ตอนแรกๆ รู้สึกอายมากเวลาจะพูดอังกฤษออกเสียงยังไงก็ไม่มั่นใจ เฮ้ย! เลยตัดสินใจลองเรียนกับฝรั่งตัวเป็นๆ สิ
เริ่มเสิร์ชหาครูสอน
เปิดกูเกิลแล้วพิมพ์หา “เรียนพูดอังกฤษออนไลน์” โผล่มาเป็นสิบเว็บ กดเข้าเว็บแรกเจอครูเยอะแยะไปหมด ทั้งขาวดำผมหยิกศีรษะล้าน เลือกไม่ถูกเลยเอาตามราคาไว้ก่อน คลิกเซตตัวกรอง “ถูกสุดก่อน”
ได้ครูมา 3 คนที่ราคาดีๆ

- ครูใหญ่หน้าแบบสายแช่ – รอบละ 150 บาท
- สาวผมบอบราวน์น่าฟัด – รอบละ 300 บาท
- หนุ่มอเมริกันยิ้มง่าย – รอบละ 200 บาท
คลิกลองดูโปรไฟล์ครูสาวแล้วดันเต็มเวลาเรียนซะแล้ว เลยกดจองครูหนุ่มใส่แว่นตาตั๊กแตนไป 1 คลาส 30 นาที
วันเรียนจริง! ตื่นเต้นโคตร
เปิดแอพแล้วกดเข้าระบบก่อนเวลา 5 นาที เหงือกซ้ายชักกระตุก ยื่นหน้ามองกล้องไปเอง จนพี่ฝรั่งโผล่มา “ฮัลโหล!” ด้วยเสียงหนักๆ แซงคิวมาก่อน เริ่มคุยแบบกะทันหัน
ฝรั่งถามเป็นแผ่นเสียงตกร่อง:
- “วันนี้อากาศเป็นไง?” ฉันตอบแบบติดขัดว่า “ฮอท… เวลี่ฮอท”
- พี่แกส่ายหัวแล้วดันพูดช้ามาก “สโลว์ลี่… say… it’s… very… hot…”
- นั่งลอกปากเค้าพูดตามแบบเด็กอนุบาล 3 รอบ สุดท้ายโดนจับผิดว่า “ฮอท” พูดเป็น “ฮัต” หมด!
ช่วงนาทีสุดท้ายนี่หักดิบเลย พี่แกยิงคำถามเร็วขึ้นกว่าเดิมเป็นสิบเท่า อ้าปากค้างไปสองรอบ ตอบได้แค่ “งึม…อึม…” พอโดนนับถอยหลัง 5 วินาที สมองตื้อสนิท
ปิดคลาสเก็บตก
ครูปุ๊บส่งไฟล์เสียงมาให้เลยในแชท เป็นเสียงเราพูดที่ติดๆ ขัดๆ ทั้งคลาส พร้อมข้อความว่า “ฝึกพูดอัดเสียงเปรียบเทียบทุกวันนะจ๊ะ!” เปิดฟังเสียงตัวเองแทบไม่อยากเชื่อ พยางค์ครึ่งนึงหายไปไหนก็ไม่รู้
ถึงเซ็งแต่ได้สติอยู่ตรงนี้ล่ะ: ฝรั่งเขาก็ไม่ใช่นางฟ้า จะพูดเพี้ยนหรือพูดช้า เขาก็รอเราอยู่นั่นแหละ สิ่งที่ต้องทำคืออย่ากลัวที่จะงี่เง่า!
ตั้งแต่นั้นเลยลองจองคลาสตอนตี 5 (ราคาถูกอีก 30%) แล้วอัดเสียงตัวเองไว้เปรียบเทียบทุกครั้ง อาทิตย์แรกๆ มันก็ยังเบื่อโรงงานภาษาอยู่นะ แต่เดี๋ยวนี้เริ่ม “ติดยาเสพติด” เวลาเห็นปุ่มจองว่างแล้ว!
