่มันด่าทำนายหัวเราะอยู่ดี แต่หลังๆ คลิปเขามีสอนเกมส์สนุกๆ แบบนี้ละ
- ไม่น่าเชื่อว่าสิ่งแรกที่ทำคือเล่นเกม : หยิบเอาการ์ตูนตลกที่ชอบดูมาเปิดซับไทยคู่ซับอังกฤษ พอตัวละครพูดคำไหนสนุกๆ กูจะกด pause แล้วล้อเลียนเสียงตาม เลียนแล้วเราก็ฮาไปอีก
- เน้นสำเนียงแปลกก่อน : ไม่เริ่มจาก “Hello” แต่เล่นเป็นประโยคตลกๆ แบบ “My elephant wears pink pants!” (ช้างกูใส่กางเกงสีชมพู) พอพูดเบสิกได้ก็เริ่มแต่งประโยคประหลาดใส่แฟนทันที
- กูเอาเพลงมั่วซั่วมาแร็พ : แทนที่จะเรียนแกรมม่า นั่งฟังเพลงฮิตแล้วเอาคำง่ายๆ มาสร้างเป็นเนื้อเพลงใหม่ แค่ “Cat eat fish / Dog eat bone / I eat noodle every day” ก็พอให้ท่องเหมือนจังหวะแร็พแล้ว
ผลลัพธ์มันเกิดตอนใช้หน้างานจริงๆ
จำได้เละๆ ตอนไปเจอแก็งฝรั่งหลงทางที่สยาม พวกเขาถามทางแบบงงๆ กูก็ดันฟังออกว่าเขากำลังหาห้องน้ำ! แทนที่จะมึน ขัดสน พอใช้ประโยคตอนแร็พแมวกินปลา พูดออกไปประมาณนี้: “Toilet? You jump escalator… go zoo top! Hahaaa!” สุดท้ายคือกูชี้ทางถูกนะ นี่คือครั้งแรกในชีวิตที่ไม่ต้องพยายามพูด “correct English” แต่สื่อสารรู้เรื่องแบบสุดๆ
ตรงสำคัญที่สุดที่รู้สึกหลังเรียน 3 เดือน – กูเลิกกังวลเรื่องผิดถูกไปเลย ยิ่งพูดเก๋เท่าไหร่ ยิ่งใช้คำแปลกเท่าไหร่ ฝรั่งเขายิ่งชอบ! มันทำให้ความกลัวหายไปแบบฟีลกู๊ด ไม่ต้องรู้ศัพท์ระดับสูง แค่ฝึกให้ปากขยับแบบธรรมชาติ แล้วภาษาอังกฤษที่จริงๆ มันก็… แค่การเล่นสนุกเฉยๆ นี่นา
