เมื่อฉันตัดสินใจเรียนภาษาเกาหลีพื้นฐาน เพราะอยากไปเที่ยวเกาหลีโดยไม่ต้องเสียเงิน ไม่รู้อะไรเลยตอนแรก ฉันเลยหาแอปฟรีในมือถือมาลองก่อน เริ่มต้นง่าย ๆ จากแอปพื้นฐานที่สอนคำศัพท์และประโยคง่าย ๆ
วันแรก ๆ ฉันเปิดแอปขึ้นมา เรียนวันละ 10 นาทีตอนเช้า ก่อนทำงาน ท่องคำศัพท์ง่าย ๆ เช่น อันยอง (สวัสดี), คัมซาฮัมนีดา (ขอบคุณ) แต่เจอปัญหาทันที ออกเสียงไม่ชัดเลย คล้ายเสียงอะไรแปลก ๆ มันยากเพราะภาษาเกาหลีมีเสียงพิเศษที่ไทยไม่มี
ขั้นตอนการเอาตัวรอด
ฉันปรับเทคนิคใหม่ เลิกเรียนแบบนั้งท่องเฉย ๆ ลุกขึ้นมา ทำปากตามวิดีโอสอนฟรีในยูทูป พูดเหมือนเด็ก ๆ ตอนฝึก เดี๋ยวกดวิดีโอซ้ำเดี๋ยวฟังเสียงตัวเองแก้ไข ตัวอย่างที่ลองทำคือการออกเสียง “อา” หรือ “อู” ให้แรงขึ้น ผ่านไปสองสามวัน เริ่มคล่องขึ้นหน่อย ไม่กลัวพูดผิดแล้ว

- เทคนิคแรก: เรียนวันละน้อย ๆ ประมาณ 15 นาที ไม่ต้องอัดจนเมึอ
- เทคนิคสอง: ดูหนังเกาหลีธรรมดาแบบซับไทย แทนการเรียน เพราะมันสนุกดี แล้วก็พูดตามตัวละคร
- เทคนิคสาม: เขียนคำศัพท์บนกระดาษแปะไว้ในห้องน้ำ อ่านตอนแปรงฟัน
ผลลัพธ์ที่ได้
หลังจากผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ ฉันจับคำศัพท์เบื้องต้นได้สักสิบกว่าคำ เข้าใจประโยคง่าย ๆ เช่น จัชแมนเซโย (ชื่ออะไร) ตอบได้เลยว่า อิรึมเน เจโน ยึงอู อิเยโย (ชื่อฉันคือยองวู) มันรู้สึกดีมาก เหมือนเปิดโลกใหม่
แต่ทำไมถึงเร็วนะ มีเหตุผลอยู่ เรื่องมันยาวนิดนึง เมื่อปีที่แล้ว ฉันไปงานแต่งงานที่กรุงเทพฯ เจอเพื่อนเก่าทำงานในโรงแรม เขาใช้ภาษาเกาหลีเก่งมาก แถมบอกว่ามันไม่จำเป็นต้องจ้างครูแพง ๆ นี่เป็นจุดเปลี่ยน ฉันเลยตั้งใจจริงแบบนี้ ตอนแรกมันดูท้อแท้ พอฝึกไปสักเดือน ไม่ต้องพึ่งพาใครเลย คุยกับคนเกาหลีในร้านอาหารใกล้บ้านได้บ้าง เดี๋ยวนี้ก็ยังเรียนต่อเรื่อย ๆ ไม่ต้องยุ่งยาก