ลองฮึดสู้แบบมั่วๆ
จำได้ว่าเดือนก่อนเดินเข้าเซเว่นปากซอย แก้มองตากะพริบๆ กะพนักงานต่างชาติ ตอนเค้าถามว่า “Hot or cold?” นี่สมองตันไปสิบวิว เจอแค่คำถามพื้นๆ ยังกุมขมับ เลยตบโต๊ะเฮ้ย! เริ่มวันนี้แหละ ตัวใครตัวมัน
ตอนแรกก็งมเข้าวัดอยู่นะ หยิบหนังสือแกรมมาร์มาพลิกหน้าแรก เห็นตาราง tense เป็นสิบแบบนี่ปวดสมองทันที ปัดไปข้างๆ หันมาส่องคลิปติ๊กต็อกเด็กๆ ฝรั่งเค้าสอนวลีสั้นๆ สไตล์ลูกแม่นก จำง่ายโคตร
- เลิกท่องศัพท์เป็นคำ : จับคู่เป็นกลุ่มเลย เช่น “หิว/อิ่ม/กระหาย” = hungry/full/thirsty เวลาพูดจะได้ไม่สะดุดหาคำ
- เรียนแบบเด็กหัดเดิน : เริ่มจากเลียนแบบเสียงก่อน ไม่ต้องสนสัญลักษณ์เป๊ะๆ เช่น “ฮาวอาร์ยู?” พูดตามความถนัดปากก่อนค่อยปรับ
- จับแพะชนแกะในชีวิตจริง : เดินมาจิบกาแฟร้านเดิมทุกเช้า พูดแค่สามคำ “Small hot, please.” พูดซ้ำจนพนักงานพยักหน้ารู้เลยว่าไม่ต้องรอฟังประโยคยาว
พอสัปดาห์ที่สอง เริ่มบังเอิญเก็บบางทีมางงๆ เวลาแคชเชียร์ถามว่า “Need bag?” พอได้ยินคำว่าแบ็คปุ๊บ สมองกะพริบแว๊บ “Yes, please!” มันฟ้องออกมาเอง รู้สึกเหมือนกดปุ่มออโต้เล่นๆ

สองอาทิตย์ลงไปทดลองซื้อของหน้าโรบินสัน คราวนี้บังคับตัวเองให้ลองถาม “Where is toilet?” พอกองซอยขี้ระแวง พนักงานชี้มือแบบนี้ล่ะ “Go straight!” น้ำเสียงมั่นใจโคตร รู้เลยว่าเราเพิ่งชนะเลเวลโลก!
สรุปปุ๊บบอกเลย : จริงอยู่ที่แกรมมาร์สำคัญแต่อย่าเอามันมารันตอนเริ่ม ฝึกเอาตัวรอดให้ไวก่อน จำพวกประโยคปิ๊งๆ ในชีวิตประจำวันสิบแบบพอ เรียนแบบไม่ต้องซีเรียส บางทียิ่งพยายามเป๊ะ ยิ่งเจ็บหัว หัวเราะใส่ตัวเองเวลาโดนแก้สำเนียงก็ได้ นึกว่าหน้าตาเราไปโผล่ในคลิปตลกติ๊กต็อก
ฝากไว้ก่อนปิดแอพ
อยากให้ลองกะตัวเองแบบนี้ : ถ้าถูกทิ้งให้หลงอยู่ลอนดอนทั้งตัวคนเดียว คำศัพท์สำคัญสุดมีแค่สองอย่าง คือ “Where is…?” กับ “ข้าวข้าว!” จิ๊กสองอย่างนี้ไปก่อน ค่อยลงเรียนแกรมมาร์ทีหลังไม่สาย แค่คีย์ลัดช่วยชีวิตก็อุ่นใจแล้ว!