เริ่มต้นก็เพราะลูกสาวเริ่มพูดภาษาอังกฤษสำเนียงเพี้ยนๆ บวกกับเห็นเพื่อนบ้านส่งลูกเรียนออนไลน์กันเพียบ มันต้องหาทางแก้กันแล้ว ก็เลยเปิดกูเกิ้ลขึ้นมา พิมพ์หารายชื่อที่เรียนพิเศษภาษาอังกฤษออนไลน์ให้ลูกเป๊ะๆ พอค้นเสร็จเว็บมันโผล่มาเป็นพรืด! หน้าจอแทบแตก!
ขั้นแรก : คัดคอร์สแบบงงๆ ไปก่อน
นั่งจิ้มไล่ดูทีละอันแบบมึนๆ เพราะแต่ละที่โฆษณาเวอร์หมดเลยอะ “เรียน 3 เดือน พูดคล่องเป๊ะ!” “ครูเจ้าของภาษา 100%” อ่านแล้วแบบ… เออ จริงปะเนี่ย? เลยต้องนั่งแกะเงื่อนไขการเรียนตัวเล็กๆ ข้างล่าง มันต้องอ่านหมด! เพราะบางคอร์สครูเป็นฟิลิปปินส์แต่บอกว่า Native ซะงั้น
ขั้นสอง : ซุ่มทดลองเรียนฟรีแบบจดจ่อ
คัดมาหลายที่ เจอที่เขาให้ทดลองเรียนฟรีกะเขาด้วย! เลยต้องจองตาราง นั่งเฝ้าหน้าจอ กับลูกเหมือนยามรอตำรวจตรวจนั่นแหละ ระหว่างเรียนลุ้นอยู่ลึกๆ ว่า:

- ครูจะพูดเร็วเกินไปมั้ย? ไม่งั้นลูกหนูตามไม่ทัน
- ครูโหดเกินไปป่าว? กลัวลูกเครียดกว่าเดิม
- มันมีเกมให้เล่นรึเปล่า? เก็บความสนใจเด็กมันยากโคตร
- ระบบเสียงกับภาพชัดป่าว? ไม่งั้นเสียตังค์เปล่า
ทดลองไปสามสี่ที่ บางคอร์สแป๊บเดียวก็รู้สึกว่า “ไม่โอเค” เพราะเด็กเริ่มหงุดหงิด บางที่เห็นแววตาลูกเป็นเชิงบวกก็เซฟไว้ก่อน
ขั้นสาม : ตกใจกับราคาแบบเหงื่อตก
พอลองดูคอร์สที่ชอบใจแล้ว มาเจอขั้นตอนหาค่าเรียนอะ เปิดราคามาต้องกดปุ่ม “ดูเพิ่มเติม” เกือบทุกที่! พอได้เห็นตัวเลขจริง แบบอึ้งเลยจ้ะ! บางคอร์สแพงเกิ๊น หลักหลายพัน… บางที่ถูกสวนทางกับคุณภาพ แต่นี้เหรอ?! ราคาคอร์สนึงตกอยู่ที่ 299 ต่อเดือน เทียบกับที่เคยเห็น 1,900 นี่แม่ม… ลูบตาเช็คใหม่สองรอบ ถูกโคตร!
ขั้นสี่ : พิพากษาจุดชนวน (กับสามี)
พอเห็นราคาและทดลองแล้ว ก็เล่าให้คุณพ่อฟังเผื่อช่วยตัดสินใจ ตอนแรกเขางงๆ แต่พอได้ยินว่า “ครูไทยสอนแหละ” เขาก็ขมวดคิ้วแล้วถามกลับทันที “ไทยสอน? แล้วมันจะเวิร์คมั้ยวะ?” เลยต้องย้ำว่าลองดูคอร์สตัวอย่างแล้ว เห็นว่าเด็กชอบ แถมครูเขาสอนสนุกและ โฟกัสแก้ไขจุดอ่อนลูกเราได้เป๊ะ! อยู่ที่เทคนิคการสอน ไม่ใช่สัญชาติ
สุดท้ายก็ตัดสินใจลงคอร์สราคาประหยัด เซฟตังค์ไปได้เกือบพันเจ็ด! ส่วนเงินที่เซฟไว้ได้… กำลังคิดว่าจะพาทั้งครอบครัวไป กินชาบูแทนไอศครีมที่เหลืออยู่ แบบฟินสุดๆ