ก็คือเล่าสู่กันฟังเรื่องเราลองเรียนภาษาอังกฤษภายในหนึ่งเดือนนี่แหละ ฟังบนยูทูบแล้วมันบอกว่าทำได้ง่ายๆ ปิ๊งเลยคิดว่าเออว่ะลองสักตั้ง
อาทิตย์แรก : ชาติก่อนหน้าเห็นทีจะเป็นนกพิราบ
เริ่มต้นวันแรกนี่ฮึดมากนะ ตื่นหกโมงเช้า ฟิตจัด แพลนเขียนเป็นตารางสีรุ้ง ไว้ว่า :
- 6.00-7.00 : ท่องศัพท์ 20 คำ (สมองยังสดอยู่!)
- 7.00-8.00 : ดูคลิปแกรมม่าร์ง่ายๆ ยูทูป (กินข้าวไปด้วย)
- เย็นๆ อีกสองชั่วโมงทบทวน
โอ้วแม่เจ้า… วันที่สองรู้สึกเหมือนชาติที่แล้วตื่นมาทำไมแบบนี้ ฟังแกรมมาร์แค่สิบนาที มันไหลไปกับข้าวเช้าแล้วว จุดพลิกคือตอนนั่งท่องศัพท์ “Procrastination” (การผัดวันประกันพรุ่ง) เนี่ยแหละ ท่องอยู่สิบห้านาทีไม่เข้าหัวเลย รู้สึกตัวอีกทีกำลังเล่นเกมมือถืออยู่เฉยๆ นั่นไง! คำมันเป็นจริงโดยไม่รู้ตัว!

อาทิตย์สอง : โยนทุกอย่างใส่มัน!!
แพลนแรกพังไม่เป็นท่า เลยตะบันดาวน์โหลดแอปฯ มาเพียบ ไหนภาษาบ้าง ไหนทอล์คกับหุ่นยนต์บ้าง แอปฝรั่งก็โหลด แอปจีนทำมาให้คนไทยก็ไม่เว้น ตื่นมา ต้องเปิดแอปฯ สามสี่ตัวก่อนแปรงฟัน เช้าวันที่สี่นี่มือถือรวน! แรมเต็ม! แอปฯ ค้างตายห่า! มันถามศัพท์แค่ “Apple” เรายังกดไม่ถูกนะเฟร้ย! พอดีเจอเพื่อน ชวนคุยภาษาอังกฤษนิดนึง แปปเดียวคำมันหายไปจากหัวหมด พูดได้แค่ “I…uh… hungry…rice…” เพื่อนมันยิ้มแบบเห็นใจแล้วเปลี่ยนเป็นภาษาไทยเลยอ่ะ น้ำตาตกใน.
สุดท้ายอาทิตย์นี้ทิ้งหมด เหลือแอปฯ สองตัวที่แอบรู้สึกเกลียดน้อยสุด พรุ่งนี้อาจจะลบ!
อาทิตย์สาม : สมองมันเปิดตำราแล้วมันปิดเองอะ!
หันไปลงคอร์สออนไลน์ฟรี เขาบอก “30 วันพูดคล่อง!” เปิดคลิปแรกอาจารย์สอนดีมาก น้ำเสียงเพราะ นั่งจดตามทั้งหน้า รู้สึกมีไฟอีกครั้ง! พอคลิปสอง… จดอยู่ดีๆ มันเผลอไปดูช่องข้างๆ ที่อัพคลิปตลก แปปเดียวครึ่งชั่วโมงหาย! บางทีนั่งเรียนดีๆ ก็ว้าวุ่น สมองถามขึ้นมาเฉยๆ “เย็นนี้กินไรดี?” หรือไม่ก็รู้สึกรำคาญเสียงครูพูดแทรกตอนที่กำลังคิดเรื่องกะเพราไก่ไข่ดาวแบบด่วนๆ! หยุดคลิปมานั่งคิดเลยว่า ทำไมสมองเราขี้เกียจจังวะ?
อาทิตย์สุดท้าย : เป็นปลาตีนอยู่ดีๆ ให้ปีนเขา
อาทิตย์สุดท้ายนี่แทบบ้า รู้สึกท้อมากแต่ก็ยังดันทุรัง เปิด Netflix ดูหนังฝรั่งซับไทย บังคับตัวเองไม่ให้อ่านซับ ให้ฟังเสียงล้วนๆ ผลคือ… 30 นาทีแรกเข้าใจเป็นคำๆ เช่น “Hi” “No” “Run!” อีก 15 นาทีหลัง หลับคาโซฟาไม่รู้ตัว พอตื่นมาก็หนังจบไปแล้ว เนื้อหาหน้าหน้าอะไรไม่เห็นรู้เรื่องทั้งสิ้น! ทดลองพูดหน้ากระจกเหมือนที่ยูทูบบอก ประโยคแรกที่ฝึกคือ “Hello, my name is…” พอได้ที่ ก็ลิ้นพันกันทันที “Halo…my…nee…meee…” น้ำเสียงตัวเองเหมือนถูกจับกรอกน้ำอัดลม! หน้าแดง เลยเปลี่ยนไปท่อง “I like cat” ดีกว่า น้ำตาแทบไหล แมวยังไม่ยอมฟังเราเลยเน้อ!
สรุปปะ? ได้ผลมะ?
ถามว่าภาษาพุ่งปรี๊ดในหนึ่งเดือนมั้ย? พุ่งจริง! พุ่งลงเหว! เป้าหมายแรกอยากฟังเก่ง→ความจริงคือฟังเป๊ะเว่อร์ แค่ได้ยินว่าเขาถามเราหรือไม่ก็ยังแยกไม่ออก! อยากพูดคล่อง→เหมือนให้ปลาตีนปีนเขา ลืมภาษาแม่กลางประโยคเป็นว่าเล่น! แต่ที่ได้มาก็มี:
- รู้ว่าเราท่องศัพท์ไม่ได้ในห้องแอร์ : ต้องเดินไปมาหรือนั่งตากลม
- รู้ว่าแกรมมาร์น่ากลัวน้อยลงถ้าค่อยๆ หัดจากประโยคที่ใช้จริง
- รู้ว่า “Procrastination” เป็นคำที่เราจำแม่นมาก เพราะมันคือตัวเรา!
สรุปสั้นๆ จากที่คิดว่า 30 วันจะเทพกลับกลายเป็นเอาแค่ไม่ท้อ 30 วันก็เก่งแล้วว่ะ! ไปต่อเดือนสองแบบชิลล์ๆ ค่อยเป็นค่อยไปจะดีกว่า ไม่เอาเปเปอร์มาเผาเป้าแบบนี้แล้วมันเครียด! จริงมะ?