อ้าว! วันนี้จะมาบันทึกการฝึกภาษาอังกฤษของตัวเองให้ดู เผื่อใครอยากลองทำตาม ไม่ต้องเสียตังค์เป็นหมื่นเหมือนเมื่อก่อน
เริ่มจากความกลัว
นึกย้อนไปเมื่อเดือนที่แล้ว แค่เห็นฝรั่งเดินผ่านร้านก็รีบก้มหน้าแล้ว ซื้อคอร์สเรียนออนไลน์มากองไว้แต่ไม่เคยเปิดสักที พอหัวหน้าโยนงานต้องคุยอีเมลล์กับต่างประเทศมาให้ ตอนนั้นหน้าแทบร้อนจัด
ตัดสินใจฉีกสัญญาคอร์สแพงๆ

คว้าโทรศัพท์ขึ้นมา ลบคอร์สเรียนในแอปทิ้งให้หมด มันสอนแต่อะไรไม่รู้ยากเวอร์ แถมไม่เคยได้ใช้จริงสักที หันไปงัดสมุดเก่าของลูกชายข้างโต๊ะมาใช้แทน นั่นแหละอาวุธ
5 ขั้นตอนที่โละทิ้งตำรา
- ขั้น 1 : จดคำที่เห็นทุกวัน เช้าขี่มอไซค์ผ่านป้ายรถเมล์เห็นคำว่า “BUS STOP” ก็รีบจอดข้างทาง กวาดผงฝุ่นออกแล้วถ่ายรูปเก็บไว้ แม่งลืมง่ายกว่าเงินหายอีก
- ขั้น 2 : แปะไว้ที่ของใช้ กลับถึงบ้านก็คว้าปากกาเน้นข้อความ (ที่หมดอายุไปแล้ว) เขียน “SOFA” ทิ่มโปะลงไปบนโซฟาเก่าๆ เลี้ยงหล่อนมาสิบปีเพิ่งรู้ชื่อเค้า แค่สัปดาห์เดียวห้องนั่งเล่นเหมือนโดนปาหมัด
- ขั้น 3 : พูดกับตัวเองในกระจก ลืมแกรมม่าทั้งเพ ตอนโกนหนวดก็ถามกระจกไปเรื่อย “Do you want coffee?”…มันคงคิดว่าบ้านนี้มีบ้าเพิ่มอีกคน พอได้ยินตัวเองพูดมันขำแตก แถมติดปากแปลกๆ
- ขั้น 4 : ทวงคืนจากหนัง ไม่ดู Avengers แล้ว ไปฟั่วมนุษย์ดึกดำบรรพ์อย่างครอคฯแทน กดหยุดทุกสิบวินาทีตะโกนตามตัวละคร ไม่รู้ฟังออกไหมแต่เสียงมันส์กว่าแน่นอน
- ขั้น 5 : ยัดข้อความสั้นๆในไลน์ พิมพ์คุยกับลูกน้องแบบชาวบ้านช่อง ต่อยอดจากคำที่แปะทั่วบ้าน ตอนแรกพวกเค้าถามกลับว่า “พี่โดนแฮกป่าว?” สองอาทิตย์ผ่านไปเริ่มมีคนส่ง “Good idea!” กลับมา นี่คือชัยชนะครั้งใหญ่!
วันนี้ยืนได้ด้วยขาตัวเอง
ผ่านไปสามเดือน ป้ายโปะยังติดอยู่ครบ แต่กระดาษเริ่มกรอบไปตามวัย ลูกชายเดินมาจิ้มถามว่า “Sofa อ่านว่าอะไร?” นั่นแหละที่เรียนไปไม่เสียเปล่า…
สรุปสั้นๆให้จบ: เริ่มจากคำใกล้ตัว แปะให้เห็นชัดเจน พูดกับตัวเองจนติด ค่อยๆเก็บจากสิ่งที่ชอบ อย่าไปสนใจหนังสือหน้าตาดีๆ แค่สมุดเก่ายับๆเล่มเดียวมันก็เปลี่ยนชีวิตแล้ว