ตัดสินใจลองฝึกพูดภาษาอังกฤษแบบเร่งด่วน!
เมื่ออาทิตย์ก่อนนั่งดูคลิปฝรั่งแล้วรู้สึกว่าตัวเองฟังรู้เรื่องนะ แต่พอยากจะพูดอะไรออกไปนี่มันติดขัดโคตร! เลยตั้งเป้าเด็ดขาดว่าต้องพูดให้คล่องขึ้นภายใน 1 เดือนให้ได้ ไม่เอาเยอะ แค่ประโยคพื้นฐานในชีวิตประจำวันก็พอ
ขั้นแรกเริ่มจากของใกล้ตัวก่อนเลย เปิดสมาร์ทโฟนขึ้นมา เปิดแอพฟังเพลงฝรั่งที่ชอบประจำ ไม่ได้ตั้งใจฟังเนื้อร้องมาก่อน นี่ตั้งใจฟังจริงจัง ฟังแล้วพยายามฮัมตาม ทำนองมันติดหูอยู่แล้ว พอจับคำไหนได้ก็พยายามเลียนเสียงพูดให้เหมือนมากที่สุด ลองพูดคำเดิมซ้ำๆจนลิ้นเริ่มพัน
- เลือกใช้เวลาตอนอาบน้ำฝึก! มันเป็นเวลาส่วนตัว ไม่มีใครได้ยินได้เห็น แถมเสียงน้ำยังกลบเสียงเราได้ด้วย ตะโกนใส่ฝาห้องน้ำเลย ว่าขั้นตอนการอาบน้ำเป็นภาษาอังกฤษ “Turn on the water! Get the soap! Rinse off!” แรกๆรู้สึกโง่ๆนะ แต่ทำไปซักพักมันก็เริ่มสนุก กล้าๆขึ้นมา
- ฝึกกับกระจกเงาในห้องนอน หันไปเจอหน้าตัวเองในกระจกแล้วเริ่ม “Hello! How are you?” แล้วก็ตอบเอง “I’m fine, thank you!” อารมณ์เหมือนเล่นละครคนเดียว นึกภาพว่ากำลังคุยกับใครสักคน ทำหน้าท่าทางประกอบ พยายามยิ้มให้ดูธรรมชาติ พูดไปสักพักลิ้นเริ่มคล่องขึ้นนิดนึง แต่พูดไปน้ำลายก็กระเด็นไปเต็มกระจก 555+
- เอาประโยคที่พูดบ่อยในชีวิตมาแปลงร่าง เวลาจะบอกแฟนว่า “เดี๋ยวไปกินข้าวนะ” ก็พยายามบีบสมองคิดเป็นภาษาอังกฤษในหัว “I’m going to eat now.” พอจะขึ้นรถเมล์ก็บ่นในใจ “I need to catch the bus.” มันคือการฝังภาษาอังกฤษเข้าไปในกิจวัตรง่ายๆ แรกๆนึกช้ามาก พอทำบ่อยเข้าค่อยๆเร็วยิ่งขึ้น
เจอปัญหาคือ ตอนฝึกพูดกับกระจก รู้สึกว่าตัวเองพูดดี๊ดีแล้ว พอเจอเพื่อนฝรั่งจริงๆ ตอนไปซื้อของที่ตลาดนัดวันเสาร์ ลิ้นแข็งทื่อเลย! “I… want… this… please.” พูดตะกุกตะกัก ตาลีตาเหลือก แทบจะชี้ให้ดูเลยว่าอยากได้อะไร บรรลัยพอควร รู้เลยว่าต้องเปลี่ยนวิธี ถ้าอยู่คนเดียวตลอดมันไม่พอ
ปรับแผน ต้องเจอคนจริง!
เลยลงแรงเดินทางไปฝั่งถนนข้าวสาร วันหยุดนี้แหละ ฟันธง! ไม่ได้ไปเที่ยว แต่ไปหาโอกาสตะกายพูดกับนักท่องเที่ยว
- ตั้งหลักตรงร้านขายน้ำปั่น รอคิว พอเห็นนักท่องเที่ยวเดินมาใกล้ สูดหายใจลึกๆ แล้วเริ่มทัก “Hello! Cold drink? Good for hot day!” ร้านนี้ขายน้ำปั่นน่าดื่มอยู่แล้ว เสริมเข้าไปหน่อย ตื่นเต้นมาก แต่ก็พยายามยิ้มไว้ก่อน
- ฟังเขาโต้ตอบ นักท่องเที่ยวบางคนยิ้มแล้วสั่งน้ำปั่นสตอเบอร์รี่ บางคนก็แค่พยักหน้าแล้วเดินหนีไปเลย ก็ไม่เป็นไร นับว่าฝึกได้ แค่เปิดปากทักก็ดีขึ้นกว่าเก่าแล้ว
- กล้าๆเข้าไปช่วยทันที เห็นกลุ่มทัวร์พม่ายืนงงๆไม่รู้จะถ่ายรูปที่ไหนสวย เดินตรงเข้าไปเลย “Photo? I can help.” แล้วก็ชี้ไปตรงจุดถ่ายรูปสวยๆในตลาด ไม่ต้องใช้คำศัพท์ยาก พอเขาเข้าใจแล้วยิ้มขอบคุณ รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาเลย
การออกไปเจอคนจริงๆโหดกว่าฝึกหน้ากระจกเป็นร้อยเท่า! ตอนแรกเสียงสั่น ตาลาย แต่พอยิ่งทำยิ่งคุ้น เจอคนหลายคนจนวันนั้น เจ็บคอไปสามวันเพราะพูดเยอะไป แต่คุ้มค่ามาก!
วันนี้ฝึกครบหนึ่งอาทิตย์ผลลัพธ์เป็นไง?
เริ่มเป็นธรรมชาติขึ้นมาหน่อย ตอนนั่งรถเมล์ พนักงานขับดันถามทางเป็นภาษาอังกฤษได้! ไม่ต้องรอคิดนาน สามารถบอกทางสั้นๆไปยังป้ายที่เขาอยากรู้ได้ “Go straight, then turn left.” พูดออกไปเองโดยอัตโนมัติ! พนักงานเขายิ้มขอบคุณ รู้สึกดีจนอยากบอกรถเมล์คันนั้นให้ฟังไปทั่ว 5555
เคล็ดลับที่ได้ใจที่สุดคือ:
- เริ่มจากสิ่งที่เราทำ/เห็น/ใช้อยู่ทุกวันก่อน อย่าเพิ่งไปยึดตำรา มันใกล้ตัวและจำง่ายกว่า
- ฝึกพูดแบบออกเสียงจริงหน้ากระจกช่วยได้มาก แม้จะรู้สึกโง่ก็เถอะ ทำซะ! มันช่วยเรื่อง Confidence
- ห้ามกลัวขายหน้า! ออกไปเจอคนจริงๆที่เค้าพูดจริง มันจะได้สกิลการฟังและพูดโต้ตอบที่รวดเร็ว ทักษะนี้ฝึกในห้องอย่างเดียวมันไม่เวิร์ค
- ผิดถูกช่างมัน! จุดสำคัญคือเราต้องกล้าพูดออกไปก่อน ความถูกต้องค่อยๆปรับทีหลังได้ ถ้ายังไม่พูดก็ไม่มีทางเก่งขึ้น
แม้ว่าจะยังพูดไม่เป๊ะ ไม่คล่องเท่าคนที่เรียนมาแบบจริงจัง แต่สำหรับระยะเวลาหนึ่งอาทิตย์ รู้สึกว่าตัวเองกล้าเปิดปากพูดโต้ตอบกับคนอื่นเป็นภาษาอังกฤษได้ขึ้นเยอะเลย ไม่ติดขัดเหมือนเก่า อารมณ์เหมือนขูดสนิมออกจากปาก 5555 เดือนหน้าตั้งใจว่าจะไปลองสั่งอาหารหรือถามทางให้บ่อยขึ้น! ไม่รีบ แค่ค่อยๆฝนไปเรื่อยๆ