เมื่อวานอาบน้ำอยู่ดีๆ ก็คิดได้ว่าต้องเรียนภาษาอังกฤษซะที เริ่มจากศูนย์เลยนะ เพราะสมัยเรียนเกลียดวิชานี้ที่สุด บวกกับแค่เจอฝรั่งทีไรเป็นลมทุกที
ขั้นตอนที่1 หาที่เรียนฟรีใกล้ตัว
เปิด YouTube กดค้นหา “เรียนภาษาอังกฤษง่ายๆ” เจอครูน่ารักคนนึงสอนช้าๆ ชัดมาก ดีตรงที่เค้าไม่ใช้หนังสือเรียนน่าเบื่อ แต่สอนผ่านเพลงป๊อปที่เคยฟังนั่นแหละ ตอนแรกร้องตามไม่ถูกเลย เสียงเหมือนแมวถูกหางกระแทกประตู
ขั้นตอนที่2 ดูการ์ตูนเด็กตอนนึงทุกวัน
- เลือกเรื่องที่รู้เนื้อหาก่อนแล้ว อย่าง Peppa Pig นี่แหละตัวดี
- เปิดซับภาษาอังกฤษแบบไม่มีคำแปลข้างล่าง ตอนแรกมึนมากฟังไม่ออกว่าเป๊ปป้าพูดว่าอะไร แต่พอเห็นภาพก็เดาได้ว่า “Jumping in muddy puddles!” คือกระโดดแอ่งน้ำ
- ได้ยินคำเดิมซ้ำๆ ทุกวันจนเริ่มพูดตามได้โดยไม่คิด
ขั้นตอนที่3 ตั้งมือถือเป็นภาษาอังกฤษ
แค่กดตั้งค่าปุ๊บ โลกก็เปลี่ยน! เวลาเปิดแอพไหนจะเห็นแต่คำว่า “Settings” “Download” “Cancel” ตอนแรกบังตาเอ๋อทุกที ยิ่งเจอคำเตือนว่า “Storage full” นี่รีบไปลบรูปเก่าเพียบ กลัวมือถือพัง (แต่จริงๆ แค่เตือนว่าครบพื้นที่)

ขั้นตอนที่4 เดินไปร้านสะดวกซื้อ
เจอพนักงานต่างชาติปุ๊บ ก็ยกมือไหว้แล้วปล่อยของ “Hello! One… hotdog, please.” นึกว่าได้แล้ว แต่พี่เค้ายิ้มแล้วถามกลับ “Would you like ketchup?” ตายหละ! ไม่รู้ว่าเค้าส์ฉัพคือซอสมะเขือเทศ ส่งสายตาแบบกวางติดไฟหน้าแรงค์จนพี่เขาใจดีชี้ที่ขวดแดงให้ หลังๆ เลยจำได้ว่า Ketchup = ซอสแดง
ขั้นตอนที่5 ถ่ายทอดสดความล้มเหลว
ลง TikTok บันทึกตัวเองกำลังผสมภาษาไทย-อังกฤษเละเทะแบบไม่กลัวขายหน้า ตอนฝึกพูด “She is… wait… no, he is…เฮ้ย!” แล้วลิ้นพันกันจนน้ำลายกระเด็น ปรากฎว่าเพื่อนๆ เอาใจสุดมาก ทุกคนช่วยกันสอนคำศัพท์ใหม่ๆ ในคอมเมนท์ มันคือแรงบันดาลใจชั้นยอด
มาถึงวันนี้ผ่านไปสองเดือน ความสำเร็จที่ใหญ่ที่สุดคือเลิกหนีเมื่อเห็นฝรั่ง แถมพอฟังเพลงสากลทีไรได้ยินคำว่า “Lonely” แปลว่าเหงา เจ้าของเพลงนี่โดนเทมาแน่ๆ! ใครว่าเรียนฟรีไม่มีทางเก่ง ก็ดูเอาเลยว่ายัยบ้านนอกคนนี้ทำได้ยังไง