วันนี้จะมารีวิวให้ดูว่ากูไปเจอวิธีฟรีๆฝึกภาษาอังกฤษพื้นฐานมาไง เดี๋ยวพวกมึงบางคนอาจจะเหมือนกูตอนแรกนั่นแหละ เปิดกูเกิ้ลแหย่คำว่า “เรียนภาษาอังกฤษฟรี” เข้าไป แล้วเจอแต่เว็บแปลกๆบางเว็บขึ้นมาก็จู่ๆให้จ่ายตังค์ บางที่เรียนได้แค่วันแรกก็ต้องเสียเงินแล้ว
เริ่มแรกเลย กูเปิดยูทูปก่อนอะ หาไปเรื่อยเปื่อยด้วยคีย์เวิร์ดพวก “ฝึกพูดภาษาอังกฤษง่ายๆ” เจอคลิปนึงเขาสอนให้ฝึกจากหนังฝรั่ง สนุกดีว่ะ! แต่พอลองพากย์ตามกูกลับพูดไม่ทัน ออกเสียงเพี้ยนไปหมด สมมุติคืนนั้นพยายามเลียนแบบหนังเรื่องนึงอยู่เป็นชั่วโมง พอไปเปิดดิกมาเทียบ ปรากฏว่ากูออกเสียงคำว่า “restaurant” ผิดมาตลอดชีวิต! เนี่ยแหละ เครียดชิบหาย รู้สึกเหมือนคนโง่เลย
พอเถียงกับยูทูปไม่รอด กูก็ไปโหลดแอพพวกเรียนภาษาฟรีมาลองหลายตัวมาก บางแอพมันให้แต่ออกเสียงคำเดี่ยวๆแบบ “apple”, “book” ซ้ำๆน่าเบื่อโคตร บางแอพบทเรียนยากแบบหัวฟัดหัวเหวี่ยงไปเลย ให้จำแกรมมาร์ยาวเป็นพรวน ช่วงนั้นทำทิ้งไว้เต็มมือถือ ไม่ได้ต่อยอดให้พูดจริงๆได้เลยสักแอป
ดราม่าตอนไปเรียนด้วยตัวเองนี่มันส์มาก
จนไปเจอกลุ่มในเฟสกลุ่มนึงนี่แหละ ที่เขามีห้องคุยสไกป์ฟรี! ตื่นเต้นโคตร รีบสมัครเข้าไปเลย ผลคือครั้งแรกกูเขียวยังไม่ทันเปิดไมค์ พอได้ยินฝรั่งสำเนียงแท้ๆพูดเพรียวๆมา กูตัวแข็งทื่อ ตอบไม่ถูก หน้าแดงแบบร้องไห้จะแตกอยู่แล้ว พอพยายามบีบตัวเองให้พูดออกมาจริงๆ มันกลายเป็น “I… eh… food… good!” คืออายจนอยากมุดดินไปเลยพวก!
มาถึงตอนนี้กูแทบท้อซะแล้ว คิดว่าทำไมของฟรีมันยากแบบนี้ฟะ งมอยู่ตั้งสามวันเต็มๆ จนไปสะดุดตากับเว็บๆนึงมันเขียนว่า “ฝึกฟังก่อนพูด” เหมือนได้สวรรค์มาส่งเลยแหะ มันมีบทสนทนาพื้นฐานให้เลือกเป็นตอนๆ แบบสั้นๆ เช่น การทักทาย การสั่งอาหาร
ขั้นตอนที่กูลองจนถนัดมือ:
- เปิดฟังบทสนทนาสั้นๆ 2-3 รอบแรกเฉยๆ ไม่ต้องพยายามจับใจความทุกคำ
- รอบต่อมา พยายามฟังพร้อมดูซับไทยที่เขาแปะไว้ (ซับเขาไม่เป๊ะเวอร์ แต่มันช่วยได้อะ)
- ฟังรอบที่สาม พยายามปิดซับแล้วฟังรวบรวมคำที่จับได้
- สุดท้ายฟังอีกรอบนึงพร้อมพูดตามให้เสียงดังๆเลย คอยดักดูปากบนจอ แล้วลากเสียงตามเจ้าของภาษา มันดูตลกๆตอนกูทำตอนแรกอะ แต่มันเวิร์ก!
สัปดาห์นึงรู้เลยว่าฟังรู้เรื่องมากขึ้น แม้กูจะไม่เก่งแกรมมาร์เล้ย แต่หูเริ่มชิน สำเนียงที่ออกก็เริ่มไม่เหมือนควายควักแล้วว่ะ แถมพอฟังคล่องขึ้น เวลาไปเจอห้องสไกป์แจกฟรีอีกที กูก็ไม่หน้าแข็งเหมือนก่อน มันกล้าอ้าปากแล้วนะ แม้ว่าจะตอบสั้นๆแค่ “Yes”, “No”, “I think… maybe…” ก็ตามเถอะ แต่รู้สึกเหมือนตัวเองไม่เป็นภาระเขาแล้วอะ
สรุปแบบกูทำจริงแล้วรอด:
- อย่าเพิ่งรีบพูดถ้ายังฟังไม่ออก มันจะทำให้ท้อเร็ว
- ของฟรีดีมีจริง แค่ต้องคัดกรองเองหนักหน่อย เน้นที่ให้ฟังบทสนทนาสั้นๆ
- การลอกเลียนแบบการออกเสียงที่ดังและชัดจากเขา มันช่วยได้มากกว่าการนั่งท่องแกรมมาร์เยอะ
- กล้าตะโกนออกเสียงเถอะ แม้ตอนแรกมันฟังดูงี่เง่าก็ตาม!
ตอนนี้ภาษาอังกฤษของกูก็ยังไม่เทพหรอกนะ แต่ไม่ใช่ศูนย์แล้วละ เดี๋ยวจะมาอัพเดทวิธีใหม่ที่ไปเจออีก ติดตามเอาครับ!